"หลวงพ่อรวย กนฺตสาโร"วัดป่ามหาลาภฯ
พระเกจิดังขมังวิชาเมืองหน่อไม้ไผ่ตง
พุทธาคมหลากหลาย-สายอาจารย์ดังในอดีต
ทีมข่าว"คัมภีร์นิวส์"ร่วมเผยแผ่บารมีพระดีเกจิดังแห่งเมืองหน่อไม้ไผ่ตง"หลวงพ่อรวย กนฺตสาโร" อายุ 61 ปี วัดป่ามหาลาภบุญญาแสงวนาราม (สำนักปฏิบัติธรรมปู่ฤาษีเมตตามหาลาภ) บ้านหนองไม้เอก หมู่.15 ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญพุทธาคมจากครูบาอาจารย์ชื่อดังขมังเวทย์หลายองค์
อาทิ 1.หลวงพ่อหน่าย อินทสีโล วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา 2.หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี 3. หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ วัดบางพระ จ.นครปฐม 4.หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู จ.นครสวรรค์
5.หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี 6.หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ 7. หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ อยุธยา 8. หลวงปู่สนิท วัดลำบัวลอย จ.นคร นายก 9. หลวงปู่แบน จนฺทสโร วัดพุน้อย จ.ลพบุรี
ชาติภูมิท่านเป็นชาวเมืองสระบุรี เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธุ์ 2504 ที่วัดบ้านยาง ต.บ้านยาง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่บิดาชื่อนายสุดใจ มารดาชื่อนางสมทรง นามสกึล"บุญญาแสง" ท่านเป็นบุตรคนโตมีพี่น้อง 2 คน ต่อมาท่านได้ย้ายกลับมาอยู่กับปู่ที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
โยมปู่ของท่านชื่อ"ปู่เจียม"เป็นโยมอุปัฏฐากของ "หลวงพ่อจาด"เกจิดังสายเหนียวแห่งวัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาสายคงกระพันชาตรี มหาอุตม์ จากหลวงพ่อจาดมาบ้าง เป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อรวยเริ่มสนใจรักในวิชาอาคมมาตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยเริ่มเรียนกับโยมปู่ซึ่งท่านได้สอนวิชาด้านแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน มหาอุตม์ และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ,โรคต่อกระดูก
หลังจากนั้นช่วงอายุได้ 14-15 ท่านได้ไปเสาะแสวงหาความรู้เพิ่ม โดยได้เดินทางไปเรียนวิชากับ "หลวงพ่อสาริน" พระอาจารย์เขมร ท่านแรกที่สอนวิชาส่วย เขียนอักขระเลขยันต์ ที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ต่อมาหลวงพ่อสารินได้ให้ท่านบวชเป็นสามเณร เพื่อสะดวกในการเรียนและดำเนินกิจวัตรประจำวัน
ช่วงที่บวชเณร 6-7พรรษา หลวงพ่อสารินถ่ายทอดวิชาให้ท่านจนหมดสิ้น จากนั้นจึงนำไปฝากเรียนกับ "หลวงปู่สาริน" พระอาจารย์ของหลวงพ่อสารินในประเทศเขมร เพื่อให้ร่ำเรียนวิชาเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันหลวงพ่อยังได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ในเขมร และหลังจากนั้นท่านก็ได้เสาะหาครู-อาจารย์เพื่อเรียนเพิ่มเติมตามตะเข็บชายแดน
ช่วงเวลาสำคัญในชีวิตช่วงเวลาหนึ่งมีบุญวาสนาได้ปรนนิบัติรับใช้"หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน”ที่ตาพระยาเป็นเวลา7 ปี แต่หลวงปู่สรวงไม่ได้สอนวิชาอะไรมากมาย โดยท่านให้เรียนรู้เอง โดยเขียนไว้ตามข้างฝา หรือสอนเป็นปริศนาธรรม เมื่อท่านเดินตามหลวงปู่สรวงไปยังที่ต่างๆ
ช่วงที่อยู่กับหลวงปู่สรวงนั้น หลวงพ่อรวยได้พบเห็นปาฏิหารย์ของหลวงปู่สรวงหลายครั้ง
ครั้งหนึ่งมีนายห้างทองชื่อดัง เอารถเบนซ์ไปให้ท่านเจิม หลวงปู่สรวงท่านนั่งดำนาอยู่ ก็ขึ้นมาจากท้องนา และเดินไปยังนายห้างทองถามว่ามาทำอะไร นายห้างทองตอบว่า "เอารถมาให้เจิมครับ" ทันใดนั้นหลวงปู่สรวงก็ขึ้นไปยังรถเบนซ์ป้ายแดงทันที ทั้งที่เนื้อตัวมอมแมม เลอะดินโคลน ใช้ต้นกล้าที่ถือมา เจิมไปยังรถจนเลอะไปหมด
ลูกสาวนายห้างที่มาด้วย โมโหมาก เพราะรถป้ายแดงเลอะไปหมด จึงไม่ก้มกราบท่านเลย รีบเช็ดและขับรถกลับ ปรากฏว่าขับไปไม่ถึง10กิโล ดินที่เลอะเทอะกลับกลายเป็นแป้งเจิมอย่างน่าอัศจรรย์มาก ทำให้ลูกสาวและนายห้างทอง หันรถกลับมากราบท่านและถวายเงินและถวายเพล
หลังจากนั้นหลวงปู่สรวง ก็ให้โชคอีก ท่านเปิดผ้าที่นุ่ง และชี้ไปยังของลับให้นายห้างทองดู ลูกสาวตกใจรับไม่ได้ ชวนนายห้างทองกลับทันที หลังจากกลับไปนายห้างทองนั่งคิดว่าดินยังกลายเป็นแป้ง แสดงว่าที่ท่านชี้มาคือเลข 010 จึงนำไปเสี่ยงโชค และก็จริงตามคิด เะราะรางวัลเลขท้ายออก 010 จากนั้นลูกสาว และนายห้างทองทั้งเยาวราช ต่างพากันมากราบหลวงปู่สรวงกันไม่ขาดสาย ทพให้ช่วงนั้นชื่อเสียงท่านโด่งดังมาก
ต่อมาหลวงพ่อรวยได้ย้อนกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด ประมาณปี 2525 ก็เดินทางไปกราบ "หลวงปู่หน่าย" วัดบ้านแจ้ง เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์เรียนสักยันต์ ซึ่งหลวงปู่หน่ายท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่ากำลังมีชื่อเสียงด้านยันต์จิ้งจกมหาเสน่ห์.... หลวงปู่หน่ายได้ถ่ายทอดวิชาเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ และวิชาจิ้งจกมหาเสน่ห์ ได้ถวายการรับใช้โดยเขียนตะกรุดให้หลวงปู่หน่ายมาโดยตลอด
หลังจากนั้นจึงเดินทางไปเรียนวิชากับ "หลวงพ่อพรหม" วัดขนอนเหนือ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสักยันต์ อาทิ ยันต์พระนารายณ์,พระ บุตร-ลบ, ราชสีห์, หนุมานดันปฐพี ถูกถ่ายทอดผ่านปลายเข็มสักสู่เนื้อหนังลูกผู้ชายชาวอยุธยาคนแล้วคนเล่า ผู้ผ่านศึกมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ คมศาสตราวุธนานาหาได้ชำแรกผ่านผิวกายไม่
เมื่อเล่าเรียนได้ครบถ้วนพอสมควร ก็ได้กลับมาบ้าน และได้ลาสิกขาออกมาช่วยครอบครัวทำนา ต่อมาในปี2534 ได้บวชครั้งแรกบวชแล้วเดินทางไปกราบ "หลวงพ่อเปิ่น"วัดบางพระ จ.นครปฐม ซึ่งโด่งดังด้านสักยันต์ โดยเดินทางไปๆมาๆหลายปี จนกระทั่งลาสิกขาอีกครั้ง เพื่อออกไปตั้งสำนักรับสักยันต์ ครอบครู
ช่วงหนึ่งมีโอกาสได้รับใช้ "หลวงพ่อคูณ"วัดบ้านไร่ โดยหลวงพ่อคูณให้ท่านตอกตะกรุดใต้ท้องแขนให้ลูกศิษย์ของหลวงพ่อคูณ ที่วัดสระแก้ว นครราชสีมา สืบเนื่องจากหลวงพ่อคูณตอกตะกรุดให้กับฝรั่งอยู่แล้ว บังเอิญคนตอกตะกรุดป่วย หลวงพ่อคูณจึงเรียกให้หลวงพ่อรวยมาช่วยตอกและสอนวิชาตอกตะกรุดให้อีกด้วย และก็ได้ช่วยเหลือรักษาคนมากมาย ในวิชาที่ปู่เจียมท่านสอนให้มา (สมัยก่อนนั้นค่าครู25บาท) หลวงพ่อบอกว่ามีลูกศิษย์เยอะแยะมากมาย ที่มาให้รักษา
นอกจากนี้ สมัยเป็นฆราวาสได้เดินทางไปค้าขาย ก็จะแวะพักตามวัดจึงมีโอกาสกราบฝากตัวเป็นศิษย์แลัขอเรียนวิชากับเกจิดังในอดีต เช่น "หลวงปู่หลิว" วัดไร่แตงทอง นานกว่า2ปี และช่วยดูแลปัดกวาดเช็ดถู ดูแลรับใช้"หลวงพ่อยิด" วัดกุยบุรี ต่อด้วย"หลวงพ่อเกตุ" วัดเกาะหลัก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญ หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู เป็นต้น
หลังจากนั้นก็ข้ามไปมาในฝั่งเขมร เพื่อเล่าเรียนเพิ่มเติมกับหลวงปู่สาริน และมีเหตุให้กลับมาบวชอีกครั้งในปี2548-2549 โดยได้มารับใช้และช่วยหลวงพ่อเกิดสร้างวัดหนองไม้เอก แต่เกิดป่วยหนักจึงบนตัวเองบวชกับพระประธาน ที่วัดหนองไม้เอก ถ้าหายจากอาการป่วยจะบวชให้ ปรากฏว่าหายป่วยจริงๆ จึงตัดสินใจบวชที่วัดหนองไม้เอก โดยมีพระครูวิจิตรรัตนคุณ เจ้าคณะอำเภอประจันตคาม เป็นพระอุปัชฌาย์
ต่อมาท่านคิดหาที่สงบในการปฏิบัติธรรมและช่วยเหลือลูกศิษย์ที่เดินทางมาให้ช่วยเหลือจึงออกมาตั้งสำนักปฎิบัติธรรมปู่ฤาษีเมตตามหาลาภ จากนั้นได้เริ่มสร้างถาวรวัตถุประจำวัด ได้แก่ ศาลา โบสถ์ เพื่อให้พระสงฆ์ได้มีสถานที่เอาไว้ทำกิจกรรมทางศาสนา เพราะการสร้างถาวรวัตถุ เป็นสิ่งที่ท่านตั้งใจมากจึงอุทิศที่ดินส่วนตัว 12 ไร่ ในการสร้างสำนักปฏิบัติธรรมฯ โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2550 เวลาผ่านมา 10ปีตอนนี้มีศาลา มีหลายสิ่งหลายอย่างภายในจนกลายเป็น"วัดป่ามหาลาภบุญญาแสงวนาราม
"
ปัจจุบันท่านกำลังจะสร้างโบสถ์ไม้ หลวงพ่อมีความตั้งใจอย่างมากที่จะสร้างโบสถ์ให้เสร็จสมบูรณ์ โดยท่านกล่าวว่า การที่ท่านสร้างถาวรวัตถุฝากไว้ในคนรุ่นหลัง เพราะชีวิตของท่านนี้อุทิศให้กับพุทธศาสนาไปแล้ว ส่วนเรื่องการปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังจนมีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ มีเดช เป็นเพราะอำนาจจิตที่ท่านได้ฝึกฝนมานาน โดยเฉพาะวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา เป็นบ่อเกิดแห่งอำนาจอิทธิฤทธิ์ทางใจ
ทั้งนี้ บุญในการสร้างโบสถ์เป็นบุญใหญ่ ถ้าทำคนเดียวก็จะได้บุญคนเดียว อยู่คนเดียว แต่จะไม่มีบริวาร คอยช่วยเหลือ จึงต้องบอกบุญ ให้มาช่วยกันเยอะๆ จะได้มีบริวารไว้คอยช่วยเหลือกันและกันต่อไป
ล่าสุด ทรงวัดได้จัดสร้าง “เหรียญพระสิวลึ”ขึ้น พิมพ์สวยด้วยบารมีหลวงพ่อรวย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังองค์นี้
Comments