top of page
ค้นหา

"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค. 2567 "หลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโม” วัดนางในฯ

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 5 พ.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

"ย้อนรอยเกจิดัง"

ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค. 2567

"หลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโม” วัดนางในฯ

ยอดเกจิแห่งเมืองวิเศษชัยชาญ อ่างทอง

ศิษย์เอกหลวงพ่ออ้น/เหรียญดี-เบี้ยแก้ดัง

"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ

"หลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโม” อดีตเจ้าอาวาสวัดนางในธัมมิการาม ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษ ชัยชาญ จ.อ่างทอง ยอดพระเกจิแห่งเมืองวิเศษชัยชาญ ศิษย์เอกหลวงพ่ออ้น วัดดอนบุปผาราม รุ่นเดียวกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ท่านเป็นพระนักพัฒนา และเป็นพระที่มีความรู้แตกฉานในพระธรรม ภาษาขอม บาลีสันสกฤต

ท่านเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี และหลวงพ่อเข็ม วัดข่อย จ.อ่างทอง

พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านสามจุ่น ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2426 อ่อนกว่าหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ 1 ปี โยมบิดาชื่อ"สอน" โยมมารดาชื่อ"แจ่ม" นามสกุล "ศรแก้วดารา" ช่วงอายุ 10 ขวบ ได้ศึกษาภาษาไทยและภาษาขอมกับพระอธิการพ่วง พระพี่ชายที่วัดสามจุ่น ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน เมื่ออายุครบ 20 ปีจึงอุปสมบทที่วัดปลายนา ต.ปลายนา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2446 โดยมีพระครูธรรมสารรักษา (อ้น) วัดดอนบุปผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดดี วัดปู่เจ้า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช้าง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า"ธัมมาราโม”

หลังอุปสมบทได้อยู่จำพรรษาที่วัดสามจุ่น ศึกษาพระปริยัติธรรมจากพระอธิการพ่วง ส่วนด้านวิทยาคมต่างๆ รวมถึงการฝึกสมาธิ การฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านเดินทางไปร่ำเรียนกับหลวงพ่ออ้น วัดดอนบุปผาราม จ.

โดยได้เป็นศิษย์ร่วมสำนักกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อสม วัดดอนบุปผาราม และจากฆราวาสอีกท่านหนึ่งชื่อว่า "อาจารย์เชตุ"

ถึงพรรษาที่ 8 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวง ต.ศาลเจ้าโรงทอง เพื่อสะดวกในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ไปช่วยก่อสร้างอุโบสถวัดสามจุ่น ประชาชนในท้องที่นั้นเคารพศรัทธาเลื่อมใสช่วยสละปัจจัยในการก่อสร้างอุโบสถวัดสามจุ่นจนสำเร็จด้วยดี จากนั้นท่านได้กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสามจุ่นตามเดิม

ปี พ.ศ. 2459 ท่านก็ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวง อีก 10 ปี ต่อมาจึงย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดนางในธัมมิการาม ปี พ.ศ. 2469 ซึ่งขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมมาก ท่านจึงเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดนางในฯจนเป็นวัดที่พร้อมด้วยเสนาสนะอันสวยงาม เจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ ปีพ.ศ.2473 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลศาลเจ้าโรงทอง จากนั้นปี พ.ศ. 2477 ท่านได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ผลงานต่างๆ ของหลวงพ่อมีมากมายหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งในวัดนางในฯและนอกวัด

หลวงพ่อนุ่มปกครองวัดนางในฯเป็นเวลา 30 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2497 ท่านจึงมรณภาพ สิริอายุได้ 71 ปี พรรษาที่ 51

หลวงพ่อนุ่มท่านมีวิชาสำคัญวิชาหนึ่งเรียกว่า"มนต์พระสังข์" บริกรรมภาวนาเป็นเมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูง ใช้เรียกทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา เรียกโชคลาภต่างๆ เมื่อวัดนางในฯจัดงานบุญประจำปี ท่านจะใช้มนต์พระสังข์เสกแป้งโรยรอบวัด ปรากฏว่าผู้คนหลั่งไหลมาเที่ยวงานแทบเหยียบกันตาย เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้ง อ.วิเศษไชยชาญว่าไม่มีวัดใดจัดงานได้ยิ่งใหญ่เท่าวัดนางในฯ

คนอ่างทองมีความเคารพศรัทธาหลวงพ่อนุ่มอย่างมาก ดูจากงานประจำปีในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีประชาชนทั่วไปและคนอ่างทองไปร่วมงานนับหมื่นคนแน่นขนัดทุกปี สมัยที่ท่านยังมีชีวิตถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ดังจริงๆ ยิ่งคนวิเศษชัยชาญ ตำนานขุนรองปลัดชู ล้วนแต่มีวิชาอาคม คงกระพันชาตรี ต่างเคารพศรัทธาเหรียญหลวงพ่อนุ่ม

“น้ำปานะ” ที่หลวงพ่อนุ่มดื่มในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2469-2497 เครื่องดื่มน้ำสีดำ ที่ท่านเรียกว่า “โคโล–โคโล่” ที่จริงก็คือ “โคคา–โคล่า” หรือ “โค้ก” ในปัจจุบัน นับแต่นั้นมาญาติโยมที่มีความนับถือและศรัทธาในหลวงพ่อนุ่ม เมื่อขอพรได้ตามที่ประสงค์ ก็จะนำมาถวายให้กับท่าน

หลังท่านมรณภาพลงมีการสร้างรูปหล่อประดิษฐานไว้ที่ศาลาการเปรียญ โดยเมื่อได้บนบานอธิษฐานเรื่องต่างๆ และสำเร็จ จะนำน้ำอัดลมมาแก้บน ทำให้เมื่อไปกราบไหว้จะเห็นว่ามีน้ำอัดลมตั้งไว้จำนวนมาก โดยทางวัดได้นำน้ำอัดลมไปร่วมกิจกรรมสงฆ์ และแจกจ่ายเด็กๆ ตามโรงเรียนและตามเทศกาลต่างๆ เป็นประจำ

ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้ให้แก่ศิษย์หลายอย่าง เช่น เหรียญปั้ม เหรียญหล่อ พระเนื้อผง พระเนื้อดินเผา และเบี้ยแก้ เป็นต้น วัตถุมงคลทุกชนิดของหลวงพ่อนุ่มล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยมเสาะหา และหวงแหนของชาววิเศษชัยชาญ

เหรียญปั้มหลวงพ่อนุ่มรุ่นแรกสร้างในปี พ.ศ. 2492 ท่านได้บรรจุวิชาอาคมทำให้เกิดพลังพุทธานุภาพ สร้างประสบการณ์ บวกคลื่นกระแสกำลังศรัทธา ทำให้บรรดาลูกศิษย์หลายคนต้องผิดหวัง หาบูชาไม่ได้ จึงร้องขอให้ท่านสร้างขึ้นมาอีก เหรียญรุ่นนี้จึงมีอยู่ด้วยกัน 3 บล็อก ด้านหน้าพิบล็อดเดียวกัน สาวยด้านหลังแบ่งเป็นบล็อกยันต์ใหญ่ บล็อกยันต์กลาง และบล็อกยันต์เล็ก ซึ่งให้สังเกตที่ตัว"ยันต์อุ" ระยะห่างจากยันต์ห้าที่มีขนาดแตกต่างกัน โดยความนิยมจึงให้แก่บล็อกแรก หรือเรียกว่า บล็อกยันต์ใหญ่ ซี่งมีสนนราคาเช่นหาที่หลักหมื่นกลางๆ ส่วนบล็อกยันต์กลาง ยันต์เล็ก ราคาก็ลดหลั่งกันลงมา

เหรียญรุ่นแรกนี้ คนอ่างทองหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สุดยอดในเรื่องแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มานานแล้ว ทำให้ราคาแพง นักเลงโบราณ นักการเมือง ต่างเสาะแสวงหาไว้คุ้มกันตัว

สำหรับเบี้ยแก้ที่ได้จัดสร้างไว้ มีทั้งเบี้ยพลู ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับของหลวงพ่อพัก จันทสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ และเบี้ยจั่น ซึ่งเป็นหอยเบี้ยขนาดเล็ก มีสีขาว นิยมให้เด็กและผู้หญิงห้อยคอ

ลักษณะเบี้ยของหลวงพ่อนุ่ม ถ้าเป็นเบี้ยพลูด้านหลังเบี้ยจะเหมือนกับเบี้ยของพระเกจิสายวิเศษชัยชาญอีกหลายองค์ ถ้าสังเกตที่ด้านใต้ท้องเบี้ยจะเห็นว่า การอุดชันโรงจะอุดปิดเกือบเต็มใต้ท้องเบี้ย ส่วนเบี้ยจั่นจะอุดเกือบเต็มเช่นกัน แต่สังเกตดูจะเห็นว่ามีฝ้าขาว ปกคลุมอยู่ เนื่องจากท่านปิดทับด้วยกระดาษสาบางๆ อีกทีหนึ่ง

เบี้ยแก้ของท่านมีประสบการณ์กล่าวขานกันมากมาย มีพุทธคุณ ป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้กลับเหตุร้ายให้กลายเป็นดี คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย

#ฉัตรสยาม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page