top of page
ค้นหา

มุทิตาสักการะ"หลวงพ่อเณร"วัดศรีสุดารามฯ เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระธรรมวชิรคุณาธาร"

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 13 มิ.ย. 2567
  • ยาว 1 นาที

มุทิตาสักการะ"หลวงพ่อเณร"วัดศรีสุดารามฯ

เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระธรรมวชิรคุณาธาร"


ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ น้อมถวายมุทิตาสักการะเนื่องในโอกาสมงคลพระเทพประสิทธิมนต์ (โกศล มหาวีโร) หรือที่เรียกขานด้วยความเคารพว่า"หลวงพ่อเณร" ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมวชิรคุณาธาร" สถิต ณ วัดศรีสุดาราม กรุงเทพฯ


หลวงพ่อเณรปัจจุบันอายุย่าง74ปี,เป็นพระสงฆ์นักการศึกษา,นักพัฒนา,นักปกครอง และนักสาธารณสงเคราะห์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร


ท่านมีนามเดิมว่า "โกศล" นามสกุล "สิริพรหมคุณ" เกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2493 ที่ ต.ท่าวาสุกรี อ.พระ นครศรีอยุธยา จ.พระนครศรี อยุธยา บรรพชา เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2505 ที่วัดดอน เขตยานนาวา กรุงเทพฯ โดยมีพระครูกัลยาณวิสุทธิ์ (กึ๋น) วัดดอน เป็นพระอุปัชฌาย์


พ.ศ.2507 สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา มหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม


อุปสมบท เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2513 ที่วัดอินประชาราม ต.บ้านพร้าว อ.บ้านนา จ.นครนายก มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สกลมหาสังฆปริณายก (ปุ่น) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนวิมลมังคลา ราม กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระธรรมวรนายก (สมบูรณ์) วัดอุดมธานี จ.นครนายก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระธรรมเสนานี(กมล) วัดพระเชตุพนฯ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า"มหาวีโร"


ปีพ.ศ.2528 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยแวสเตอร์แปซิฟิก เมืองฮอนโนลู ลู รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา พ.ศ.2531 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2542 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ สาขาสังคมศาสตร์ จากมหาวิทยา ลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย


ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2524 เป็นเจ้าอาวาสวัดพรหมสุวรรณสามัคคี แขวงบางไผ่ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พ.ศ.2530 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร พ.ศ.2531 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2555 เป็นเจ้าคณะแขวงบ้านช่างหล่อ


สมณศักดิ์ พ.ศ.2531 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระวชิรราชมานิต" พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ "พระราชพิพัฒนโกศล" พ.ศ.2557 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ "พระเทพประสิทธิมนต์"


ท่านสร้างคุณูปการมากมายหลากหลายด้าน ทั้งด้านงานปกครองคณะสงฆ์ การศึกษา พระปริยัติธรรม การสาธารณประโยชน์ ด้านการพัฒนา และอื่นๆอีกมากมาย อาทิ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดำเนินการซ่อมแซมหอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม,เป็นประธานสร้างอาคารศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทางสติปัญญาแบบครบวงจร ที่ดำเนินการร่วมกับมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย


นอกจากนี้ยังริเริ่มสร้างพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ อ.เมือง จ.นครนายก เมื่อปี พ.ศ. 2555 เนื่องในโอกาสครบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และสร้างโลหะปราสาทสุวรรณวิจิตรภูมิพโล ประดิษฐานรูปหล่อทรงผนวช ในหลวงรัชกาลที่9 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดี


ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด19 ท่านได้เมตตาให้ใช้สถานที่ของวัดศรีสุดา รามเปิดเป็นโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอยของกทม.ช่วยดูแลผู้ป่วยหนักก่อนส่งต่อ


หลวงพ่อเณรท่านถือว่าการสนทนากับญาติโยมเป็นเรื่องสำคัญมิใช่น้อย โดยต้องยึดหลัก 4 ประการคือ 1.ต้องตั้งใจสนทนา ช่วยได้หรือไม่ได้ ต้องรับฟังไว้ก่อน 2.เจรจาไพเราะ เพราะคำพูดเปรียบเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ 3.ปะเหมาะเอื้อเฟื้อ และ 4.ช่วยเหลือตามควร ตามที่ช่วยได้ ไม่ใช่ตั้งท่าปฏิเสธ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พูดคุยอะไรเลย


"พระธรรมวชิรคุณาธาร"นับเป็นพระเถระชื่อดังอีกรูปที่บำเพ็ญหิตประโยชน์(ประโยชน์เกื้อกูล)โดยแท้


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page