top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนอ.อนุชา ทรงศิริ

พึ่งบารมี“พระเจ้าตาก”ขจัดโรคค้าขายร่ำรวย







แดง เอกคัมภีร์ บุกที่ว่าการอ.บางใหญ่ สู้วิกฤติเศรษฐกิจภัยโรคร้ายโควิด19 เคยขอแล้วได้ผล-ค้าขายดีเหลือเชื่อ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานจาก ที่ว่าการอำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรี นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ ได้เดินตรวจตราความเรียบร้อยบริเวณลานอนุสาวรีย์พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งในขณะที่คุณแดง เอกคัมภีร์ เจ้าของร้านเอกคัมภีร์ และนายอนุชา ทรงศิริ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ได้มาประกอบพิธีขอขมาบวงสรวงสังเวยพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากเคยมาจัดพิธีแล้ว ขอเรื่องการค้าขายได้สมดั่งใจปรารถนา

ทางด้าน นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ เป็นชาวเมืองนครศรีธรรมราช โดยกำเนิด มาเติบโดยด้านหน้าที่การงานที่เมืองนนทบุรี ชื่อชอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในคอห้อยสิงห์งาแกะหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์ เหรียญพ่อท่านคล้าย และเหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ได้เมตตาสนทนาพูดคุยและบอกถึง พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้จัดงาน เฉลิมฉลองในการอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งนำมาประดิษฐาน ณ ที่ว่าการอำเภอบางใหญ่ วัตถุประสงค์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้ทรงกู้บ้านสร้างเมือง ป้องกันรักษาแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลานได้อยู่กินด้วยความสมบูรณ์ มีอิสรภาพ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีในฐานะประเทศเอกราชอันยาวนานจวบจนทุกวันนี้ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนมีความสามัคคี รักชาติ และพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อเป็นสถานที่ศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวอำเภอบางใหญ่

“พิธีอัญเชิญพระเจ้าตากสินมหาราช มายังแท่นประทับใหม่ที่หน้าอำเภอเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้เข้าถึงประวัติศาสตร์ และพระบารมีของพระองค์ท่าน สำหรับผู้ที่มาขอพร จุดธูปบูชา 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชา “โอม สิโน ราชาเทวะ ชะยะตุภะวัง สัพพะศัตรู วินาสสันติ”

สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีผู้คนแวะเวียนไปสักการะขอพร จากปาฏิหาริย์กระแสศรัทธาที่เกิดขึ้น สมหวัง ได้จริงแบบที่ตั้งใจเอาไว้ ก็ต้องแก้บนกันไปตามถ้อยคำแห่งสัจจะวาจา

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้ เอกราชจากพม่าเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พระองค์ไม่เพียงจะได้รับการเทิดทูนอย่างสูงจากชนชาวไทยในฐานะพระมหากษัตริย์นักรบเท่านั้น พระองค์ยังเป็นที่พึ่งทางใจของคนทั่วไป ด้วยความเชื่อว่าบารมีแห่งพระองค์ท่านจะช่วยให้ประสบ ความสำเร็จในเรื่องการค้าขาย การเรียน การงาน หนี้สินจากการค้าขาย ว่ากันว่า การบนขอให้ปลดหนี้สินภาระเงินทองเพิ่งจะมีในยุคหลังๆมานี้เอง โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่ในปัจจุบัน และปัญหาโรคร้ายโควิด19 ระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้

ปัจจุบันมีผู้คนเป็นหนี้เป็นสินกันมาก สิ่งที่จะหันไปพึ่งได้ เป็นที่พึ่งทางใจก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เชื่อศรัทธากันอย่างมากว่า “สมเด็จพระเจ้าตากฯ” ท่านจะช่วยในเรื่องหนี้สินได้อย่างมาก เนื่องด้วยในอดีตแต่โบราณเคยเป็นหนี้เป็นสินประเทศจีน จึงทำให้พระองค์เข้าใจหัวอกคนเป็นหนี้

ปีพ.ศ.2497 รัฐบาลไทยสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า ตัดสิน ใจสร้าง “อนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ประดิษฐาน ณ วงเวียนใหญ่ความสูงของอนุสาวรีย์อยู่ที่ 8.59 เมตร กว้าง 1.8 เมตร ยาว 3.5 เมตร รูปหล่อทองสัมฤทธิ์บรมรูปทรงม้า ทรงพระมาลา ยกกรข้างขวา ชูดาบ พร้อมที่จะเผชิญกับข้าศึก เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติประวัติ เกียรติยศ เกียรติคุณให้ปรากฏกับอนุชนรุ่นหลังสืบต่อมา

กำหนดเอาวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันถวายบังคมราชสักการะคล้ายวันปราบดาภิเษก เสด็จขึ้นเสวยราชย์

สำหรับเกร็ดความรู้ การถวายเครื่องสักการบูชา “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ที่พอจะสืบค้น มาได้ ทรงโปรด ผู้มีความซื่อสัตย์ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และพระราชบัลลังก์ เนื่องด้วยพระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ชาตินักรบ จึงโปรดผู้ที่เป็นนักรบ รั้วของชาติ และโปรดเสียงประทัด...เสียงปืนพระกระยาหารที่เสวยเป็นอาหารไทย อาหารเดินทัพ เช่น เครื่องของแห้งต่างๆ แต่ก็มีผู้นิมิตเฉพาะเจาะจงลงไปว่า ท่านทรงโปรด “ข้าวต้มผัด” และ “ไข่ต้ม” ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ก็มีผลไม้ไทย ผลไม้จีน เครื่องเซ่นไหว้ แบบจีน...เป็น ไก่ หัวหมูบายศรี ซาแซ น้ำผลไม้ น้ำหวาน น้ำเปล่า แต่ ไม่ทรงโปรดน้ำจัณฑ์

สำหรับ “ดอกไม้” บูชา โปรดสีแดง ซึ่งเป็นสีแห่งวันพระราชสมภพ ใครที่เคยผ่านไปที่ อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากฯ วงเวียนใหญ่ อาจจะเห็นเครื่องถวายแก้บนที่เป็นดาบไทย และปืนใหญ่โบราณจำลอง

บันทึกเรื่องราวมหัศจรรย์ในวันคลอดจากครรภ์มารดาของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ เล่าสืบต่อๆกันมาว่า ได้เกิดเหตุอสุนีบาตฟาดลงมาที่เสาเรือน ในตอนกลางวันแสกๆ ทั้งที่ไม่มีฝนตก ฟ้าคะนองเลย คลอดมาได้ 1 วัน ก็เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์เหนือธรรมชาติอีก มี “งูเหลือม” ตัวใหญ่เข้ามาขดเป็นทักษิณาวรรตรอบกระด้งที่ใช้รองกายของพระองค์

เป็นเรื่องราวที่สร้างความตกใจ ระคนพิศวงแก่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ด้วยที่ครอบครัวเชื่อเรื่องโชคลาง จึงคิดได้อย่างเดียวว่านี่คือสัญญาณบอกเหตุเป็นลางร้ายของเด็กที่เกิด นำเรื่องราวไปบอก กล่าวเจ้าพระยาจักรี พินิจพิเคราะห์ลักษณะอยู่หลายประการ จึงเอ่ยปากขอรับไปเลี้ยงดู ตั้งชื่อให้ว่า “สิน” เป็นที่น่าประหลาดใจว่า หลังจากเลี้ยงดูแล้ว ปรากฏว่ามีแต่ลางดีทำให้บังเกิดลาภยศเงินทองไหลมาเทมา บังเกิดความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ราชการเป็นอย่างยิ่ง

ดู 43 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page