top of page
ค้นหา

"หลวงปู่สวน ปญฺญาปสุโต" วัดวังทรายพูน เกจิพิจิตร/น้องแท้ๆ"ปู่นวล"วัดหนองจอก สหธรรมิก"หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม "เหรียญเจริญพรบน"รุ่นแรกวัดจัดสร้าง

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

"หลวงปู่สวน ปญฺญาปสุโต" วัดวังทรายพูน

เกจิพิจิตร/น้องแท้ๆ"ปู่นวล"วัดหนองจอก

สหธรรมิก"หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม

"เหรียญเจริญพรบน"รุ่นแรกวัดจัดสร้าง

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติ "หลวงปู่สวน ปญฺญาปสุโต" หรือพระครูวิจารณ์อรรถกิจ อายุ 94 ปี 52 พรรษา อดีตเจ้าคณะอำเภอกิตติมศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดวังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร พระมหาเถระผู้มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส เป็นพระสุปฏิปันโนที่น่ากราบไหว้ โดยท่านเป็นพระน้องชายแท้ๆของ "หลวงปู่นวล อัคคธัมโม" อายุ97ปี เกจิดังแห่งวัดศรีสุทธาวาส หรือ"วัดหนองจอก" อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร

พื้นเพของของท่านเป็นคนหนองเต่า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มีนามเดิมว่า "สวน" นามสกุล "กำเนิดทอง" เกิดวันที่12พฤษภาคม พ.ศ.2473 บิดาชื่อ"รอด" มารดาชื่อ"น้อย"

มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน ชาย 3 หญิง 3 เดิมครอบครัวมีอาชีพทำนา เมื่อปีพ.ศ. 2483 นาข้าวประสบปัญหาน้ำท่วมเสียหาย บิดาจึงพาครอบครัวอพยพมาอยู่ที่จ.พิจิตร

ปีพ.ศ. 2515 ท่านได้อุปสมบทโดยมีหลวงพระครูพิทักษ์ปิยะกุล เป็นพระอุปัชฌาย์

พระสมุห์ทิศ อัคควังโส เป็นพระกรรมวาจาจานย์ พระแก้ว ฉันทจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังบวชจำพรรษาที่วัดคลองสะแกหนึ่งพรรษา จากนั้นมาจำพรรษาที่วัดวังทรายพูน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2517 จนถึงปัจจุบัน โดยสอบได้นักธรรมเอก งานปกครองเป็นเจ้าอาวาสวัดวังทรายพูน,

เจ้าคณะตำบล, พระอุปัชฌาย์,เจ้าคณะอำเภอ

พระครูกิตติมศักดิ์ จนปัจจุบัน

หลวงปู่สวนท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาด้วยตัวเองจนสำเร็จแตกฉานวิชายันต์มงกุฎพระพุทธเจ้าและยันต์แคล้วคลาด โดยท่านใช้ยันต์ทั้งสองนี้เป็นยันต์ประจำตัว ซึ่งเป็นวิชาที่สืบทอดวิชาเดียวกันกับหลวงปู่จันทา ถาวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน (ศิษย์สายตรงหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี)

ทั้งนี้ "ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า" เป็นหนึ่งในยันต์ที่หลวงปู่ใช้ประจำ เป็นสุดยอดคาถาที่มีมาแต่โบราณกาล หรือที่รู้จักในนามของ

“อิติปิโสเรือนเตี้ย” พระคาถาที่หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง ถวายแด่รัชกาลที่5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป ได้ทรงใช้ปราบม้าพยศ

คาถานี้เป็นคาถาหนุนดวงชะตา เมตตามหานิยม สยบสัตว์ร้าย และป้องกันอันตรายได้

มีตัวคาถาว่า “ อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ “

จากคำบอกเล่า ในสมัยเมื่อครั้ง"หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย" วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี ยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ หลวงปู่สวนได้เดินทางไปพบปะ สนทนาธรรมร่วมกันบ่อยครั้ง หรือสามารถเรียกได้ว่าท่านทั้งสองเป็นสหธรรมิกกันก็ว่าได้

หลวงปู่สวนเป็นพระอาวุโสที่มีจริยวัตรสมถะ เรียบง่ายสันโดษ และชอบปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอเป็นปกติวิสัยมาตั้งแต่วัยเด็ก ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ปัจจุบันแม้ว่าอายุท่านจะมาก แต่ความจำยังเป็นเลิศ ยังสวดมนต์ทำวัตรได้อย่างคล่องแคล่ว เสียงดังฟังชัด เป็นพระอุปัชฌาย์ที่น่าเคารพ ทั้งท่านยังมีความเมตตาสูง จึงไม่แปลกที่หลวงปู่เป็นที่เคารพศรัทธาของลูกหลานวังทรายพูน และพื้นที่ข้างเคียงมาอย่างยาวนาน

สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงปู่สวนท่านอนุญาตให้จัดสร้างและเมตตาปลุกเสก ท่านจะตั้งใจอธิษฐานจิต และบริกรรมคาถาปลุกเสกด้วยตัวท่านเอง จึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มาก ลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่นำไปบูชาติดตัวมีประสบการณ์ทั้งในเรื่องของแคล้วคลาดปลอดภัย รอดพ้นจากภยันอันตรายอย่างน่าอัศจรรย์ โดยมีเรื่องกล่าวกันว่า เกิดอุบัติเหตุอย่างหนักถึงขนาดรถเละ แต่ยังรอดชีวิตมาได้โดยไม่เป็นอะไรมาก นอกจากนี้ ยังดีทางเมตตามหานิยม คงกระพัน ป้องกันคุณไสย์

ล่าสุด ในวาระที่หลวงปู่สวนเจริญอายุวัฒนมงคลครบ 94 ปี (วันที่ 12 พ.ค. 67) มีการจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนรุ่น"เจริญพร" ซึ่งทางวัดจัดสร้างเป็นรุ่นแรก โดยจะทำพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 12 พ ค. 67 เวลา 09.09 น.

พระเกจิชื่อดัง นั่งปรกอธิษฐานจิต 1.หลวงปู่สวน วัดวังทรายพูน จ.พิจิตร 2.หลวงปู่นวล อัคคธัมโม วัดหนองจอก จ.พิจิตร 3.หลวงพ่อพิมพ์ ผลปุญโญ วัดพฤกษะวัน จ.พิจิตร

4.พระครูวิมลสัทธาธิคุณ (หลวงตาหมู) วัดดงป่าคำ จ.พิจิตร 5.พระครูสิริวิสุทธิสาร(หลวงพ่อทรงธรรม) วัดทรงธรรม จ.พิจิตร


ดู 252 ครั้ง0 ความคิดเห็น

コメント


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page