top of page
ค้นหา

"หลวงปู่ปั่น กวิสสโร"-อายุ 92 ปีเกจิดังวัดหนองกระทุ่ม จ.นครปฐม

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

"หลวงปู่ปั่น กวิสสโร"-อายุ 92 ปี เกจิดังวัดหนองกระทุ่ม จ.นครปฐม ศิษย์เอกหลวงปู่หลิว เทพเจ้าเต่าเรือน

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติ และวัดขอพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองนครปฐม วัดหนองกระทุ่ม หมู่ที่ 6 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย เดิมเป็นที่พักสงฆ์ ในปี พ.ศ.2479 ได้ประกาศเป็นวัดโดยสมบูรณ์ ได้ผูกพัทธสีมาเมื่อปี พ.ศ.2534 มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 28 ไร่ 3 งาน เจ้าอาวาสองค์แรกคือ พระครูสถิตวุฒิคุณ หรือ"หลวงพ่อปลั่ง เขมจารี" อดีตเจ้าคณะตำบลทุ่งลูกนก

ส่วนเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูโกศลนวการหรือ"หลวงปู่ปั่น กวิสสโร" อายุ 92 ปี เจ้าคณะตำบลทุ่งลูกนก ศิษย์เอกหลวงปู่หลิว ปัณณโก วัดไร่แตงทอง “เทพเจ้าแห่งพญาเต่าเรือน”

หลวงปู่ปั่นเกิดในสกุล"รูปสม" เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2472 บิดาชื่อนายกัน มารดาชื่อนางปัด อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 7 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่ออายุ24ปี ได้อุปสมบท ณ วัดสนามแย้ ต.สนามแย้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ตรงกับวันที 26 มี.ค. 2496 โดยมี พระครูจริยาภิรัต(โป๊ะ) เจ้าอาวาสวัดลูกแก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพุทธสรโสภณ เจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้น เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการหลิว เจ้าอาวาสวัดสนามแย้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากบวชแล้วได้ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม จนสอบได้ นักธรรม ตรี โท เอก ตามลำดับ จากนั้นจึงไปศึกษาวิชาไสยเวทย์ พระคาถาพุทธาคมต่างๆ จากหลวงปู่หลิว ปุณณโก เจ้าอาวาสวัดสนามแย้ ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น หลวงปู่หลิวจึงบอกให้ไปเรียนกับพระเกจิอีกรูปหนึ่งคือหลวงปู่หนู ฉินนกาโม วัดทุ่งแหลม จ.ราชบุรี ผู้เป็นเอกแห่งวิชาหนุมานเชิญธง

นอกจากนี้ ยังได้ไปเรียนกับหลวงพ่อหว่าง ธัมมสโร วัดกำแพงแสน ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก และเป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง อีกทั้งไปเรียนกับหลวงพ่อลำเจียก ติสสโร วัดศาลาตึก,พระครูสถิตวุฒิคุณหรือ"หลวงพ่อปลั่ง เขมจาโร" วัดหนองกระทุ่ม

ทั้งนี้ หลวงพ่อหว่าง วัดกำแพงแสน ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน ด้วย หลวงปู่ปั่นจึงนับเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่แผ้ว

เมื่อปี 2516 หลวงปู่หลิวสร้างเหรียญเต่าเรือนรุ่นแรก ท่านได้ให้หลวงปู่ปั่นร่วมปลุกเสกด้วย โดยหลวงปู่หลิวกล่าวว่า "เราได้ถ่ายทอดวิชาพญาเต่าเรือนให้จนหมดสิ้นแล้ว ท่านทำเราทำ ก็เป็นตำรับเดียวกัน”

ในพิธีครั้งนั้นมีพระเกจิ 5 รูปนั่งปรกอธิษฐานจิตคือ หลวงปู่หลิว วัดสนามแย้, หลวงพ่อบ้อง วัดห้วยผักชี, หลวงปู่ปั่น วัดหนองกระทุ่ม, พระอาจารย์จุ่น วัดเขาสะพายแร้ง จ.กาญจนบุรี พระอาจารย์ดา วัดดาปานนิมิต จ.กาญจนบุรี

ในปี2520 มีการจัดสร้างพญาเต่าเรือนขนาด 40 นิ้ว เนื้อเรซิ่น ณ วัดไทรทอง จนปี2530 หลวงปู่หลิวได้เริ่มสรา้งวัดไร่แตงทอง และได้มีศิษย์สร้างเต่าขนาด40นิ้ว เนื้อทองเหลือง หลวงปู่หลิวจึงมอบตัวเก่าที่เป็นเรซิ่นสร้างปี2520ให้มาอยู่ที่วัดหนองกระทุ่มจนถึงปัจจุบัน

หลวงปู่ปั่นมักได้รับการนิมนต์จากหลวงปู่หลิว ในพิธีใหญ่ๆ เช่น พิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาราศีเป็นพิธีโบราณจะให้หลวงปู่ปั่นไปช่วยทุกครั้ง การปลุกเสกวัตถุมงคลหลายวัดหลายแห่งจะนิมนต์หลวงปู่ปั่นไปปลุกเสกด้วยเสมอ

เมื่อปี 2536 หลวงปู่หลิวมอบเหรียญพญาเต่าเรือนรุ่นไตรมาสให้หลวงปู่ปั่นไปจำหน่ายนำรายได้เข้าวัด ใครมาขอบูชาเหรียญเต่ารุ่นไตรมาส หลวงปู่หลิวก็ให้ไปบูชาที่หลวงปู่ปั่นวัดหนองกระทุ่ม

ปัจจุบันในกุฎิหลวงปู่ปั่นมีรูปเหมือนหลวงปู่หลิวนั่งหลังพญาเต่าเรือน เนื้อเรซิ่นขนาดใหญ่เท่าองค์จริง ซึ่งหลวงปู่หลิวได้มอบให้หลวงปู่ปั่นเป็นองค์แรกที่จัดสร้างไว้ด้วย

หลวงปู่ปั่นท่านออกเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ในปี2526 ที่ระลึกออายุ 55 ปี ด้านหลังเป็นรูปพระปิดเล็ก ส่วนเหรียญรุ่น2 ออกปี2536 ด้านหลังพระปิดตาใหญ่

แม้จะได้รับการถ่ายทอดวิชาพญาเต่าเรือนจากหลวงปู่หลิวตั้งแต่ปี2516 แต่ท่านไม่เคยจัดสร้างพญาเต่าเรือนเลย จนกระทั่งปี2561 ท่านจึงจัดสร้างเหรียญพญาเต่าเรือน รุ่นแรก รวมระยะเวลาถึง 45 ปี

วัตถุมงคลของท่านแรงจริง...ดังจริง...ขลังจริง ไม่ต้อง"ปั่น" พุทธคุณดีเด่นในเรื่อง เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด






 
 
 

Comentários


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page