รำลึกวันวายชนม์ปีที่57 "แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม" ผู้สร้าง"พระพุทโธน้อย"
ทีมข่าวคัมภีร์นิวส์ร่วมน้อมรำลึก วันที่ 7 กันยายน 2564 ครบ 57 ปีวันวายชนม์ คุณแม่บุญเรือน หรือ"แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม" อุบาสิกาผู้สร้าง "พระพุทโธน้อย" วัตถุมงคลอันเลื่องชื่อในด้านอิทธิฤทธิ์ และบารมีในการช่วยเหลือผู้คน อีกทั้งเปี่ยมล้นไปด้วยพุทธคุณ
แม่ชีบุญเรือน เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค. 2437 ในครอบครัวนายยิ้ม และนางสวน กลิ่นผกา ชาวสวนผู้ยากจนย่านคลองสามวา อ.มีนบุรี กทม. ซึ่งต่อมาได้อพยพครอบครัวย้ายมาอยู่ที่ ต.บางปะกอก อ.ราษฎร์บูรณะ นอกจากจะมีความรู้เรื่องการบ้านการเรือนเยี่ยงสุภาพสตรีในยุคนั้น อาทิ ปรุงอาหารโอชารส เย็บจักรตัดเสื้อผ้าได้ ฯลฯ แล้ว ท่านยังมีความสามารถพิเศษในเรื่องการนวดเพราะได้รับครอบวิชาและตำราหมอนวดมาจากปู่ สามารถใช้ความรู้นี้นวดรักษาผู้มีโรคภัยไข้เจ็บมาตั้งแต่ยังสาว
ท่านแต่งงานกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติมตำรวจประจำ สน.สัมพันธวงศ์ ไม่มีบุตร-ธิดาด้วยกัน หากแต่ได้รับธิดาบุญธรรมไว้เลี้ยงดูผู้หนึ่ง ขณะที่ครองชีวิตคู่โดยพักอยู่ที่บ้านพักตำรวจนั้น ท่านประกอบอาชีพรับตัดเสื้อผ้า ส่วนการนวดรักษาโรคนั้นทำเป็นกุศลไม่รับค่าจ้าง
ความใฝ่ใจในทางธรรมของท่านเกิดขึ้นจากการได้รับการชี้แนะจาก "หลวงพ่อพริ้ง" เจ้าอาวาสวัดบางปะกอก ผู้เป็นลุง ซึ่งท่านได้นำภัตตาหารไปถวายอยู่เนืองๆ เมื่อแต่งงานมาอยู่กับสามีแล้วก็ได้ไปถือศีล สวดมนต์ ฟังธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีตำรวจอยู่เป็นประจำ โดยมี พระมหารัชมังคลาจารย์ (เทศ นิทเทสกเถระ) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากรรมฐานให้
เมื่อปฏิบัติหนักเข้า อุบาสิกาบุญเรือนก็ได้มาบวชเป็นแม่ขาวถือศีลภาวนาที่วัดอยู่หลายปี แล้วลาสิกขาไปอยู่กับสามีที่บ้านพักตำรวจ ระหว่างนั้นก็ยังมาทำบุญฟังธรรมอยู่เป็นประจำ หลังสามีเสียชีวิตเพราะเป็นลมขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุอัคคีภัย อุบาสิกาบุญเรือนได้หวนกลับมาบวชเป็นแม่ชีอยู่อีกหนหนึ่งแล้วก็ลาสิกขาไป
แต่พระมหารัชมังคลาจารย์ ว่า ยิ่งอุบาสิกาบุญเรือนมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีความเพียรมากขึ้น ไม่ได้ละทิ้งการปฏิบัติเลย กลับมีความรู้ความสามารถกว้างขวาง เป็นที่เคารพของคนทั่วไปตามลำดับ จนสามารถชักนำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาสนใจในพระพุทธศาสนาศรัทธาของผู้คนเหล่านั้นส่วนหนึ่งเกิดจากการช่วยเหลือสงเคราะห์ให้พวกเขาหายป่วยหายไข้ หายโรคหายภัย
แม่ชีบุญเรือนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีฤทธิ์ วาจาศักดิ์ สิทธิ์ พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้นในทันที แค่สั่งให้โรคหายก็หายได้ในทันทีเช่น คนปากเบี้ยวตาค้างหลับไม่ลงน้ำตาคลออยู่ตลอดแต่ไม่ไหลมาหา ท่านก็สั่งว่า “หลับลงๆ” ปรากฏว่าเขาก็หลับลงทันที ปากก็หายเบี้ยวทันที คนอาการวิปลาส ญาติเอาปูนแดงไปทาก็หาย กระดูกงอกไม่ต้องผ่าตัดเอาปูนไปทาปูนก็ตัดกระดูกนั้นให้หลุดออกมาเองได้
นอกจากนี้ ท่านยังระลึกชาติได้ ทราบเรื่องที่คนอื่นพูดกันในที่ไกลๆ รู้เห็นสิ่งต่างๆ ราวกับไปดูด้วยตาได้ยินกับหูมาด้วยตัวท่านเอง
คำเทศน์สอนของคุณแม่บุญเรือนเน้นไปที่การปฏิบัติเพื่อเข้าถึงพุทธธรรม ท่านบอกถึงหนทางของการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงพุทธธรรมไว้ว่า ผู้ที่จะเข้าถึงพุทธธรรมต้องเชื่อมั่นในความตรัสรู้จริงของพระพุทธเจ้า การจะทำสมาธิลุล่วงตามแบบพระพุทธองค์นั้นต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์ด้วย ถ้าศีลไม่วิสุทธิ์ก็จะเสียเวลาเปล่า
วันที่ 7 กันยายน 2507 เวลา 11.20 น. แม่บุญเรือน โตงบุญเติม ได้วางสังขารทิ้งร่างจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
จากการที่ท่านได้อภิญญาทั้งหมด ทำให้แรงอธิษฐานธรรมประจุพระพุทธรูป และพระเครื่องสำคัญ รวมไปถึงสิ่งของต่างๆ มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก รวมไปถึงพระเครื่องชุดสำคัญ คือ พระพุทโธองค์ใหญ่ ซึ่งได้จัดทำพิธีหล่อสร้างที่วัดสัมพันธวงศ์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2496 แล้วสมโภชครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 4 ถึง 13 มีนาคม 2499 ก่อนจะอัญเชิญไปวัดสารนารถธรรมาราม อ.แกลง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2499 และประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดสารนาถธรรมารามจนถึงปัจจุบัน ท่านอธิษฐานจิตให้ตลอดการดำเนินงาน
ส่วนพระพุทโธองค์เล็ก หรือพระพุทโธน้อย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ สร้างขึ้นที่วัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัดนอก ธนบุรี โดย พระอาจารย์สงวน โฆสโก เจ้าอาวาสวัดอาวุธฯ ในขณะนั้น คุณแม่บุญเรือนได้ร่วมสร้างและทำพิธีอธิษฐาน เมื่อ 11-13 กันยายน 2494 จัดสร้างรวมจำนวน 100,000 องค์ และกลายเป็นพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์ในด้านเมตตามหานิยม ป้องกันภัย แคล้วคลาด เจริญโภคสมบัติ กำจัดโรคร้าย จนแม้แต่เซียนพระชื่อดัง “บอย ท่าพระจันทร์” ยังพกพาบูชาติดตัวตลอดเวลา
댓글