"หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ"วัดธาตุมหาชัย
ศิษย์กรรมฐานปู่เสาร์-เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง
เกจิอาจารย์ที่มีสายญาณเกี่ยวกับ"พญานาค"
"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ
หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม พระคณาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ศิษย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร อีกท่านหนึ่งที่มีวิชาอาคมอันเข้มขลัง มีปฏิปทาอันน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใส มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นพระนักพัฒนา ผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดธาตุมหาชัย รวมทั้งคณะสงฆ์ในจังหวัด และใกล้เคียงอีกจำนวนมาก
ท่านมีนามว่า "คำพันธ์" นามสกุล "ศรีสุวงศ์" เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2458 ที่บ้านหนองหอยใหญ่ หมู่ที่ 4 ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีเชื้อสายมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด บ้านไผ่อินทรีย์ บ้านนะสะ โยมบิดาชื่อ "นายเคน" โยมมารดา ชื่อ"นางล้อม" มีน้องสาวชื่อ"คำพวง" เมื่ออายุได้ 5ขวบบิดาเสียชีวิต มารดาแต่งงานใหม่ และมีน้องร่วมมารดาอีก 4 คน
หลวงปู่คำพันธ์เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุครั้งแรกเมื่ออายุ ระหว่าง 20-24 ปี โดยมีพระครูสัจจาภิราม (ญาท่านพิม) วัดธาตุศรีคุณ อ.นาแก จ.นครพนม เจ้าคณะอำเภอนาแกองค์แรก เป็นอุปัชฌาย์ และอุปสมบทครั้งที่2เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2488 ขณะมีอายุ 30 ปี โดยมีพระครูนาครธรรมนิเทศ (ญาท่านหน่าน) โพธิ์ชัย บ้านต้นแหน อ.นาแก จ.นครพนม เจ้าคณะอำเภอนาแกองค์ที่สอง เป็นอุปัชฌาย์
การอุปสมบทครั้งนี้ ท่านได้เรียนกรรมฐานจาก “หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล” ในช่วงที่เดินธุดงค์ผ่านมายังจังหวัดนครพนม หากครั้งไหนติดขัดในข้อกรรมฐานก็จะไปปรึกษา “หลวงปู่กินรี จันทิโย” ที่บ้านฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และศึกษากับผ้าขาวครุฑ (ที่จังหวัดเลย) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ “ญาท่านสำเร็จลุน” ผ้าขาวครุฑ ท่านเป็นคนจากบ้านหนองหอย และเป็นญาติกับหลวงปู่คำพันธ์ด้วย โดยกระดูกของท่านส่วนหนึ่ง หลวงปู่คำพันธ์นำมาไว้ที่ “วัดส้างพระอินทร์”
สำหรับการสอนกรรมฐานของทั้ง3ท่านนั้น มีการสอนที่เหมือนกันคือ ใช้คำภาวนาพุทโธ สอนสติปัฏฐาน 4 โดยหลวงปู่คำพันธ์ตั้งใจปฏิบัติเองจนสามารถเห็นพระอินทร์ในสมาธิ วันหนึ่งขณะที่นั่งสมาธิท่านได้พบกับพระอินทร์และถามว่า “พระอินทร์มาทำไม” พระอินทร์ตอบว่า “มานิมนต์สามเณรขึ้นสวรรค์ในวันแรม 1 ค่ำ (คือพรุ่งนี้)”
ท่านกลัวตายจึงนั่งภาวนาเดินจงกรมทั้งคืนจนเหนื่อยและนอนหลับไป สักพักก็สะดุ้งตื่นกลางดึก และเห็นสิ่งของเครื่องใช้ทุกชิ้นตั้งอยู่ที่เดิม ท่านจึงปลุกพระองค์ที่นอนอยู่ข้างๆ ให้ตื่นขึ้น เพราะท่านนึกว่าตายแล้ว จึงได้นั่งภาวนาจนฟ้าสว่าง จากนั้นได้บอกกับพระอีกองค์ว่า หากท่านตายให้ตัดนิ้วชี้ทั้งซ้ายและขวา นำไปตากแห้งและส่งไปให้พ่อแม่ของท่าน แต่นับจากวันนั้นท่านก็ยังมีชีวิตอยู่
อีกครั้งหนึ่งท่านนั่งกรรมฐานแล้วเห็นแสงสว่างเหมือนกับหลอดไฟตกลงมาจากฟ้า และกลายเป็นบันไดให้เดินขึ้นสวรรค์ ท่านได้อธิษฐานด้วยจิตที่แข็งกล้าเพื่อหวังจะได้ปีนขึ้นไปบนสวรรค์ได้สำเร็จ แต่บันไดนั้นกลับเลือนหายไป ตั้งแต่นั้นมาท่านจึงรู้วิธีแก้อารมณ์ กรรมฐาน รู้จักวิปัสนูกิเลส และได้สอนกรรมฐานให้แก่ผู้อื่นได้ จนมีลูกศิษย์ทั่วทุกสารทิศให้ความเลื่อมใสศรัทธา นับถือจนมีชื่อเสียงมาจนวาระสุดท้ายของชีวิต
หลวงปู่คำพันธ์มรณภาพลงอย่างสงบในกุฏิจำพรรษา ด้วยโรคชราภาพ ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายอย่างแทรกซ้อน หลังจากอาพาธมานานหลายปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2546 เวลาประมาณ 01.59 น. ณ วัดธาตุมหาชัย สิริรวมอายุ 89 ปี พรรษา 59
หลวงปู่คำพันธ์เป็นพระมหาเถระที่มีอัธยาศัยใจคอกว้างขวาง เยือกเย็น มีความเมตตา กรุณาต่อศิษย์ ตลอดถึงญาติโยมทุกคนที่เข้าหาท่าน ใครก็ตามที่มีปัญหา หรือมีความทุกข์เข้าหาท่าน จะได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง เสมอกันหมด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต่อครูบาอาจารย์ และพระเถระที่อาวุโสกว่า ท่านก็แสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ โดยไม่เคยแสดงอาการ แข็งกระด้างใดๆเลย ด้วยเหตุนี้หลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของ ศิษยานุศิษย์และญาติโยมโดย ทั่วไปเป็นจำนวนมาก
ที่สำคัญ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีสายญาณเกี่ยวกับ"พญานาค" มาแต่อดีต โดยมีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับท่านมาหลายครั้งทำให้ศิษยานุศิษย์ มีความเชื่อศรัทธา
จนให้ฉายาท่านว่า"ลูกพญานาค" อาทิ ก่อนการก่อสร้างองค์พระธาตุมหาชัย ได้เกิดเรื่องประหลาด มีงูมาปรากฏกายช่วงการก่อสร้าง ทำให้ช่างก่อสร้างสอบถามท่าน จึงรู้ที่มาว่ามาแสดงปาฏิหาริย์ให้รู้ว่ามีพญานาค 5 องค์ที่จะมาปกปักรักษา และให้สร้างองค์พญานาค 5 เศียร ไว้บริเวณองค์พระธาตุมหาชัย
มีตำนานเรื่องเล่าความเชื่อความศรัทธาอีกมากมาย ที่แสดงออกถึงปาฏิหาริย์ ความเชื่อพญานาคที่มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่คำพันธ์ จนได้ชื่อว่า"เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง" โดยถึงแม้ท่านละสังขารมานานกว่า 20 ปี ก็ยังมีประชาชนที่เคารพศรัทธา และเดินทางมากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสาย ส่วนการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงยังไม่มีกำหนด
วัตถุมงคลของท่านมีหลายรุ่นหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงจะเป็นวัตถุมงคลที่เป็นรูปปั้น หรือเหรียญพญานาค มีพุทธานุภาพในด้านเมตตามหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาดปลอดภัย
สำหรับวัดป่ามหาชัยถือเป็นวัดที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมประชาชน เมื่อปี 2529 เป็นต้นมา และได้พระภิกษุจากอาวาสต่างๆ ใน จ.นครพนม สนใจแนวทางการปฏิบัติกรรมฐาน เข้ามาเรียนรู้และลองปฏิบัติ จนเกิดความเข้าใจในหลักพระกรรมฐาน ได้นำไปเผยแผ่ในเขตอาวาสของตน การปฏิบัติธรรมกรรมฐานได้แพร่หลายใน จ.นครพนม จนถึงปัจจุบัน วัดป่ามหาชัย จึงเป็นวัดต้นแบบของการฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ในเขต จ.นครพนม
#ฉัตรสยาม
コメント