"ย้อนรอยเกจิดัง"
ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย. 2567
"หลวงพ่อพรหม ติสฺสเทโว" วัดขนอนเหนือ
เจ้าตำรับ"ยันต์เก้ายอด-นารายณ์-หนุมาน"
เหรียญดัง-ประสบการณ์ดี-พุทธคุณขลัง
"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ
"หลวงพ่อพรหม ติสสเทโว" อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอนเหนือ อ.บางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยา
สุดยอดเกจิดังสายเหนียว เจ้าตำรับ ยันต์เก้ายอด,พระนารายณ์ทรงศาสตราวุธ,หนุมานออกศึก,ยันต์ราชสีห์
ท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2456 ตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 ปี ฉลู โยมพ่อสุวรรณได้นำไป “ผูกดวง” จึงทราบว่าบุตรชายคนนี้เป็นผู้มีบุญมาเกิด เมื่อเติบใหญ่จะเป็นที่พึ่งสำคัญในพระศาสนา มีความเจริญในธรรมชั้นสูง จึงตั้งชื่อว่า “พรหม”
วัยเด็กมีนิสัยต่างจากเพื่อนวัยเดียวกัน เพราะเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ ช่วยเหลืองานบิดามารดา มีเมตตาต่อสัตว์ เสียสละ รักพวกพ้อง ไม่ยอมใครหากตนไม่ผิด มีความกล้าหาญอดทน โยมพ่อได้สอนให้หัดเขียนอักขระเลขยันต์ ฝึกฝนท่องคาถาอาคมในวัยเพียง 7 ขวบก็สามารถเข้าใจและแตกฉานในวิชาที่บิดาสอน สามารถเสกว่าน ให้คงทนต่อศาสตราวุธ
เมื่ออายุ 20 ปี ท่านตั้งใจที่จะเป็นทหารรับใช้ชาติ แต่ไม่สมหวัง โยมพ่อจึงพาไปฝากเข้าทำงานกับท่านหลวงเสรีรณฤทธิ์ ในตำแหน่ง หัวหน้าแผนกพัสดุการรถไฟฯ ต่อมาเกิดความเบื่อหน่ายจคงลาออกกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด จนกระทั่งอายุ 23 ปี ตรงกับปี พ.ศ. 2479 จึงเข้าอุปสมบท โดยมีพระครูสารกิจ (ฟัก) วัดทำเลไทย อ.เมือง จ.พระนครศรี อยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ชุ่ม วัดขนอนเหนือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ทอง วัดขนอนเหนือ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “ติสฺสเทโว”
การได้มาซึ่งวิชาอาคมที่เข้มขลังของท่านนั้น เริ่มต้นได้รับการถ่ายทอดจากบิดาของท่านตั้งแต่เยาว์วัย ผ่านตำราของท่านขรัวแสง วัดเสาประโคน สหธรรมิกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ทำให้หลวงพ่อพรหมมีทั้งความรู้ในด้านวิชาอาคม รวมทั้งว่ากันว่า ท่านมีหนังดีมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ
เมื่อได้อุปสมบทแล้ว หลวงพ่อพรหมยังเดินทางไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป เช่น หลวงปู่ฟัก วัดทำเลไทย หลวงปู่อ่ำ วัดงิ้วงาม หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ เป็นต้น
ว่ากันว่า อำนาจจิตของหลวงพ่อพรหมกล้าแข็งมาก ขนาดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ยังเอ่ยชมท่านว่า เป็นพระหนุ่มที่อำนาจจิตกล้าแข็ง ซึ่งในหมู่ศิษย์ของหลวงพ่อจง เคยให้ข้อมูลกันไว้ว่า ถ้าหลวงพ่อจงเอ่ยชมใคร คนนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ก็ยังรับรองเรื่องนี้ แม้แต่หลวงปู่สี วัดสะแก ยังกล่าวว่า "ในอยุธยา ที่ว่าเหนียวว่าคงจริงๆนั้น เห็นมีแต่ท่านพรหมรูปเดียว"
หลวงพ่อพรหมสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรก ในปี พ.ศ.2494 เป็นเหรียญเสมารูปเหมือน รุ่นแรก ปัจจุบันหายากมาก และท่านได้สร้างวัตถุมงคลในรุ่นต่อๆมาเป็นเหรียญพระนารายณ์รูปแบบต่างๆ เช่น เหรียญนารายณ์เส้น(รุ่นแรก) ,เหรียญนารายณ์2,เหรียญนารายณ์เหยียบเมฆ,เหรียญนารายณ์ทรงเมือง และยังมีเหรียญหนุมาน เหรียญราชสีห์(สิงห์) เหรียญยันต์เก้ายอดหรือเรียกว่า"ยันต์ครู" เหรียญครุฑ รวมถึงพระหล่อรูปเหมือน พระกริ่งอีกด้วย โดยรูปทรงที่เป็นพระนารายณ์ หนุมาน และสิงห์ ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวของท่าน
ส่วนวัตถุมงคลเนื้อผง อาทิ พระพรหมห้าเหลี่ยม” พระนารายณ์เนื้อผงห้าเหลี่ยม รึ่นแรก ปี พ.ศ.2513, พระพิมพ์สมเด็จปี 2515 ด้านหลังยันต์น้ำเต้า,พระผงพิมพ์วัดปากน้ำ หรือ พระผงเรือนเศรษฐี
ท่านเป็นพระเกจิอยุธยาที่เก่งทางด้านสักยันต์มาก โดยยันต์ที่ท่านใช้นั้นจะเป็นยันต์พระนารายณ์,พระบุตร-ลบ, ราชสีห์, หนุมานดันปฐพี ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะของท่าน และได้ถูกถ่ายทอดผ่านปลายเข็มสักยันต์ สู่เนื้อ หนังลูกผู้ชายชาวอยุธยา คนแล้วคนเล่า ทำให้หลายคนที่ผ่านศึกมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ผ่านคมศัสตราวุธ นานา ก็หาได้ระคายผิวกายไม่ ซึ่งในระหว่างปี 2500-2530 ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ จนมีลูกศิษย์หนุ่มๆมากมายเดินทางมาให้ท่านสักยันต์นับไม่ถ้วน ประสบการณ์ และความเข้มขลังในยันต์ของท่านโดดเด่นในด้าน แคล้วคลาด คงกระพัน ทั้งสิ้น เป็นที่โจษขานกันทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างกว้างขวาง
มีเรื่องเล่าขานกันถึงพุทธคุณการสักยันต์กับหลวงพ่อพรหมไว้ว่า ชายหนุ่มอยุธยาหลายคนได้ผ่านการสักจากท่านไป เข้าต่อสู้กับศัตรูชนิดที่ว่ารุมกินโต๊ะแต่คนๆนั้นก็ไม่ได้รับบาดแผลแต่ประการใดและสามารถสู้คนหมู่มากได้
หนึ่งในตำนานของหลวงพ่อพรหมที่มีชื่อเสียงที่สุดนั่นก็คือเรื่องของเสือขาวปิดตลาดท่าเรือปล้นโดยก่อนจะเข้าทำการอุกอาจในครั้งนี้
เสือขาวได้มาขอผ้าขอดจากหลวงพ่อพรหม ซึ่งทำให้สามารถเล็ดลอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้
วาระสุดท้ายหลวงพ่อพรหมถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2534 สิริอายุได้ 78 ปี สังขารท่านไม่เน่าเปื่อยประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วที่วัดขนอนเหนือตราบจนปัจจุบันนี้
#ฉัตรสยาม
コメント