รำลึกครบ4 ปีมรณกาล "หลวงพ่อรวย วัดตะโก" อมตะเกจิดัง-นามมงคล
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอเรื่องราวประวัติของสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ย้อนไปเมื่อวันพุธที่ 19 ก.ค. 2560 แวดวงพระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองกรุงเก่าต้องสูญเสียพระมงคลสิทธาจารย์ หรือ"หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก" เจ้าอาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมรณภาพด้วยโรคชราภาพ เมื่อเวลา 21.00 น. ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กทม. รวมสิริอายุ 95 ปี 7 เดือน 10 วัน 76 พรรษา นับถึงวันนี้ครบ4ปีแห่งมรณกาล
หลวงพ่อรวยเป็นพระเกจิที่มีความขลังเป็นอมตะ มีความเป็นอยู่สมถะ เรียบง่าย พูดน้อย ถามคำตอบคำ เป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ เก่งทางด้านเมตตา มหานิยม โชคลาภ วัตถุมงคลที่โด่งดังคือ"เลสข้อมือ" ร่ำลือไปทั่วประเทศ สร้างกี่ครั้งก็หมดในพริบตา เป็นที่นิยมของนักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศ
ท่านได้สืบทอดพุทธาคมมาจากหลวงพ่อชื่น วัดภาชี ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งสืบทอดวิชาพุทธาคม มาจากหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ผู้เป็นพระบูรพาจารย์ที่โด่งดังเลื่องลือกิตติศัพท์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งสืบสายพุทธาคมโดยตรง จากหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ที่เชี่ยวชาญวิชาอาคมโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรีเป็นหนึ่ง อีกด้วย
ท่านถือกำเนิดเมื่อ พ.ศ.2464 ณ บ้านตะโก หมู่ที่ 2 ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรี อยุธยา เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน 8 คน (ชาย 3 หญิง 5) ของโยมบิดา ชื่อ "มี" โยมมารดา ชื่อ "สินลา" นามสกุล "ศรฤทธิ์" (บรรพบุรุษของสกุลศรฤทธิ์นี้ เป็นเชื้อสายชาวกรุงศรีสัตนาคนหุต)
ชีวิตในปฐมวัยได้ช่วยเหลือพ่อแม่ประกอบอาชีพทางด้านเกษตร ทั้งช่วยเหลือเลี้ยงดูเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย มาโดยตลอด เมื่ออายุ 12 ปี ได้เข้ารับการศึกษาเบื้องต้น ในโรงเรียนวัดตะโก โดยอาศัยพระสงฆ์เป็นครูสอนบนศาลาการเปรียญ จนอ่านออกเขียนได้ มีความรู้เทียบได้ชั้นประถมปีที่ 4
เมื่ออายุ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดตะโก โดยมีพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยในด้านพระคันถธุระ (พระปริยัติธรรม) สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี
อายุครบบวช ราว พ.ศ.2484 ก็อุปสมบท ณ วัดตะโก โดยมีพระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อชื่น) เจ้าอาวาสวัดภาชี เจ้าคณะอำเภอภาชีเป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดจ้อย เจ้าอาวาสวัดวิมลสุนทร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสวัดตะโก (ในสมัยนั้น) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปาสาทิโก" แล้วอยู่จำพรรษาที่วัดตะโกเรื่อยมา ได้ศึกษาด้านคันถธุระพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม จนสอบได้นักธรรมชั้นโทใน พ.ศ.2485 และนักธรรมชั้นเอกใน พ.ศ.2487
หลังจากนั้นท่านไเออกเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเรียนพระกรรมฐานกับครูบาอาจารย์เก่งๆ ในยุคนั้น เช่น หลวงพ่อชื่น วัดภาชี อยุธยา เชี่ยวชาญด้านวิปัสนากรรมฐานที่สืบทอดพุทธาคมมาจากหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ องค์ต่อมาคื หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ เชี่ยวชาญเวทมนต์คาถาอาคม ได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้หลวงพ่อรวยทุกอย่าง
ทั้งนี้ หลวงพ่อรวยพระเกจิที่มีนามเป็นมงคล เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ เชี่ยวชาญสรรพเวทวิยาคม วัตถุมงคลเข้มขลังเปี่ยมพลังพุทธคุณมากประสบการณ์ แคล้วคลาด นิรันตราย และเมตตามหานิยม โชคลาภ เป็นหนึ่ง คาถามหาลาภ..."สัมพุทธชิตา จะ สัจจานิ เกรัตสะ พระพุทธชิตา สัพพโส คุณะวิภา สัมปัตโต นะรุตตะโม มหาลาภัง ภวันตุ เม
ทั้งนี้ ทางวัดตะโกปฏิบัติตามประการ ศบค. โดยจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเป็นการภายใน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 (โควิด-19) ทั้งนี้สามารถร่วมบุญออนไลน์อุทิศถวายหลวงพ่อรวยได้ที่ ธ.ไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี วัดตะโก เลขที่ 544 236957 3
Comments