top of page
ค้นหา

"หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย"วัดสุทธาวาสฯ เกจินักปฏิบัติ/นักพัฒนาเมืองกรุงเก่า

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 23 พ.ค. 2566
  • ยาว 2 นาที

"หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย"วัดสุทธาวาสฯ

เกจินักปฏิบัติ/นักพัฒนาเมืองกรุงเก่า

เจ้าตำรับ"ตะกรุดมหาบารมี 30 ทัศ"

ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณของพระดีเกจิดังแห่งเมืองกรุงเก่า...พระภาวนาธรรมาภิรักษ์ วิ. หรือ"หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย" อายุ 50 ปี นักธรรมชั้นเอก พระวิปัสสนาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส วิปัสสนา สำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แห่งที่ 13 ผู้สืบทอดพุทธาคมจากอดีตเกจิดังหลายองค์ หนึ่งในนั้นคือ "หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ "วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์

ชาติภูมิท่านเป็นชาวแปดริ้ว เกิดวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2515 ปีชวด ที่บ้านเลขที่ 103/1 หมู่ที่ 4 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิง เทรา ครอบครัวประกอบอาชีพเลี้ยงปลาสลิด โยมบิดาชื่อ นายสำราญ โยมมารดาชื่อ นางนวล นาทสกุล"จูนิยม" มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 3 คน

ในช่วงวัยเด็กชอบเข้าวัดทำบุญโดยจะไปกับคุณยายทุกวันพระ รวมทั้งยังมีอุปนิสัยชอบพูดคุยกับพระเณร ชอบศึกษาเขียนอักขระขอมและเลขยันต์ต่างๆ ท่านได้รับการศึกษาจากโรงเรียน หลวงพ่อปาน คลองด่านอนุสรณ์ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ สำเร็จการศึกษามัธยมปีที่ 3 เมื่ออายุ 19 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดแจ่มราษฎร์ ศรัทธาธรรม จ.สมุทรปราการ โดยมี หลวงพ่อสะอาด (ศิษย์สาย หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย) เป็นพระอุปัฌาย์ ท่านได้ปฏิบัติรับใช้ หลวงพ่อสะอาด และศึกษาธรรมต่างๆ ทั้งรวมกรรมฐาน จากพระอุปัชฌาย์ ซึ่งต่อมาได้ลาสิกขามาช่วยโยมบิดามารดาประกอบอาชีพทางบ้าน

ต่อมาได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2542 ณ วัดหลักชัย ต.หลักชัย อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พระครูสิริธรรมทัต (หลวงพ่อสุมิตร) เจ้าอาวาสวัดหลักชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโฆษิตวิหารคุณ วัดตรีพาราสีมาเขต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูเกษมปทุมรักษ์ วัดลาดปทุมคงคาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "อนาลโย"หมายถึง "ผู้ไม่มีอาลัย"

เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดหลักชัย คอยอุปัฏฐากรับใช้พระอุปัชฌาย์ จนกระทั่งท่านมรณภาพลง ระหว่างนั้นก็ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานอยู่เนืองนิตย์ และสามารถศึกษาสอบนักธรรมชั้น ตรี – โท – เอก ได้อย่างเจนจบ และที่น่าอัศจรรย์ หลวงพ่อรักษ์ สามารถท่องจำพระปาฎิโมกข์ได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ท่านยังเป็นศิษย์วัดอยู่

เมื่ออุปสมบทได้ 4 พรรษา เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส มรณภาพลง เจ้าคณะตำบลลาดบัวหลวงจึงส่งท่านมารักษาการเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2545 และได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2547 ได้พัฒนาวัดและสอน การปฎิบัติกรรมฐานตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้

หลวงพ่อรักษ์ ท่านเป็นพระภิกษุผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย อุปนิสัยรักความสงบ ชอบปฏิบัติกรรมฐาน รวมทั้งชอบศึกษากรรมฐาน และพระไตรปิฎก รวมทั้งไสยเวทย์ต่างๆ

ท่านมีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้พัฒนาวัดสุทธาวาสจากเดิมที่เป็นวัดธรรมดาทั่วไป จนเป็นที่รู้จักแก่สาธุชน ว่า “วัดสุทธาวาส วิปัสสนา” เป็นสำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แห่งที่ 13 (วัดที่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมนี้ มีดีกรีเทียบเท่ากับพระอารามหลวงชั้นตรี) ผลงานและสิ่งที่ หลวงพ่อรักษ์ ตั้งใจทำมาตลอดคือ งานด้านการเผยแผ่หลักธรรม คำสอนขององค์ สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้า ในรูปแบบของการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน

หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ และเรียนพระคาถาพุทธาคมจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน ซึ่งหลวงพ่อแต่ละองค์นั้นได้ประสิทธิ์ประสาทพุทธาคม และมอบเหล็กจารของท่านให้กับหลวงพ่อรักษ์ ไว้บูชาและใช้ในพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว สอนกรรมฐาน ทำน้ำมนต์ วิชาบารมีสิบทัศ สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ,หลวงปู่เยื่อ วัดใหม่หญ้าไทร,หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว,หลวงพ่อรวย วัดตะโก สอนเขียนยันต์ตรีนิสิงเห สอนกรรมฐาน สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ

หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม สอนกรรมฐาน สอนเขียนอักขระขอม เมตตามหาอุด หัวใจตัวเฑาะก์ วิชาคงกระพันและเมตตามหานิยม สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ,หลวงพ่อเขียน วัดกะทิง สอนกรรมฐาน วิชาเรียกลาภ หัวใจมนุษย์ หัวใจกระทิง สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ

หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี ถ่ายทอดวิชาปลุกเสกวัตถุมงคลทางพลังจิต สอนวิชาจารตะกรุดโทน ตะกรุดชุด 12 ดอก กันปืน กันช้าง กันเสือ กันปืนใหญ่,หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน สอนกรรมฐาน ทำน้ำมนต์หัวใจแคล้วคลาด หัวใจพระเวทย์คาถาต่างๆ สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ,หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่

สอนกรรมฐาน และอิติปิโสถอยหลัง (แก้เคล็ดกลับร้ายกลายเป็นดี) สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ ,หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม

สอนกรรมฐาน นะเมตตา คาถาอุดปืน สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ

ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล สอนเขียนอักขระล้านนา (ยันต์พระเจ้า 5 พระองค์) วิชาบารมี 7 ชั้น (ตำรับครูบาศรีวิชัย) หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว สอนกรรมฐาน สอนวิธีทำเบี้ยแก้ ตำหรับวัดกลางบางแก้ว สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ ,ครูบาชุ่ม จ.เชียงราย สอนหัวใจนะมหาจังงัง สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่ลูกศิษย์ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ ฯลฯ

การสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ของ หลวงพ่อรักษ์ ท่านได้เริ่มสร้างเป็นพระผงขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อตอนท่านอายุ 30 ปี โดยท่านได้นำวิชาความรู้ต่างๆ ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา โดยเริ่มเขียนยันต์ ลงผงอิทธิเจ และผงยันต์ต่างๆ รวมทั้งหามวลสาร เช่น ผงเกษรดอกไม้บูชาพระ, ดอกไม้บูชาครูอาจารย์, ผงธูป, ผงพระเครื่องหักต่างๆ, ผงว่าน นำมาผสมทำวัตถุมงคล และทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกมวลสารเป็นปฐมฤกษ์ก่อนปั้มพระ และเมื่อสร้างเป็นองค์พระเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็นำมาปลุกเสกไตรมาสอีก 3 เดือน

วัตถุมงคลของหลวงพ่อรักษ์ มีหลายรูปแบบ พระสมเด็จ พระปิดตา พระกริ่ง กำไล ตะกรุด พญาหนุมาน พญาคชสีห์ กระทิง เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อหาทุนทรัพย์สร้างและพัฒนาวัดสุทธาวาส วิปัสสนา เป็นลำดับ หลวงพ่อรักษ์ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของตะกรุดจารมือรุ่นต่างๆ สำหรับตะกรุดที่โดดเด่นมีประสบการณ์สูงของท่าน คือ “ตะกรุดมหาบารมี 30 ทัศ” ซึ่งศิษยานุศิษย์และสาธุชนต่างขนานนามท่านว่า “หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย เจ้าตำรับตะกรุดมหาบารมี 30 ทัศ แห่งทุ่งลาดบัวหลวง เมืองกรุงศรีอยุธยา”

ทั้งนี้ ท่านมักจะปลุกเสกด้วยพุทธาคมที่ท่านร่ำเรียนมาอย่างเต็มพลัง หลักการอธิษฐานจิตของท่านนั้นจะเน้นไปทาง เมตตามหาเสน่ห์ – โชคลาภ เงินทอง – ความสำเร็จ – กันคุณไสยต่างๆ และด้านแคล้วคลาดกันภัยคงกระพัน เป็นเลิศ การทำวัตถุมงคลของ หลวงพ่อรักษ์ นั้น ท่านมีหลักเกณฑ์ในการวินิจฉัย 4 ประการสำคัญคือ 1.ดูที่เจตนา ถ้าวัตถุประสงค์ดี วัตถุมงคลจึงจะดี 2.พิธีกรรม ถูกต้องตามโบราณกาลหรือไม่ 3. มวลสารดี 4.ดูฤกษ์ผานาทีว่าเหมาะสมหรือไม่

หลวงพ่อรักษ์ ท่านสร้างวัตถุมงคลเพื่อสร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา ท่านกล่าวย้ำเสมอว่า… การทำวัตถุมงคลต้องตั้งใจทำ ให้ผู้นำไปใช้ได้รับพุทธคุณครอบจักรวาล… วัตถุมงคลทำไว้มอบให้กับญาติโยมที่บริจาคสมทบทุนสร้างวัด ไม่ได้ทำเพื่อซื้อขาย เป็นที่ระลึกว่าใครได้ไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างถาวรวัตถุ ถวายไว้ในพระพุทธศาสนามาเท่านั้น!





 
 
 

Comentários


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page