top of page
ค้นหา

มุทิตา 71ปี"สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี" "สมเด็จธงชัย"วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม. เจ้าตำรับพระนารายณ์ทรงครุฑประทับราหู

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

มุทิตา 71ปี"สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี" "สมเด็จธงชัย" วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม.

เจ้าตำรับพระนารายณ์ทรงครุฑประทับราหู

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ร่วมถวายมุทิตาสักการะเนื่องในวาระ

เจริญอายุวัฒนมงคล 71 ปี สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธัมมธโช) หรือ "สมเด็จธงชัย" สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางพระสังฆาธิการเป็น เจ้าคณะใหญ่หนกลาง,กรรมการมหาเถรสมาคม, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร, อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์, รองแม่กองธรรมสนามหลวง กำกับดูแลฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และประธานมูลนิธิร่มฉัตร

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี มีนามเดิมว่า "ธงชัย เอี่ยมสอาด" เกิดเมื่อ วันวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2496 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง จัตวาศก จุลศักราช 1314 ณ บ้านแหลมแค ตำบลหน้าประดู่ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของนายสนมกับนางสำรอง เอี่ยมสอาด มีพี่น้อง 7 คน โดยเจ้าคุณธงชัยเป็นพี่ชายคนโต

บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ณ พระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ โดยมี พระธรรมมหาวีรานุวัตร (ไสว ฐิตวีโร) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระบรรพชาจารย์ พ.ศ.2514 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนวัดไตรมิตรวิทยาราม

อายุ 21 ปีเข้าอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2517 ณ พระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม โดยมี พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสุวรรณธีราจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสุนทรคุณธาดา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า "ธมฺมธโช"

หลังอุปสมบทมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2528 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค สำนักเรียนวัดไตรมิตรวิทยาราม อีกทั้งยังได้ร่ำเรียนวิชา และฝากตัวเป็นศิษย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อาทิ หลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง, หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญ, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการามจ.กาญจนบุรี,หลวงพ่คูณ วัดบ้านไร่ เป็นต้น

ผลงานที่โดดเด่น คือ งานด้านการศึกษา สนับสนุนโครงการเพชรยอดมงกุฎ ชิงทุนการศึกษา และจัดให้นักเรียนชั้นประถมศึกษา-มัธยมศึกษาทุกสังกัดทั่วประเทศ เข้าร่วมแข่งขันดำเนินการต่อเนื่องมายาวนาน กว่า 10 ปี อีกทั้งเป็นผู้ริเริ่ม และเป็นประธานดำเนินการประสานงานให้โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย กับโรงเรียนศิลปะป้องกันตัว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงนามบันทึกความร่วมมือทางด้านภาษาและวัฒนธรรมไทย-จีน ที่วัดไตรมิตรฯ

นอกจากนี้ ยังเป็นที่รู้จักของบรรดาคณะศรัทธา ลูกศิษย์ลูกหาในฐานะพระเกจิอาจารย์ ได้รับอาราธนานิมนต์ไปร่วมในพิธีพุทธาภิเษกเทวาภิเษกวัตถุมงคลแทบทุกงานทั่วประเทศ

ท่านได้รับรางวัลผู้นำที่มีผลงานด้านการศึกษาโดดเด่นเป็นพิเศษ (The Best of the Best) จากสำนักงานส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

นอกจากนี้ เคยได้รับการนิมนต์จากนายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และอดีตประธานกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ให้เดินทางไปที่เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้นักเตะทีมเลสเตอร์ ซิตี้ โดยท่านได้แจกผ้ายันต์ให้นักฟุตบอล ก่อนที่ทีมเลสเตอร์ซิตี้ จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2533 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร พ.ศ.2563 เป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลางสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางพระสังฆาธิการเป็น เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ รองแม่กองธรรมสนามหลวง กำกับดูแลฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และประธานมูลนิธิร่มฉัตร พ.ศ.2564 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2534 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วย เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอกที่ "พระครูศรีวิสุทธานุวัตร" พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะ ชั้นสามัญที่ "พระภาวนาวิสุทธาจารย์ วิ." พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชภาวนาวิกรม" พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ "พระเทพภาวนาวิกรม วิ."

พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมภาวนาวิกรม วิ. พ.ศ.2556 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่ "พระพรหมมังคลาจารย์" พ.ศ.2562 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ในราชทินนามที่ "สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี"

ในด้านวัตถุมงคล สมเด็จธงชัยท่านเมตตาให้จัดสร้างไว้หลายรุ่น ซึ่งได้รับความนิยมศรัทธาจากศิษยานุศิษย์และนักนิยมสะสมพระเครื่องอย่างมาก โดยเฉพาะวัตถุมงคลพระนารายณ์ทรงครุฑ ประทับยืนบนพระราหู ถือว่าท่านเป็นต้นตำรับในการจัดสร้างจนโด่งดังเข้มขลังด้วยประสบการณ์ไปทั่วประเทศ



 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page