"ย้อนรอยเกจิดัง"
ประจำวันอาทิตย์ที่ 23 เม.ย. 2566
"หลวงปู่หงษ์"วัดเพชรบุรี สุรินทร์
เกจินักพัฒนาขมังเวทย์แห่งอีสานใต้
อัศจรรย์วันเกิด-มรณภาพตรงกัน
พระเครื่องขลัง/พุทธคุณดีทุกด้าน
ห้วงนี้กระแสวัตถุมงคลของท่านกำลังกลับมาแรง "หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ” หรือ พระครูปราสาทพรหมคุณ แห่งสุสานทุ่งมน อดีตเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
"ย้อนรอยเกจิ"อาทิตย์นี้จึงขอนำประวัติของและพระเครื่องยอดนิยมของท่านมานำเสนออีกครั้ง
"หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ” หรือ พระครูปราสาทพรหมคุณ แห่งสุสานทุ่งมน อดีตเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ถือเป็นพระเถระที่มีอายุพรรษาสูงสุดรูปหนึ่งของภาคอีสานตอนล่าง บวชตั้งแต่อายุ 20 ปี ไม่เคยสึก เป็นพระที่มีเมตตาสูง และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของบรรดาศิษยานุศิษย์
ในด้านวิชาอาคมของขลังมานานหลายสิบปี โดยได้สร้างพระเครื่องวัตถุมงคลมากมายหลายร้อยรุ่น แต่ละรุ่นล้วนได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
ท่านมีนามเดิมว่า “สุวรรณหงษ์ จะมัวดี” เกิดเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2461 ที่บ้านทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดอุทุมพร บ้านทุ่งมน จนอายุ 18 ปี มารดาขอร้องให้บวชเณร เพราะเป็นช่วงวัยรุ่นอารมณ์ร้อน
ความตั้งใจเดิมจะบวชเพียง 7 วัน แต่เกิดมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เลยอยู่เรื่อยมาจนอายุครบ 20 ปี พระอุปัชฌาย์จึงอุปสมบทให้ ณ วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีพระอาจารย์แป้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานาม “พรหมปัญโญ” แปลว่า “ผู้มีปัญญาดุจพรหม”
หลังอุปสมบทแล้ว ตั้งใจมั่นขยันหมั่นเพียรศึกษาพระปริยัติธรรม ด้วยเป็นผู้มีความวิริยะสูง จดท่องแม่นยำยิ่งนัก ทั้งฝักใฝ่หาความรู้ เพียรหาครูบาอาจารย์อย่างไม่ลดละแม้จะไกลไปยาก ก็อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางไป
พ.ศ.2482 สอบได้นักธรรมชั้นตรี จากสำนักโรงเรียนวัดอุทุมพร พ.ศ.2483 เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนผู้ใหญ่เพิ่มเติม สอบได้ระดับชั้นปลายภาคจากวัดศรีลำยอง ต.สมุด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ในพรรษาที่3 กราบลาพระอุปัชฌาย์จาริกถือธุดงควัตร อาศัยอยู่ตามโคนไม้ นุ่งห่มใช้ผ้าเพียงสามผืน ถือที่สงบสัปปายะ เช่น ป่าช้าเป็นที่เจริญภาวนาเช้าค่ำ ขบฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียว เดินทางไปสู่เมืองขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เพราะเป็นเขตแห่งสรรพศาสตร์มนตรา จึงได้เข้าขอศึกษากับครูอาจารย์ที่เป็นทั้งฆราวาสก็ดี เป็นผู้ทรงศีลสมณะก็ตาม จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงขออนุญาตลากลับเพื่อจาริกธุดงค์สู่พนมเปญ กัมพูชา
เมื่อธุดงค์เข้าเขตประเทศกัมพูชา พบกับครูบาอาจารย์ศึกษาสรรพวิชา ทั้งคาถาเมตตา มหาเสน่ห์ กำบังภัยทั้งคุ้มครอง แคล้วคลาดกันอาวุธปืน หอก ดาบ เขี้ยว งา ช้างเสือ หุงสีผึ้ง กันยาเบื่อ ทั้งคุณไสย ทำน้ำมนต์รดอาบ สิชาทำตะกรุดดิน/น้ำ/ลม/ไฟ ฯลฯ
มีเรื่องราวของกลุ่มโจรในประเทศกัมพูชาที่มีวิชาอาคมแก่งกล้าออกปล้นสะดมภ์จนทางการกัมพูชาต้องมาร้องขอให้หลวงปู่หงษ์ช่วยจับกุม จนกระทั่งกลุ่มโจรนี้กว่า 50 คนต่างก็ขอหลวงปู่หงษ์เป็นศิษยานุศิษย์ร่วมเดินรอยตามพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกที่มีทั้งลูกระเบิด ลูกปืนใหญ่ตกใส่ในพื้นที่ที่หลวงปู่หงษ์อยู่กับชาวบ้านในหมู่บ้านกรูกลับไม่ระเบิด จนทำให้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสและศรัทธากันเป็นจำนวนมาก
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2516 เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี พ.ศ.2519 รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งมน พ.ศ.2525 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2542 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลทุ่งมน
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2523 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ "พระครูประสาทพรหมคุณ" พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม
หลวงปู่หงษ์สร้างคุณูปการให้กับสังคมมากมาย โดยเฉพาะด้านสังคมสงเคราะห์ ท่านบริจาคทรัพย์สร้างสถานีอนามัยและสถานเลี้ยงเด็ก รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือโรงเรียน ปรับปรุงสถานีตำรวจ จัดตั้งมูลนิธิหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ, บริจาคเพื่อขุดแหล่งน้ำ บ่อน้ำ และฝายกั้นน้ำ
ด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลวงปู่หงษ์ บริจาคเงินเพื่ออนุรักษ์ป่า ปลูกป่า เสริมสร้างป่าชุมชน บริจาคเงินและตั้งกองทุนเพื่อซื้อและไถ่ชีวิตสัตว์
พ.ศ.2535 รับโล่รางวัลชนะเลิศด้านสิ่งแวดล้อมดีเด่นจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พ.ศ.2536 รับรางวัล ชนะเลิศวัดพัฒนาตัวอย่าง พ.ศ.2537 รับรางวัลชนะเลิศด้านบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และรับพระราชทานเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง ช่วงเช้าวันที่ 5 มีนาคม 2557 ท่านมรณภาพด้วยโรคชราที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพฯ สิริอายุ 97 ปี พรรษา 77 ที่น่าอัศจรรย์คือ หลวงปู่หงษ์เกิดวันที่ 5 มีนาคม 2460 ตรงกับวันมรณะ คือวันที่ 5 มีนาคม 2557
หลวงปู่หงษ์เป็นพระผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตา มหาบารมี แม้แต่แก้วใส่นมใบเดียวกันที่ท่านฉันใช้ทุกวัน ก็นำมาให้หมาและแมวภายในสุสานฉันด้วย โดยไม่เคยรังเกียจ แบ่งชั้น วรรณะ อีกทั้งเมตตา สงเคราะห์ ช่วยเหลือ ลูกศิษย์เสมอเหมือนกันทุกคน
เมื่อครั้งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยองยังมีชีวิตอยู่ ยังออกปากชมหลวงปู่หงษ์ เมื่อลูกศิษย์ถามว่า “ ยังมีพระอาจารย์องค์ใดที่มีวิชาอาคมแก่กล้า พอจะเป็นที่พึ่งอีกหรือไม่ ” ท่านว่า “ มีอยู่องค์หนึ่ง ชื่อพระหงษ์ ( หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ) ลงตะกรุดได้ไม่แพ้นี่ (ข้า) ” …
ในด้านวัตถุมงคลท่านอนุญาตให้จัดสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกไว้หลายรุ่นหลายรูปแบบ
ทั้งที่ออกในนามวัดเพชรบุรีและวัดอื่นๆขอจัดสร้าง โดยวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ท่านมีบุญญาบารมีมากเป็นที่เคารพบูชา เป็นที่พึ่งของ ของเหล่าบรรดายานุศิษย์และประชาชนทั่วประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านเลย เคยมีผู้สามารถสัมผัส และจับพลังจิตได้ลองสัมผัสพลังจิตวัตถุมงคลของหลวงปู่ หลายท่านบอกว่ามีพลังจิตสูงมาก
เหรียญรูปไข่รุ่นแรก ฉลองอายุ 80 ปี สร้างปี2541ด้านหลังมี 3 แบบคือ 1.หลังยันต์ครู 2.หลังพระแม่โพสพ 3.หลังพระแม่ธรณี ( พบเจอน้อยสุด ) เหรียญยุคต้น มีประสบการณ์ หลวงปู่หงษ์ได้ฤกษ์พิธีมหาพุทธาอธิษฐานจิตปลุกเสก ประจุ พระคาถาและประจุธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เข้าสู่วัตถุมงคล เพื่อความสมบูรณ์ตามประเพณี และความศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลัง ถูกต้อง
พระเครื่องหลวงปู่หงษ์มีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะคงกระพันชาตรี...แคล้วคลาด...เมตตามหานิยม...โชคลาภ..มีผู้ได้รับประสบการณ์มากมาย
#ฉัตรสยาม
Comentarios