top of page
ค้นหา

"หลวงพ่อพิมพ์ ผลปุญโญ" วัดพฤกษะวัน เกจิเมืองชาละวัน/สืบตำนาน"ยันต์จิ้งจก"

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 26 มี.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

"หลวงพ่อพิมพ์ ผลปุญโญ" วัดพฤกษะวัน

เกจิเมืองชาละวัน/สืบตำนาน"ยันต์จิ้งจก"

ศิษย์เอกก้นกุฏิหลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติ" พระครูวิมลปุญญาภรณ์ "หลวงพ่อพิมพ์ ผลปุญโญ" อายุ 80 ปี วัดพฤกษะวัน ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ศิษย์เอกพุทธาคมของ"หลวงปู่หน่าย อินทสีโล" อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านแจ้ง จ.พระนครศรีอยุธยา ศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2487 ตรงกับ เดือนยี่ ปีวอก ที่บ้านบางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ท่านเป็นลูกคนกลางในจำนวนพี่น้อง 3 คน เมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบทที่วัดตลาดชุม (วัดทอง) ท่านได้ท่องหนังสือสวดมนต์ เจ็ดตำนาน สิบสองตำนานจนมีความชำนาญ หลังจากนั้นได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงปู่หน่าย อินทสิโล ณ วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อปี2515

นอกจากนั้น ท่านยังได้ศึกษาวิชาอาคมต่าง ๆ กับหลวงปู่หน่วย เช่น วิชาการสักยันต์ วิชาคงกระพัน วิชาเมตตามหานิยม และการสักยันต์จิ้งจก ซึ่งมีเรื่องเล่าถึงประวัติของการสักยันต์คือ ในครั้งนั้นหลวงปู่หน่ายให้ท่านไปเอาตำราโบราณที่วัดศรีภวัง ในขณะที่หลวงพ่อพิมพ์ค้นหาตำราก็พบงูแสงอาทิตย์นอนขดตัวอยู่บนตำรา ท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า จะขอนำตำราโบราณเล่มนั้นกลับไปยังวัดบ้านแจ้ง ปรากฏว่า งูก็เลื้อยลงจากตำราเล่มนั้น และหายวับไปกลับตา ท่านจึงนำตำราโบราณกลับมาให้หลวงปู่หน่ายและเล่าเรื่องราวให้ฟัง

เมื่อหลวงปู่หน่ายเปิดตำราเล่มนั้นอ่าน ท่านก็บอกว่า ตำราเล่มนี้เป็นการสักยันต์จิ้งจกที่มีมาช้านานแล้ว และไม่มีใครพบเห็นตำราเล่มนี้มานานแล้ว โดยท่านดีใจมากที่ได้ตำราเล่นนี้มา เพราะการสักยันต์จะมีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมอย่างมาก ต่อมาหลวงพ่อพิมพ์จึงขออนุญาตหลวงปู่หน่ายสักยันต์จิ้งจกเป็นครั้งแรกที่วัดบ้านแจ้ง ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวบ้านและศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นหลวงพ่อพิมพ์ได้ศึกษาวิชาอาคมอีกมากมาย แต่ที่สำคัญการจะเรียนวิชาอาคมต่างๆจากหลวงปู่หน่ายได้นั้น ต้องเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ เพราะถ้าไม่ซื่อสัตย์ท่านจะไม่สอนวิชานั้นให้เลย หลวงพ่อพิมพ์ใช้เวลานาน

หลายปีในการศึกษาวิชาและสุดยอดวิชาของหลวงปู่หน่ายคือ "ยันต์ทำผงกำบัง"

การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อพิมพ์ มีอยู่มากมายหลายชนิด ในปี2512 หลวงพ่อพิมพ์

ได้ก่อสร้างอุโบสถที่วัดพฤกษะวันโดยหลวงปู่หน่ายได้มาจำพรรษาที่วัดเพื่อควบคุมดูแลการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และได้จัดพิธี

ผูกพัทธสีมาในปี2515 ในการนี้ หลวงปู่หน่าย

เมตตาให้สร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน เรียกว่า "เหรียญปากแบะ " เมื่อหลวงปู่หน่ายมรณภาพในปี 2531 หลวงพ่อพิมพ์ได้นำอัฏฐิของท่านส่วนหนึ่งมายังวัดพฤกษะวัน และบรรจุไว้ในรูปจำลองของหลวงปู่ที่สร้างขึ้น ส่วนที่เหลือท่านนำมาทำพระผงพิมพ์ต่างๆ

การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อพิมพ์ ส่วนมากจะเน้นพุทธคุณไปในทางเมตตา และการค้าขาย ซึ่งท่านจะปลุกเสกเดี่ยวและใช้เวลานานก่อนนำออกมาให้บูชา ที่นิยมกันมากคือ พญาจิ้งจก และนางพญาเต่าทอง รุ่นไตรมาส ปลุกเสกไตรมาส 3 เดือนปี2546 ดีทางเมตตามหานิยม เข้าหาเจ้านายให้จับนางพญาเต่าทองแล้วนึกถึง หลวงปู่ศุข-หลวงปู่หน่าย แล้ว

ภาวนาหัวใจนางพญา นาสังสิโม 3 จบ

ก็จะสมปรารถนาทุกประการ และที่พิเศษกว่าทุกปีคือ ในปี2548 หลวงพ่อพิมพ์ได้จัดทำ กำไรพญาจิ้งจกคู่ มีทั้งเนื้อเงินแท้และทองเหลือง ปลุกเสกไตรมาส 3 เดือน

ในการปลุกเสกวัตถุมงคลนั้น ท่านมักจะเล่าถึงหลวงพ่อหน่ายที่คอยย้ำและพูดอยู่เสมอว่า ในการทำแต่ละครั้งต้องทำให้ดีและทำให้จริง ยิ่งถ้าได้รับนิมนต์เข้าพิธีพุทธาภิเษกก็ยิ่งต้องตระหนักเสมอในการอธิษฐานจิต ซึ่งการอธิษฐานจิตของหลวงปู่หน่ายท่านจะกล่าวนำบทต่างๆซึ่งหลวงพ่อท่านพิมพ์ท่านใช้คำว่าเป็นตับๆ ซึ่งน่าจะหมายถึง บทอาราธนา บทสวดที่เยอะมาก สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ หลวงปู่หน่ายท่านบอกหลวงพ่อพิมพ์ว่า ต้องทำให้ดี เพราะเขามองเราอยู่ (เขาในที่นี้น่าจะหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์) และสิ่งนี้ก็เป็นแบบอย่างในการอธิษฐานจิตของหลวงพ่อพิมพ์เช่นกัน

หลวงพ่อพิมพ์ท่านสืบทอดวิชาโดยตรงจากหลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จึงมั่นใจได้ว่า วิชาท่านสืบต่อมาจากสายหลวงปู่ศุขชัดเจน ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นเณรจนปัจจุบันอายุ 80 ปี รวม 60 พรรษา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์ปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่ตลอด อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในจังหวัดพิจิตรและต่างจังหวัด ปฏิบัติกรรมฐานอยู่สม่ำเสมอเป็นนิจ โปรดลูกศิษย์และญาติโยมอยู่ตลอดเวลา

ท่านมีเมตตาสูง อารมณ์ดี เข้าหาง่าย และค่อนข้างเป็นกันเองกับลูกศิษย์ลูกหา มีลูกศิษย์ทั่วประเทศ สายทางอยุธยารู้จักท่านดี ท่านเป็นมากกว่าพระผู้ทรงอภิญญา เป็นพระแท้ๆ พระบ้านที่กราบไหว้ได้สนิทใจ !



 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page