top of page
ค้นหา

"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2566 หลวงพ่อบุญมี(เม็ด) เกจิวัดบึงกระจับ แปดริ้ว

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 6 ส.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

"ย้อนรอยเกจิดัง"

ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2566

หลวงพ่อบุญมี(เม็ด) เกจิวัดบึงกระจับ แปดริ้ว

ศิษย์ครูบาศรีวิชัย-เจ้าตำรับ”ลูกอมเทียนชัย”

สหธรรมิก"หลวงพ่อทวน"วัดใหม่ทรายมูล

"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ

หลวงพ่อบุญมี หรือ”หลวงพ่อเม็ด” อดีตเจ้าอาวาสวัดบึงกระจับ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในเกจิคมในฝักแห่งเมืองแปดริ้ว ชื่อเสียงท่านอาจไม่โด่งดังเท่าเกจิอาจารย์ร่วมยุคเดียวกัน อาทิ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว, หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว, หลวงพ่อจุ้ย วัดพงษาราม,หลวงพ่อถึก วัดสนามช้าง ฯลฯ แต่เรื่อง”ของดีของขลัง”ของท่าน กล่าวกันว่า”ไม่ธรรมดา”ทีเดียวเชียว!!

โดยเฉพาะ”ลูกอมเทียนชัย” มีประสบการณ์มากมายให้ฮือฮา อีกทั้งท่านเชี่ยวชาญวิชากันพรายน้ำ เขี้ยวงา ยาสั่งทุกชนิด แถมเรื่องคงกระพันก็ยอดเยี่ยม

ท่านเป็นศิษย์สืบทอดวิชาจากครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา และหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี โดยศิษย์เอกของท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันก็คือ หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่

สมัยที่ยังมีชีวิต หลวงพ่อเม็ดมักได้รับนิมนต์ไปร่วมปลุกเสกพระเครื่องรุ่นดังๆตามวัดต่างๆโดยเฉพาะในเขตตะวันออก เช่น พิธีปลุกเสกพระกริ่งพุทธวิชิตมาร ของวัดท่าเกวียน ปี2514, พิธีปลุกเสกเหรียญนวมหาราช ปี2530,เหรียญพระชัยหลังช้าง ภปร. ปี2530 เป็นต้น

นามเดิมท่านคือ บุญมี (เม็ด) เกิดในสกุล “จันทรสุวรรณ์” เมื่อวันอังคารที่ 18 ก.ค. 2449 ที่บ้านบึงกระจับ หมู่ที่ 100 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องร่วมท้อง 4 คนของนายเฉย และนางชม ในวัยเด็กได้ศึกษาหาความรู้จนอ่านออกเขียนได้ เมื่ออายุครบเกณฑ์ได้เข้าอุปสมบทที่วัดบึงกระจับในวันที่ 15 พ.ค. 2469 โดยมีพระสมุห์ก้อย วัดมหาเจดีย์ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์

เมื่อบวชแล้วได้เริ่มการทำวัตรปฏิบัติ ฝึกการเจริญสมาธิ ใช้จิตภาวนาและเรียนวิปัสสนากรรมฐาน จากนั้นได้ออกธุดงค์ไปทั่วทุกภาคของไทยเพื่อเสาะแสวงหาอาจารย์และสถานที่อันสงบวิเวก โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือใช้เวลาอยู่นานถึง 3 ปี และเคยเข้าไปจำพรรษาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานกับครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย

ต่อมาได้ธุดงค์ลงมาทางเขตจังหวัดลพบุรีเข้าจำพรรษาที่เขตตะพานนาคและวัดถ้ำคูหา สวรรค์ โดยได้ศึกษาปฏิบัติธรรมกับ”หลวงปู่คำมี”ซึ่งถือกันว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านพระกรรมฐานในสมัยนั้น โดยใช้เวลาธุดงค์ที่จังหวัดลพบุรีนี้ 3 ปี

จนกระทั่งปีพ.ศ. 2480 ได้รับอาราธนาให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบึงกระจับ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เมื่อท่านได้เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแล้ว ได้สร้างผลงานเอาไว้เป็นอันมาก และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น”พระครูวิชัยบุญสาร” ในปีพ.ศ.2525

แม้ชื่อเสียงของหลวงพ่อบุญมี หรือ หลวงพ่อเม็ดจะไม่เป็นทีรู้จักอย่างแพร่หลาย แต่ถ้าเป็นในย่านภาคตะวันออกแล้ว ท่านนับว่าสุดยอด ผู้คนให้การยอมรับนับถือ เชื่อมั่นในพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์พระเครื่องของท่าน

หลวงพ่อพรหม ติสสเทโว อดีตเกจิอาจารย์ดังแห่งวัดขนอนเหนือ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรี อยุธยา เจ้าตำรับเหรียญดังนารายณ์ครองเมือง ท่านเคยกล่าวว่ายอมรับและยืนยันในความเก่งของพระสงฆ์อยู่ 4 องค์คือ

1.หลวงพ่อจุ้ย อินทโชติ (พระครูวารีสมานคุณ) วัดพงษาราม จ.ฉะเชิงเทรา 2.หลวงพ่อเม็ด วัดบึงกระจับ 3.หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท 4.หลวงพ่อเอีย กิตติโก วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี เช่นนี้แล้วย่อมบ่งบอกถึงความเก่งของหลวงพ่อเม็ดได้เป็นอย่างดี

หลวงพ่อเม็ดดังท่านดังเรื่อง”พรายน้ำ”มาก มีหนังสือพระรายเดือนเคยเขียนประวัติไว้ว่า ท่านสามารถจับพรายน้ำขึ้นมาได้ โดยนำสายสิญจน์มีดินเหนียวเป็นลูกตุ้มหย่อนลงน้ำ ตัวท่านอยู่บนแพแล้วลากแพไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสายสิญจน์ มีอาการเหมือนปลาติดเบ็ด เมื่อดึงขึ้นมา ปรากฏว่ามีสิ่งมีชีวิตตัวใสเหมือนแมงกะพรุน หน้าตาเหมือนเด็กเหี่ยวๆ มีฟันแหลม ดิ้นไปมา

จากนั้นพ่อของเด็กที่ถูกพรายน้ำตัวนั้นเล่นงานตรงเข้ามากระทืบเละคาเท้า ซึ่งอาการเมื่อโดนพรายน้ำทำร้ายคือ ขาจะชา ไม่มีแรงแล้วจมน้ำ เข้าใจว่าพรายน้ำพวกนี้จะดูดเลือดเป็นอาหาร เพราะใครจมน้ำเสียชีวิตถ้าไม่นานตัวจะไม่ซีดมาก แต่ถ้าโดนพรายน้ำเล่นงาน ว่ากันว่าเลือดไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด ตัวจะซีดและเขียวมากทั้งที่จมน้ำไปไม่เกินชั่วโมง ส่วนสาเหตุที่ท่านเชี่ยวชาญวิชานี้เป็นพิเศษ เพราะหลังวัดเป็นบึงชื่อ”บึงกระจับ”

วัตถุมงคลของท่านสร้างไว้มีไม่กี่สิบรุ่น อาทิ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2509 เป็นเหรียญหายากอีกเหรียญของเมืองแปดริ้ว คนท้องถิ่นหวงแหนมาก เพราะพุทธคุณดีครบเครื่อง มีทั้งจารและไม่จาร บล็อกนิยมตรงใบหูด้านซ้ายจะมีขีด,เหรียญรุ่นสอง และรุ่นพิเศษปี2519, เสือโลหะรุ่นแรก,พระปิดตา พระขุนแผน, พระสมเด็จ,รูปหล่อ,ล็อกเก็ต,รูปถ่าย,ผ้ายันต์ ฯลฯ

ส่วนที่โด่งดังเข้มขลังด้วยคุณวิเศษก็คือ “ลูกอมเทียนชัย” นอกจากมีพุทธคุณทางคงกระพันแคล้วคลาด กันเขี้ยวงา อาถรรพ์ในป่าลึกหรือสถานที่ที่มีวิญญาณมาก ยังกันพรายน้ำและกันสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนมากับสายน้ำด้วย การทำวิชาทำคุณไม่ได้ทำกันมาตามอากาศทางเดียว ใครที่ว่าแน่ๆเสร็จทางน้ำกับพวกพรายและวิชาที่ทำมาทางน้ำทั้งนั้น เพราะเมื่อหมดสติก็จมน้ำ ขาดอากาศหายใจ น้ำแค่คืบก็ตาย

พระเครื่องของหลวงพ่อเม็ด มีประสบการณ์เด็ดๆเด่นๆ ทั้งเรื่องเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาดปลอดภัย

วาระสุดท้ายหลวงพ่อเม็ดมรณภาพลงเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2535 เวลา 22.20 น. สิริอายุได้ 87 ปี 67 พรรษา นับเป็นหนึ่งในตำนานพระดี-เกจิขลังที่ชาวพนมสารคามไม่เคยลืมเลือน!!

สำหรับสหธรรมิก(เพื่อนพระ)ของหลวงพ่อเม็ดที่ยังมีชีวิตและมีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบันคือ พระครูสุภัทรศาสนกิจ หรือ"หลวงพ่อทวน สุภัทโท" อายุ 83 ปี เจ้าอาวาสวัดใหม่ทรายมูล เจ้าคณะตำบลกิตติมศักดิ์ อดีตเจ้าคณะตำบลหนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เจ้าตำรับวิชาเป่ายันต์พระสีวลี นะเมตตามหานิยม หนุนดวงชะตา พลิกร้ายกลายเป็นดี

#ฉัตรสยาม



 
 
 

Comentários


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page