top of page
ค้นหา

"หลวงพ่อจอย"เกจิวัดโนนไทย

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

"หลวงพ่อจอย"เกจิวัดโนนไทย

เสกเหรียญรุ่น1ลูกประคำแตก!

"พ่อคูณ"ย้ำองค์นี้แทนตัวกูได้!


ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติ พระครูอนุวัติชินวงศ์ หรือ"หลวงพ่อจอย ชินวังโส" อายุ82ปี พระดีเกจิดังแห่งวัดโนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ศิษย์เอกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ เหตุที่เรียกว่าศิษย์เอกก็เพราะว่า หลวงพ่อคูณท่านกล่าวรับรองเอาไว้กับคนโคราชว่า “หลวงพ่อจอยองค์นี้แหละที่ทดแทนตัวกูได้”


พื้นเพท่านเป็นชาว อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ

มีนามเดิมว่า "วิชิต" นามสกุล "มานะดี" เป็นบุตรนายเที่ยง และนางชื่น เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 3 เม.ย. 2482 วัยเด็กมีอุปนิสัยฝักใฝ่ในพระ พุทธศาสนา ชอบเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญตักบาตร เมื่อโตขึ้นได้เข้าศึกษาจนจบจากโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ระดับ 4


เมื่ออายุ 24 ปีได้บรรพชาอุปสมบท ณ วัดสาริกา ต.บ้านตาล อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่1 มี.ค. 2505 โดยมีพระครูพิศิษย์ภัทรธรรม (หลวงพ่อแย้ม) เจ้าคณะตำบลบ้านเพชร วัดโคกสว่าง เจ้าอธิการโต ปสนฺนมโน เจ้าคณะตำบลบ้านตาล วัดสาริกา พระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ชม วัดโคกสว่าง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ชินวังโส”


อยู่จำพรรษาที่วัดสาริกา แล้วมาจำพรรษาที่วัดหัวทะเล 1 พรรษา, วัดบ้านไร่ 1 พรรษา และที่วัดโนนไทย 46 พรรษา รวม 48 พรรษา ได้เดินธุดงค์ ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วทุกทิศ ทั้งพม่า ลาวกัมพูชา ได้สนทนาธรรมและปฎิบัติธรรมกับพระสุปฎิปันโนหลายท่าน


พ.ศ. 2514 เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกก ต.ค้างพลู อ.โนนไทย (ปัจจุบัน) ได้ย้ายไปขึ้นต่อการปกครองคณะสงฆ์ อ.ขามทะเลสอ จ.นคร ราชสีมา พ.ศ. 2521 เป็นเจ้าคณะตำบลบัลลังก์

พ.ศ.2526 เป็นเจ้าอาวาสวัดโนนไทย พ.ศ.2552 เป็นเจ้าคณะอำเภอโนนไทย


หลวงพ่อจอยท่านชอบนั่งสมาธิ เจริญจิตภาวนามาตั้งแต่อุปสมบทจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นพระที่ชอบสันโดษ ฉันน้อย ไม่ชอบสวมรองเท้า เวลาจำวัดท่านจะหนุนหมอนที่ทำด้วยไม้ เพื่อดำรงสติให้รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา หมอนไม้นี้หลวงพ่อคูณถวายให้ และตั้งใจว่าจะหนุนหมอนไม้ไปตลอดชีวิต


หลวงพ่อจอยได้เคยปลุกเสกเหรียญรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่พรรษาแรกที่อุปสมบท ต่อมาน้องชายชื่อ“นายเต๊าะ” ได้พาเพื่อนนำไปทดลองยิงดู ปรากฏว่ายิงไม่ออก จากนั้นท่านก็ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องวัตถุมงคลอีกเลย


จนมาถึง พ.ศ.2533 พรรษาที่ 27 จึงได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นตามคำเรียกร้องของญาติโยมและศิษยานุศิษย์ จำนวน 112 องค์ โดยทำเป็นรูปล็อกเกต เมื่อปี 2533 ปรากฏว่าผู้นำไปแขวนคอได้รับประสบการณ์ทางเมตตาแคล้วคลาดดี มีคนต้องการมาก จึงทำเพิ่มอีก 300 องค์ ซึ่งท่านก็ได้มอบให้ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ไปจนหมด


ต่อมาในปี 2534 คณะศิษยานุศิษย์ได้ขออนุญาตสร้างเหรียญรุ่นแรก ซึ่งหลวงพ่อจอยปลุกเสกถึง 3 พรรษา โดยในพรรษาสุดท้ายปี 2536 ขณะที่ท่านนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกอยู่นั้น ลูกประคำที่ใช้บริกรรมปลุกเสกได้แตกออกจากกันท่ามกลางสายตาของพระภิกษุ-สามเณร จำนวน 34 รูปที่อยู่ในอุโบสถ ถึงแม้ว่าเสียงที่แตกนั้นจะเบามาก แต่พระภิกษุ-สามเณรทุกรูปก็ได้ยินอย่างชัดเจน


เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้วจึงนำมาให้ญาติโยมและคณะศิษย์บูชา ในงานประจำปีของวัดโนนไทย

เมื่อวันที่ 7-8-9 ก.พ. 2537 ปรากฏว่าหมดเกลี้ยง ไม่มีเหลือแม้แต่เหรียญเดียว ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการขนานนามว่า “รุ่นประคำแตก”


หลังจากเหรียญรุ่นประคำแตกหมดเกลี้ยงไม่มีให้บูชา ทางคณะกรรมการวัดจึงขออนุญาตจัดสร้างเหรียญรุ่นคู่บารมี “หลวงพ่อคูณ-หลวงพ่อจอย” ขึ้นในปี2537 หบังจากนั้นได้สร้าง“ตะกรุดโทนและสายคาดเอว” ซึ่งมีอานุภาพทาง คุ้มครองป้องกันภัยได้ขลังมาก มีผู้นำไปใช้ได้รับประสบการณ์มากมาย


นอกจากนี้ยังมีมงคลวัตถุรุ่นต่างๆ อีกมากมายหลายรุ่นที่หลวงพ่อจอยสร้างขึ้นตามความต้องการของลูกศิษย์ และผู้ที่เคารพศรัทธาเลื่อมใส โดยทุกรุ่นท่านจะปลุกเสกจนแน่ใจว่ามีพุทธานุภาพปกป้องคุ้มครองได้ จึงนำออกแจกจ่าย


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page