top of page
ค้นหา

"พระอาจารย์โชติ ปภัสโร"เกจิดังอีสานใต้ วัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม จ.ศรีสะเกษ ศิษย์พุทธาคม"หลวงปู่คำบุ-ญาท่านเขียน"

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 4 มิ.ย. 2567
  • ยาว 2 นาที

"พระอาจารย์โชติ ปภัสโร"เกจิดังอีสานใต้

วัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม จ.ศรีสะเกษ

ศิษย์พุทธาคม"หลวงปู่คำบุ-ญาท่านเขียน"

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ขอนำเสนอประวัติพระดีเกจิดังแห่งอีสานใต้!พระครูวินัยธรศักดิ์มนตรี ปภัสโร หรือพระอาจารย์โชติ หรือที่เรียกขานกันว่า"หลวงปู่โชติ" เจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม บ้านหนองแคน ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู และหลวงปู่ญาท่านเขียน ปุญญกาโม

สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านโพนสิม และสืบสายวิชาอาคมจากฆราวาสขมังเวทย์หลายท่าน

ท่านมีชื่อเดิมว่า "นายศักดิ์มนตรี" เกิดที่บ้านเพือยพุ่ม อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2516 เวลา 01.09 น. เป็นลูกคนที่ 4 ของพ่ออ่อนสี และแม่ที นามสกุล"งามวิลัย"

คืนที่ท่านเกิดพระจันทร์เต็มดวง 15 ค่ำเดือน 10 ดอกราตรีกลิ่นหอมคุ้งไปทั้งบ้าน พ่อเลยตั้งชื่อให้ว่า "ด.ช. ราตรี"

ต่อมาเรียนจบชั้นประถม6ได้เข้าทำงานในกรุงเทพฯ ได้ค่าแรงวันละ 50 บาท ทำงานอยู่2 ปีก็ลาออกมาเป็นพ่อค้าอยู่ที่ตลาดอยู่เจริญ แยกอสมท. รัชดาภิเษก ใช้ชีวิตอิสระเพราะไม่ชอบอยู่ใต้คำสั่งใคร โดยทำงานทุกอย่างที่ถูกกฏหมาย แม้กระทั่งขับวินมอเตอไซค์ เมื่ออายุ 15 ปีโยมพ่อได้ครอบครูด้านวิชาอาคมให้ ท่านขอเรียนด้านมนต์เสน่ห์เชื่อว่าเมื่อมีเสน่ห์แล้วก็จะไม่ฆ่ากัน เพราะเห็นพ่อเรียนด้านมหาอุตแล้วทำนาไม่ได้กินข้าว

สมัยเข้ากรุงใหม่ๆ พี่สาวให้ไปเข้าแถวรับของบริจาคข้าวสารที่เฮียป.ประตูน้ำแจกทานให้คนเข้าแถวรอยาวกว่า 3 ก.ม. ท่านเดินกลับบ้าน โดยไม่มีของติดมือกลับมา พี่สาวถามว่าทำไมไม่ไปรับ ท่านตอบว่า "เห็นคนอื่นเขาลำบากมีคนแก่ด้วย สงสารเขาเลยไม่เอา ถ้าพี่อยากได้ข้าว ฉันจะกลับบ้านไปเอามาให้นะ สีมาเป็นกระสอบเลย" พี่สาวเลยบอกว่า มาอยู่กรุงเทพฯต้องสู้ชีวิต อะไรที่พอได้ต้องเอา มันหากินลำบากไม่เหมือนบ้านเรา

วันหนึ่งเจ้านายทำงานรถไฟ ให้ไปทำงานที่บ้านและพาไปบวชที่จังหวัดเพชรบุรีกับหลวงพ่อน้อย วัดโพธิทัยมณี บวชถวายพระราชกุศลสมเด็จย่า

สมัยยังไม่บวช ท่านใช้ชีวิตโลดโผนบนถนนรัชดา จนมีคนขนานนามว่า "จ้าวรัชดา" ถึงอย่างไรก็ยังคงเป็นคนพูดตรง คบคนจริงใจ ใช้ชีวิตบนความถูกต้องมาตลอด สู้ทุกอย่างถ้าไม่ผิด เคารพนอบน้อมผู้ใหญ่ จนหลายคนมองดูว่าเป็นเด็กไม่มีอะไร ความโดดเด่นตอนเป็นฆราวาส ปัญหาคนอื่นแก้ไม่ได้พระอาจารย์โชติมักแก้ได้เสมอ และจะรอดพ้นจากการถูกรุมทำร้ายอยู่บ่อยๆ

มีหลายคนถามว่า "มึงมีอะไรดี" จ้าวรัชดาคนนั้นจะบอกว่า มีพระคุณพ่อกับแม่และครู รอยเท้าพ่อที่ประทับไว้บนผ้าขาว ชายผ้าถุงแม่ ที่คาดเอวไว้ไม่เคยห่าง หลายอย่างที่เกิดคือความเชื่อมั่นถือมั่น พระอาจารย์โชติได้กล่าวไว้กับเพื่อนเมื่อสมัยใช้ชีวิตฆราวาส​

ต่อมาท่านได้เข้าอุปสมบทที่วัดคลองบุญ ต.น้ำเต้า อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยมี พระสุวรรณสีลาจารย์(เจ้าคุณเสงี่ยม) วัดสุวรรณเจดีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชแล้วพระอาจารย์โชติก็ยังไม่หยุดที่จะศึกษาร่ำเรียนวิชาอาคม โดยถือเอาพระครูกิติวัชราภรณ์ หรือ"หลวงพ่อน้อย วัดโพธิ์ทัยมณี" เป็นครูองค์แรกที่สอนวิชาอาคม

ต่อมาก็หลวงพ่อบุดดา ถาวโร จ.สิงห์บุรี ,พระอาจารย์ไว วัดอุทัยธาราม(บางกะปิ) หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม,หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี,หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกด(เรียนวิชาเพิกสิ่งไม่ดี) หลวงพ่อสุวรรณ วัดยาง จ.อ่างทอง,หลวงปู่หงษ์ จ.สุรินทร์,หลวงปู่คีย์ วัดศรีลำยอง, หลวงปู่ผาด วัดไร่,หลวงปู่เฮือง ปรางกู่ หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู, หลวงปู่หมี ปัญญาธโร อ.เดช อุดม,ญาครูน้อย วัดหลวงปู่คำบุ2,หลวงปู่อุดมทรัพย์ (จ่อย)สิริคุตโต จ.ศรีสะเกษ ท่านเป็นผู้รับพระอาจารย์โชติเป็นลูกชายและเป็นผู้ให้

สิทธิ์พระอาจารย์โชตินั่งปรกครั้งแรก ณ วัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา,หลวงปู่ญาท่านเขียน ปุญญกาโม เขื่องใน ,หลวงปู่รวย วัดส้มป่อยน้อย พระอาจารย์เมี่ยง วัดทางสาย,หลวงปู่เณร แก้วคัมภีโร จ.ร้อยเอ็ด พระอาจารย์แว่น วัดป่าบ้านโคกกลาง จ.กาฬสินธุ์ และอีกหลายท่าน

สำหรับครูอาจารย์ที่เป็นฆราวาส อาทิ พ่ออ่อนสี งามวิลัย, พ่อบุญช่วย วัดบางกะปิ,พ่อรอด สุขแสงจันทร์ ปัฐวิกรณ์, อาจารย์พ่อครูชิน จ.สิงห์บุรี,พ่อครูเส่งหมอกระดูกมือเปล่า อ.กันทรารมย์,พ่อสีดวนใหญ่ พ่อครูปา อ.ขุขันธุ์,พ่อครูสีหมอเส้นเอ็นแจรแม,พ่อน้อยส้มป่อย จ.ศรีสะเกษ,ปู่ครูดำ บ้านสวน, อาจารย์เอกบ้านครูธรรมจตุฤทธิ์ ร้อยเอ็ด

อาจารย์กร อ.วารินชำราบ อุบลฯ, อาจารย์ เบ็นซ์ 19แรงครู จ.กำแพงเพชร,แม่ครูโอ๋ หมอรักษากระดูกทับเส้น จ.กาฬสินธุ์,หมอต้อมหมอจัดกระดูก หมอปุ้ย จ.ลพบุรี,พระอาจารย์ประมูลวัดบ้านแวง,อาจารย์กร วาริน(ผู้สอนวิชาขอบารมีหยุดฝน) อาจารย์พ่อน้อยเหยียบไฟ บ้านส้มป่อยน้อย,อาจารย์ปู่ดำ แก่งสะพือ,อาจารย์ฤๅษีเอก (ผู้ถ่ายทอดวิชาธรรม)อาจารย์ฤๅษีพรหม,พ่อครูเส่ง (ผู้ถ่ายทอดวิชารักษากระดูก)

พระอาจารย์โชติได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ที่กล่าวมาทั้งหมด แล้วถอดเอาแต่ละแขนงที่เข้ากับตัวเองเพื่อนำมาใช้ช่วยเหลือผู้คน โดยท่านยึดหลักการว่า มิใช่ก้มกราบยกดอกไม้ถ่ายรูป แล้วถือว่าเป็นครู แต่ต้องได้จับได้จารเรียนวิชาเอกอย่างน้อยหนึ่งแขนงจึงถือว่าเป็นครู

สำหรับวัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม ก่อตั้งวางศิลาฤกษ์สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 พค 2555

ขึ้น 15 ค่ำเดือน6 ปีมะโรง บนพื้นที่ 6 ไร่ได้รับการถวายที่ดินเป็นพุทธบูชาในปีพุทธชยันตี จากคุณยายสมบูรณ์ บุญอินทร์ คุณพ่อสุรัตน์-คุณแม่ทองสี วงรักษ์ พร้อมครอบครัว

โดยพระอาจารย์โชติรับถวายและตั้งเป็น

สำนักสงฆ์สวนพุทธธรรมนำไทยพาใจเป็นสุข ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ท่านใช้เวลาสร้าง4ปีครึ่งจึงได้รับประกาศเป็นวัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม เมื่อวันที่ 21ต.ค. 2559 หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมพู อุบลราชธานี เจ้าภาพวางศิลาฤกษ์ และหลวงปู่เขียน ปุญญกาโม สำนักสงฆ์บ้านโพนสิม อ.เขื่องใน เป็นเจ้าภาพสร้างอุโบสถ

วัดศรีสมบูรณ์รัตนารามได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2563 สังกัดมหานิกาย นับเป็นวัดสุดท้ายของรัชกาลที่9 พระอาจารย์โชติเป็นเจ้าอาวาสวัดองค์แรกและเป็นเจ้าอาวาสในการแต่งตั้งรอบแรกในสมัยรัชกาลที่ 10

ในโอกาสครบรอบ 11 ปีวัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม จะมีพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง คณะสงฆ์ 54 รูปในวันที่ 11 มิ.ย.67 เวลา 11.00 น.และในเวลา 12.24 น.จะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลโชคดี "หลวงปู่โชติ รุ่น โชคดี ทันใจ" โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังประกอบด้วยหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา จ.กาฬสินธุ์ หลวงปู่เวิน คุเณสโก วัดบูรพาโคกเครือ จ.กาฬสินธุ์ หลวงปู่อุดมทรัพย์ สิริคุตโต วัดเวฬุวันธรรมาราม จ.ศรีสะเกษ หลวงปู่รวย ปริสุทโธ วัดส้มป่อยน้อย จ.ศรีสะเกษ และหลวงปู่โชติ ปภัสโร วัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม จ.ศรีสะเกษ



 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page