top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนอ.อนุชา ทรงศิริ

หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ(หลวงปู่เจ)-83ปี เกจิสายกรรมฐานวัดป่าวิเวกธรรม กาฬสินธุ์ ศิษย์สายตรง"หลวงพ่อคง"วัดเขาสมโภชน์

หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ(หลวงปู่เจ)-83ปี

เกจิสายกรรมฐานวัดป่าวิเวกธรรม กาฬสินธุ์

ศิษย์สายตรง"หลวงพ่อคง"วัดเขาสมโภชน์


ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณของพระดีเกจิดังแห่งเมืองน้ำดำ. หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ (หลวงปู่เจ) ประธานสงฆ์วัดป่าวิเวกธรรม ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์

ศิษย์เอกสายตรง"หลวงพ่อคง จตฺตมโล” ผู้มีฉายา (พระอรหันต์ร่างทอง) แห่งวัดเขาสมโภชน์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี


ท่านมีนามเดิมว่า "บุญมา แก้วปัญญา" เกิดเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ณ บ้านเลขที่ ๙๗ หมู่ ๔ บ้านพยอม ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด บิดาชื่อ นายมี แก้วปัญญา มารดาชื่อ นางลี แก้วปัญญา

อุปนิสัย ฉันอาหารเจ ละเว้นการเบียดเบียน มีเมตตาธรรมและความเพียรเป็นเลิศ


หลวงปู่ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร จนอายุครบอุปสมบทท่านก็ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระในสังกัดมหานิกายที่วัดบ้านเกิด โดยได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งปริยัติและปฏิเวธ อักษรธรรม การเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ จากท่านเจ้าอาวาสในสมัยนั้นจนแตกฉาน


ท่านกล่าวว่า “ท่านเองเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง และเป็นคนว่านอนสอนง่าย” เจ้าอาวาสที่เป็นพระอาจารย์ของท่านมักยกย่องและชื่นชมอยู่เสมอ แต่ด้วยคนอีสานสมัยก่อนลำบาก ยากจน บิดา-มารดาจึงขอร้องให้ท่านออกมาครองเพศเป็นฆราวาส เพื่อจะได้เป็นกำลังหลักหาเลี้ยงครอบครัว ท่านเองเลยจำใจและตัดสินใจลาสิกขาออกมาครองเพศเป็นฆราวาส เพื่อเลี้ยงดูพ่อ-แม่ และครอบครัว


หลังจากออกมาครองเพศบรรพชิต ท่านยังคงถือศีล ๕ อย่างเคร่งครัด มีงานปฏิบัติธรรมที่ไหน ถ้าทราบข่าวท่านก็ไปร่วมตลอดเกือบทุกงาน และหาเลี้ยงครอบครัวด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ครองตน ครองเรือนด้วยศีลธรรม” เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้าน จนชาวบ้านขนานนามท่านว่า ”ญาพ่อธรรมเจ”


ต่อมาอีกหลายสิบปีท่านตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต สละทุกอย่างทางโลกแล้วเข้าอุปสมบทคครั้งที่2 ณ วัดอรุณรังษี ตำบลบางลูกเสือ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

สังกัด มหานิกาย เมื่อวันที่ ๑ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ เวลา ๐๙.๓๐ น.

โดยมี พระครูอรุณวิริยกิจ (หลวงพ่อสายตาบ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เทือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ประสิทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์


หลังอุปสมบทแล้วท่านได้ศึกษาเล่าเรียนกรรมฐานและสรรพวิชาต่างๆเบื้องต้นกับพระหลวงพ่อสายตาบ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์อยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งวันหนึ่งมีพระรูปหนึ่งธุดงค์มาพักแรมที่วัดอรุณรังษี ท่านเลยเข้าไปสนทนาด้วยจึงได้ทราบว่าพระรูปนี้เดินทางมาจากวัดเขาสมโภชน์ซึ่งได้ไปศึกษาเล่าเรียนกรรมฐานเปิดโลกกับ”หลวงพ่อคง”และเล่าประสบการณ์ที่ได้ไปศึกษากับหลวงพ่อคงให้ท่านฟัง


เมื่อท่านได้ฟังอย่างนั้นจึงเกิดความสนใจและอยากไปศึกษา”กรรมฐานเปิดโลก”ที่วัดเขาสมโภชน์ จึงกราบลา”หลวงพ่อสายตาบ”และออกเดินทางไปศึกษาธรรมกรรมฐานเพิ่มเติมที่”สำนักกรรมฐานเปิดโลก"กราบฝากกายถวายชีวิตเป็นลูกศิษย์"หลวงพ่อคง จตฺตมโล” ผู้มีฉายา (พระอรหันต์ร่างทอง) แห่งวัดเขาสมโภชน์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี


ในเบื้องต้นหลวงพ่อคงแนะนำหลักการปฏิบัติกรรมฐานเปิดโลกให้ฟังอย่างละเอียดและให้ท่านนำกลับไปปฏิบัติ ท่านเล่าว่า ”การได้เข้าไปปฏิบัติในวัดเขาสมโภชน์สมัยนั้น ท่านรีบเร่งทำความเพียรจนเกิดความรู้ภายในต่างๆก้าวหน้าจากเดิมไปมาก หากติดขัดอะไรก็เข้าไปถามหลวงพ่อคง ท่านก็แก้ให้จนสามารถปฏิบัติไปได้โดยลำดับ


ในสมัยนั้นท่านมีหมู่คณะที่ศึกษาอยู่ร่วมกันหลายรูปพอสมควร” เมื่อท่านอยู่ที่วัดเขาสมโภชน์สักระยะหนึ่ง เมื่อได้หลักการปฏิบัติกรรมฐานแล้ว ประกอบกับหลวงพ่อคงได้มรณภาพลง ท่านจึงตัดสินใจออกเดินทางธุดงค์ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพรไปยังพื้นที่ต่างๆ ลงไปทางภาคใต้ถึงอำเภอสวี จังหวัดชุมพร กลับขึ้นมาทางเหนือถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อนกลับมาภาคอีสานอีกครั้งเพื่อเดินทางสู่บ้านเกิด


ท่านได้กลับไปสร้างวัดป่าแห่งหนึ่งใกล้บ้านเกิดของท่านคือวัดป่าสิบเก้า บ้านบึงโดน ในช่วงเวลานี้ ท่านก็ยังออกธุดงค์ไปๆมาๆอีกหลายสถานที่ โดยมีโอกาสไปสนทนาธรรมและขอสรรพวิชาพระคาถาต่างๆ กับพระเทพวิทยาคม ”หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” แห่งวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา และได้พักจำวัดอยู่วัดบ้านไร่หลายครั้ง


เมื่อเดินทางออกจากวัดบ้านไร่ท่านก็แวะไปสนทนาธรรมและพักกับ “หลวงพ่อทอง ชินวํโส” วัดป่าหิมพานต์ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา(สหายธรรมของท่าน) ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางกลับมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดป่าวิเวกธรรม อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ด้วยวัดแห่งนี้ท่านก็เป็นหนึ่งในผู้มาร่วมบุกเบิกโคกป่าช้า ๗ หมู่บ้าน ร่วมพลิกแผ่นดินแผ่นป่าให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนาร่วมกับ“พระอาจารย์ยุทธ จันทสาโร”ผู้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทอง ชินวํโส

ต่อมาวันหนึ่งหลวงปู่เจนิมิตเห็นถ้ำแห่งหนึ่ง มีพญานาค ๒ ตน เฝ้ารักษาอยู่ พญานาค ๒ ตนนี้ได้มากราบนิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษา ณ สถานที่ดังกล่าว (ความเชื่อส่วนบุคคล)ท่านจึงออกเดินธุดงค์อีกครั้งตามนิมิต และในที่สุดก็ไปเจอถ้ำนี้อยู่ที่เขาลูกหนึ่ง ในเขตอำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ท่านจึงจำพรรษาอยู่ที่นั่นหลายพรรษา


หลวงปู่เจเล่าว่า ”ที่ถ้ำพญานาคแห่งนี้สมัยนั้นลำบากมาก ระยะทางจากถ้ำลงไปยังหมู่บ้าน เดินลงไปรับบิณฑบาตรมาฉันในแต่ละวัน ระยะทางไปกลับ ๑๐ กิโล ใช้เวลาเกือบ ๑ ชั่วโมงในแต่ละวัน หลวงปู่ท่านปฏิบัติอย่างเอาเป็นเอาตาย เร่งทำความเพียรอย่างมาก เดินจงกรม นั่งภาวนา เจริญจิตเมตตาภาวนาทุกวัน เจริญสติ เจริญปัญญา เพื่อชำระกิเลสน้อยใหญ่ภายในใจของตน ท่านว่า ”ท่านได้ธรรมมาเป็นเครื่องครองใจของตน ณ ถ้ำแห่งนี้ ”


หลวงปู่นับว่าเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่จำพรรษาและได้บุกเบิกนำความเจริญเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้ ก่อนที่จะกลับลงมาจำพรรษาที่วัดป่าวิเวกธรรมอีกครั้งตามคำอาราธนานิมนต์ของ พระอาจารย์ยุทธ จันทสาโร พร้อมทายกทายิกาวัดป่าวิเวกธรรม ด้วยเหตุที่ว่าหลวงปู่ต้องกลับมาเป็นกำลังหลักในการสร้างวัดป่าวิเวกธรรมแห่งนี้เพราะท่านเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนในเขตนั้นเป็นอย่างมาก ประกอบกับท่านก็ชราภาพมากแล้วตามอายุสังขาร ท่านจะได้มีลูกพระ ลูกเณร ญาติโยมค่อยดูแลอุปัฏฐากกอย่างใกล้ชิด หลวงปู่ท่านก็ตอบรับกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าวิเวกธรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน


วัดป่าวิเวกธรรม เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมประจำอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ มีพระ เณร ร่วมจำพรรษานับ 10 รูป ในทุกๆปีในช่วงเดือนมกราคมของทุกปีวัดจะมีการจัดโครงการเข้าปริวาสกรรม และปฏิบัติธรรม ออกเดินธุดงค์ธรรมะสัญจรไปยังสถานที่สำคัญต่างๆเช่น พระธาตุพนม พระธาตุนาดูน พระธาตุยาคู เทือกเขาภูพาน มีพระสงฆ์ สามเณรและพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมปฏิบัติธรรมไม่ต่ำกว่าปีละ 200 คน และในช่วงเดือน เมษายน ของทุกปีก็ทางวัดก็จะจัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระ เกียรติ มีนักเรียน นักศึกษา พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างมาก


หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ หรือ (หลวงปู่เจ) ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มุ่งเน้นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ท่านเป็นพระที่มักน้อย พูดน้อย ชอบความวิเวก สันโดษ มีเมตตาเป็นเลิศ มีความเพียรเป็นเลิศ ละเว้นการเบียดเบียน ประพฤติตนอยู่ในพระธรรมวินัย รักษาข้อวัตรปฏิบัติ รักษาพระธรรมวินัย เป็นพระผู้ปฏิบัติตนตามรอยแห่งองค์พระศาสดาและเป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง


ด้านการจัดสร้างวัตถุมงคล ในปี ๒๕๖๐ ทางคณะกรรมการวัดป่าวิเวกธรรม ได้จัดสร้างเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกกฐินสามัคคีและนำออกมาให้ญาติโยมได้บูชาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาปัจจัยก้อนแรกในการก่อสร้างอุโบสถ และหลังจากปี ๒๕๖๐เป็นต้นมาทางวัดก็ได้อนุญาตให้คณะบุคคลต่างๆได้เข้ามาจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่เรื่อยมาโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหาปัจจัยสมทบทุนในการก่อสร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จเป็นถาวรวัตถุคู่พระพุทธศาสนาสืบไป


เรียบเรียง/เผยแผ่โดยนายภานุพล เทพดู่ (ครูจ๊อด) พร้อมคณะศิษย์ หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ (หลวงปู่เจ)


ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page