"หลวงพ่อปลื้ม"วัดสวนหงส์ เกจิดังบางปลาม้า-วาจาสิทธิ์
- อ.อนุชา ทรงศิริ
- 18 มิ.ย. 2565
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 19 มิ.ย. 2565
"หลวงพ่อปลื้ม"วัดสวนหงส์
เกจิดังบางปลาม้า-วาจาสิทธิ์
หลวงพ่อคูณยกย่อง"เก่งกว่ากู"
อาจารย์ของหลวงปู่สิงห์ วัดตปะฯ
พระครูสุมนคณารักษ์ หรือ"หลวงพ่อปลื้ม จิตฺตสญฺญโต" อดีตเจ้าอาวาสวัดสวนหงส์ (พ.ศ. 2491-2545) อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ชาว อ.บางปลาม้าให้ความเคารพนับถือมาก
ท่านเกิดในสกุล “ศุภพินิจ” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ต.ค. 2450 ที่บ้านยอด ต.เก้าห้อง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี บิดา-มารดา ชื่อ นายสนและนางชื่น ศุภพินิจ เมื่ออายุ 14 ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ถัดมาอีกหนึ่งปี บรรพชาอีกครั้งที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เป็น พระอุปัชฌาย์
ท่านอยู่จำพรรษาที่คณะ 1 เล่าเรียนจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี ในปี พ.ศ.2469 และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ในปี พ.ศ.2471
กระทั่งอายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่ วัดมหาธาตุ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระญาณสมโพธิ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระนิกรมุนี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จิตตสัญญโต”
ด้วยความที่สนใจใฝ่ในการศึกษา และมีวิริยอุตสาหะ จึงสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยคในปี พ.ศ.2474 จากนั้นได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์สำนักเรียนวัดมหาธาตุ
แล้วถูกส่งให้ไปช่วยสอนธรรมบาลีที่วัดเจ้าเจ็ดใน และวัดโคกทอง
ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พบกับ"ครูจาบ สุวรรณ" ซึ่งเป็นฆราวาส เป็นอาจารย์สอน กัมมัฏฐานอยู่วัดประดู่โรงธรรม (ประดู่ทรงธรรม) ตัวท่านมีความสนใจในเรื่องของภาวนาจิตอยู่แล้ว จึงขอเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ประมาณ 4 ปี แล้วเดินทางไปอยู่ยังวัดต่างๆ เพื่อหาที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม
พ.ศ.2484 ไปอยู่วัดกล้วย อ.กรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ศ.2485 อยู่วัดถ้ำตะโก เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ประมาณ 4 เดือนแล้วเข้าไปจำพรรษาที่วัดมหาธาตุ
พ.ศ.2486 จำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพระ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี แล้วมาวัดขวาง อ.บางปลาม้า ก่อนย้ายไปอยู่วัดปราสาททอง อ.เมืองสุพรรณบุรี
พ.ศ.2488 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระวินัยธรจังหวัด มีหน้าที่ตัดสินคดีความในเขต 7
ในวันที่ 27 ก.ค.2491 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดสวนหงส์ และเจ้าคณะตำบลโคกคราม พ.ศ.2494 ได้ เป็นพระอุปัชฌาย์ วันที่ 5 ธ.ค.2502 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูสุมนคณารักษ์” เป็นพัดพิเศษจปร. ซึ่งเป็นพัดแรกของวัดราษฎร์ และเป็นพัดรุ่นสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นกรณีพิเศษอย่างยิ่ง
กว่าค่อนชีวิตของท่านเป็นครูสอนนักธรรมแก่พระเณรมาโดยตลอด ทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ท่านก็ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ชอบเดินจงกรม กำหนดจิตให้เป็นสมาธิอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าหลวงพ่อปลื้มเป็นพระที่ดุ แต่โดยส่วนลึกในจิตใจของท่านนั้น มีเมตตาแก่ทุกคนที่แวะเวียนไปกราบไหว้ ผู้ที่เดือดร้อนเป็นทุกข์ทางใจไปหาท่าน หลวงพ่อจะพรมน้ำมนต์ให้ เรื่องร้ายมักผ่อนคลาย แถมโชคดีอีกต่างหาก
เรื่อง ราวของหลวงพ่อปลื้ม ชาวบ้านกล่าวขานกันมาตลอด ด้วยความเป็นพระครูที่มีลูกศิษย์มาก ชาวบ้านจึงเคารพยำเกรงท่าน เป็นพระที่ชาวบ้านรักและนับถือมากเป็นที่สุด มีเรื่องเล่ากันว่า คนสุพรรณที่เคยไปกราบหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังต้องถูกสั่งสอนว่า “มึงไม่ต้องมาถึงกูหรอก ไปกราบหลวงพ่อปลื้ม อาจารย์กูที่วัดสวนหงส์ก็พอแล้ว"
เมื่อครั้งที่มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวนหงส์ สมัยนั้นวัดสวนหงส์มีสภาพเป็นวัดเล็กๆ ทรุดโทรม หลวงพ่อจึงซ่อมแซมให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา ด้วยความป็นพระผู้คงแก่เรียน มากด้วยวิชาอาคม มีญาณสมาบัติแก่กล้า ท่านไม่เคยดุด่าว่ากล่าวผู้ใด เล่ากันว่า มีหลายคนที่ท่านว่ากล่าวด้วยเพราะเหลือวิสัยจริงๆ ผู้นั้นมักมีอันเป็นไปตามวาจา จึงเชื่อกันว่า หลวงพ่อปลื้มวาจาสิทธิ์
หลวงพ่อปลื้มอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่ศิษยานุศิษย์ ชาวบ้านบางปลาม้า จนกระทั่งวันที่ 23 มีนาคม 2545 ท่านจึงละสังขาร ด้วยอาการสงบ เนื่องจากหัวใจล้มเหลว สิริอายุรวม 94 ปี 5 เดือน 7 วัน ปรากฏว่าสังขารไม่เน่าเปื่อย ในระหว่างที่สวดศพตลอด ๙ วัน มีเหตุอัศจรรย์ คือ ผึ้งหลวงและผึ้งธรรมดา บินรอบศาลา และตกลงมาตายจำนวนมาก
ปัจจุบัน สรีระของหลวงพ่อสงบนิ่งในโลงแก้ว ภายในหมู่กุฏิใหญ่ สรีระของท่านเพียงแต่แห้งไปเท่านั้น ไม่เน่าไม่เปื่อยแต่อย่างใด มีพุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้ รับวัตถุมงคลไปบูชา ด้วยความศรัทธาอย่างไม่เสื่อมคลายกันไม่ขาด
สำหรับวัตถุมงคลหลวงพ่อ ปลื้มนั้น เนื่องจากหลวงพ่อเป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ท่านไม่นิยมการสร้างวัตถุมงคลแต่อย่างใด "พระปลัดประสิทธิ์" ผู้คอยปรนนิบัติรับใช้ ได้จัดการสร้างวัตถุมงคลออกมาแจกจ่าย ตามวาระอันควร โดยทุกรุ่นได้ให้หลวงพ่อปลื้มปลุกเสกเดี่ยว วัตถุมงคลจองท่านมีประสบ การณ์ออกไปในทางแคล้วคลาด ค้าขายเจริญรุ่งเรือง
โดยเฉพาะวัตถุมงคลรุ่นแรกของหลวงพ่อปลื้ม เป็นเหรียญใบเสมา เนื้ออัลปาก้า จัดสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙ เหรียญนี้หายากมาก มีผู้ได้รับประสบการณ์แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุทางรถหลายราย!
สำหรับศิษย์ที่สืบสายวิชาของหลวงปลื้มที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันคือ พระครูสุวรรณกิจจาทร หรือ"หลวงปู่สิงห์ อภิชาโต" อายุ 89 พรรษา 63 ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลมะขามล้ม และเจ้าอาวาสวัดตปะโยคาราม ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

Comments