top of page
ค้นหา

ย้อนรอยธรรม/ตำนานชีวิต-93ปี "หลวงปู่นิล วรลาโภ"วัดเขาไม้แก้ว สายวิชาหลวงพ่อทัด-หลวงพ่อลั้ง

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 6 มี.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

ย้อนรอยธรรม/ตำนานชีวิต-93ปี

"หลวงปู่นิล วรลาโภ"วัดเขาไม้แก้ว

สายวิชาหลวงพ่อทัด-หลวงพ่อลั้ง

ทีมข่าว"คัมภีร์นิวส์"ร่วมย้อนรอยธรรม ตำนานชีวิต"หลวงปู่นิล วรลาโภ" วัดเขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี ซึ่งมรณภาพด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลบางละมุง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 เวลา 21.00 น. สิริอายุ 93 ปี พรรษา 56

ท่านเป็นพระเกจิคณาจารย์สายพุทธาคมหลวงพ่อทัด วัดช่องแสมสาร และหลวงพ่อลั้ง วัดอัมพาราม ท่านเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาไม้แก้ว ก่อนที่จะย้ายไปที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ชลบุรี และไปอยู่ที่สำนักสงฆ์สวัสดีมงคลธรรมวนาราม ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่เขาเขาไม้แก้ว จวบจนมรณภาพ ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ท่านมีนามดิมว่า "นิล มากจันทร์" เกิดที่ บ้านโป่ง ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันพุธที่ 2 ก.ค.2473 ปีมะเมีย มีพี่น้องทั้งหมด 7คน ชาย 3 หญิง4 ท่านเป็นคนที่4 อุปสมบทครั้งแรกที่วัดบางละมุง เมื่อปีพ.ศ.2502

แล้วอยู่จำพรรษาที่วัดทุ่งกราด และวัดเขาไม้แก้วจากนั้นได้ลาสิกขาบท เพื่อมาช่วยพ่อ-แม่ทำไร่ทำนา

จนกระทั่งอายุประมาณ38 ปี ท่านได้ตัดสินใจบวชอีกครั้งในปีพ.ศ.2510 ที่วัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พระครูสาธกธรรมคุณ(หลวงพ่อลั้ง) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแก้ว เป็นพระกรรมวาจารย์ พระประดับ กิตติโสภโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อทัด วัดช่องแสมสาร และหลวงพ่อลั้ง วัดอัมพาราม โดยใช้วิธีครูพักรักจำ รวมทั้งศึกษาจากตำราและสอบถามครูบาอาจารย์เรื่อยมา

ต่อมาในปีพ.ศ.2515-16 หลวงปู่ได้ย้ายจากวัดช่องแสมสารมาจำพรรษาที่วัดเขาไม้แก้ว เนื่องจากญาติโยมนิมนต์ให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส ด้วยเหตุผลที่ท่านรักความสงบ ชอบความเรียบง่าย ท่านจึงไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ชาวบ้านเกลี้ยกล่อมอยู่หลายครั้งท่านจึงตัดสินใจขอย้ายจากวัดช่องแสมสารมาจำพรรษาที่วัดเขาไม้แก้ว

เมื่ออยู่ที่วัดเขาไม้แก้ว ท่านได้ขึ้นไปอยู่บนเขา(ข้างวัด)ด้วยเหตุผลที่ชอบความสงบเงียบ โดยได้ศึกษาเล่าเรียนจากตำราและออกธุดงค์ไปในที่ต่างๆ

จนเมื่อท่านอายุมากขึ้น ชาวบ้านเป็นห่วงสุขภาพจึงนิมนต์ให้ท่านลงจากเขาเพื่อจะได้ดูแลได้ง่ายขึ้น แต่ท่านก็ไม่ยอมลงจากเขาชาวบ้านจึงออกอุบาย โดยให้เหตุผลว่า กรมป่าไม้ต้องการใช้พื้นที่บนเขา ท่านจึงยอมลงจากเขา และมาจำพรรษาที่กุฏิด้านล่าง(สระน้ำ)เรื่อยมา จนในปีพ.ศ.2554ได้ย้ายเข้าจำพรรษาที่กุฏิหลังใหม่ในวัดเขาไม้แก้ว

ต่อมาในช่วงปลายปีพ.ศ.2559 สำหรับหลวงปู่ได้ย้ายจากวัดเขาไม้แก้วมาจำพรรษาที่วัดสว่างอารมณ์ ด้วยเหตุผล คือ อายุมากขึ้นทุกวันก็เลยอยากอยู่ใกล้ญาติพี่น้อง และวัดสว่างอารมณ์เป็นวัดใกล้บ้านเกิดของท่าน สะดวกในการดูแล ท่านไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน อยู่ใกล้ญาติพี่น้องการดูแลจะสะดวกกว่า..

สำหรับสำนักสงฆ์สวัสดีมงคลธรรมวนาราม อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี หลวงปู่นิลท่านคุ้นเคยกับพระอาจารย์น้อย (พระครูสมุห์เทวินทร์) เป็นอย่างดี ซึ่งพระอาจารย์น้อย เป็นพระสงฆ์นักปฏิบัติ และพัฒนาสำนักสงฆ์อย่างต่อเนื่อง ท่านจึงเมตตาที่จะช่วยสร้างโบสถ์และพัฒนาสำนักสงฆ์ จากนั้นจึงได้ออกวัตถุมงคลในนามสำนักสงฆ์เรื่อยมา และหลวงปู่ได้เข้าจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ในปี 2563-ปัจจุบัน

จากนั้น หลวงปู่นิลมีความประสงค์ที่จะกลับมาที่วัดเขาไม้แก้วหลังจากออกพรรษาปีพ.ศ.2565 โดยท่านยังคงเมตตาอุปถัมภ์โบสถ์สำนักสงฆ์สวัสดีมงคลธรรมวนารามต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ

หลวงปู่มีความผูกพันกับวัดเขาไม้แก้วมายาวนาน ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงต่างรู้ดี ซึ่งพอทราบข่าว ทางวัดเขาไม้แก้วและชาวบ้านต่างมีความยินดีที่หลวงปู่จะกลับมาจำพรรษาที่เขาไม้แก้ว และจะได้เข้ากราบขอพรหลวงปู่ได้สะดวกขึ้น

ในด้านวัตถุมงคลที่หลวงปู่จัดทำขึ้นมีด้วยกันหลายอย่าง เช่น ปลัดขิก ตะกรุด ฯลฯ มีประสบ การณ์ต่างๆมากมายหลายเรื่องจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน




 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comentários


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page