top of page
ค้นหา

"หลวงพ่อหม่อม ผีย่าน" วัดสว่างธรรมาราม โคราช เกจิสายแคล้วคลาด-เมตตา "ครูสลา"ศรัทธาฝากตัวเป็นศิษย์

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 18 เม.ย. 2566
  • ยาว 1 นาที

"หลวงพ่อหม่อม ผีย่าน"

วัดสว่างธรรมาราม โคราช

เกจิสายแคล้วคลาด-เมตตา

"ครูสลา"ศรัทธาฝากตัวเป็นศิษย์

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณของพระดีเกจิดังแห่งเมืองย่าโม...พระอธิการวัลลภ อนุตตฺโร เจ้าอาวาสวัดสว่างธรรมาราม บ้านแจ้งสว่าง ต.เสมาใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา สมญานาม"หลวงพ่อหม่อม ผีย่าน(ผีกลัว)" หรือฉายาที่ลูกศิษย์ชาวต่างประเทศรู้จักกันดี “อาจารย์หม่อมปราบผี”

จากข้อมูลที่ท่านให้สัมภาษณ์ทีมข่าว"คัมภีร์นิวส์" ท่านบวชเมื่อปี2542 โดยเป็นตาปะขาว5ปีเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ รักษาไม่หาย ญาติพี่น้องเลยพาไปหาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ท่านได้แนะนำให้บวช เดิมทีตั้งใจบวชแค่พรรษาเดียว แต่แล้วก็ไม่ได้สึก จึงคิดว่ามีเหตุยังทำใจไม่ได้ เลยออกเดินทางข้ามไปถึงฝั่งประเทผศลาว หลังกลับมาก็ยังป่วยอีก จึงไปปรึกษาครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่ายังไม่ให้สึกให้อยู่ในสมณเพศไปเรื่อยๆแล้วจะดีขึ้น

หลังจากนั้นท่านจึงตั้งใจศึกษาหาความรู้ โดยได้ไปเจอหลวงปู่บุญมาแล้วขอเรียนคาถาอาคม แต่หลวงปู่บุญมาบอกว่าพรรษายังน้อย จึงสอนด้านกรรมฐานเปิดโลก ต่อมาไปอยู่กับหลวงปู่บุญมี พระเกจิลาว อายุ118ปี ประมาณ 2ปี ได้คาถาทำน้ำมนต์ธรณีสาร ขับไล่คุณไสย คาถารักษาโรคด้วยสมุนไพร และคาถารักษาพิษงู

จากนั้นไปอยู่กับหลวงปู่สมพันธ์2ปี แล้วไปเรียนวิชาสักยันต์เพิ่มจากหลวงปู่คำ, เรียนวิชาทำตะกรุดกับพ่อใหญ่บุญมี หลานหลวงปู่มั่น ทัตโต วัดโนนเจริญ จ.อุบลราชธานี แล้วไปอยู่กับหลวงพ่อเสถียร

ท่านออกธุดงค์ทุกปี ภูลังกา หมู่บ้านลับแล เจอสัตว์ร้าย อาทิ ช้างป่า เสือ รวมทั้งภูติผีที่มามาขอส่วนบุญทั้งแบบเป็นเสียง และเป็นรูปกายซึ่งท่านไม่ได้มีความหวาดกลัว และแก้ด้วยการแผ่เมตตา โดยท่านกล่าวว่า เมื่อจะไปธุดงค์ก่อนออกจากวัดจะเข้าโบสถ์อธิษฐานเพื่อชำระศีลให้บริสุทธิ์ จิตใจจะได้เข้มแข็ง เมื่อเจอภยันตรายใดๆจะช่วยคุ้มครองป้องกัน ไม่ใช่การใช้คาถาสวดขับไล่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอนิจจังเป็นไปตามเวรกรรมของแต่ละคน

ต่อมามีญาติโยมนิมนต์ท่านมาอยู่ที่จ.นครราช สีมา โดยปักกลดอยู่บริเวณที่ตั้งวัดนี้ตั้งแต่สมัยยังเป็นทุ่งนา จนมีผู้ใจบุญถวายที่ดิน1ไร่ให้สร้างวัดสว่างธรรมารามในปี2550 เริ่มจากสร้างกระท่อมเป็นกุฏิ จากนั้นปี2553วางศิลาฤกษ์โบสถ์, ปี2554 สร้างถนน ทำทางเข้าวัด และปี2555เริ่มก่อสร้างอุโบสถ

หลวงพ่อหม่อมท่านเรียนวิชาทุกด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี โดยนำวิชาความรู้มาช่วยเหลือปัดเป่าทุกข์โศกทั้งทางกายและทางใจให้ชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ ท่านโด่งดังในเรื่องประกอบพิธีเสริมดวงเสริมชะตา สะเดาะเคราะห์ อาบน้ำมนต์ฉมังนัก ลูกศิษย์มีทั้งราชการ นายทหาร นายตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น ขนาดนักแต่งเพลง ครูเพลงชื่อดัง “ครูสลา คุณาวุฒิ” ยังเลื่อมใสศรัทธา รวมไปถึงลูกศิษย์ชาวต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง ฯลฯ ซึ่งมักเดินทางมาให้หลวงพ่อหม่อมประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาเสริมดวงบารมีอย่างไม่ขาดสาย

วัตถุมงคลยอดนิยมของหลวงพ่อหม่อมคือ “ขุนแผนอุ้มนาง” และ"พระขุนแผนพรายปรำบวน" นักสะสมชาวต่างประเทศชื่นชอบแห่บูชา เพราะพุทธคุณเด่นทางเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ คุ้มครอง

ย้อนไปเมื่อปี2558 ชาวบ้าน ต.ดอนยาวใหญ่ จ.นครราชสีมา ต่างพากันหวาดผวาถึงเหตุการณ์ที่คนในหมู่บ้านเสียชีวิตต่อเนื่องกัน 9 ศพภายในเดือนกรกฎาคม โดยมีที่มาจากผู้เฒ่าในหมู่บ้านอายุ 70 ปี ฝันว่ามีชายรูปร่างสูงใหญ่แต่งกายคล้ายยมทูต มาชี้นิ้วให้คนในหมู่บ้าน 10 คน ทั้งชายและหญิงอายุ 50-80 ปี เซ็นชื่อในสมุดโบราณ โดยในฝันนั้น 9 คน รวมทั้งคนที่ฝันเองยอมเซ็นชื่อตามคำสั่ง แต่มีชาย 1 คน อายุ 50 ปี ไม่ยอมเซ็นชื่อ

ต่อมาคนที่พากันเซ็นชื่อกับยมทูตในความฝัน ต่างทยอยเสียชีวิตลงทีละคนรวม 9 ศพ เหมือนตามที่ฝันไว้ แต่ยังเหลืออีก 1 คน ที่ยังไม่เสียชีวิต เป็นชายอายุ 50 ปี ซึ่งในความฝันนั้นไม่ได้เซ็นชื่อกับยมทูต ที่ผ่านมาชายคนดังกล่าวเคยป่วยหนักถึงขั้นเป็นอัมพาต แต่สุดท้ายก็หายจนใช้ชีวิตตามปกติ

ทั้งนี้ หลังจากเรื่องอาถรรพ์ยมทูตตามเอาชีวิต 9 ศพ แพร่กระจายออกไป ชาวบ้านตำบลใกล้เคียงต่างแห่ไปอาบน้ำมนต์กับ พระอธิการหม่อม อนุตโร หรืออาจารย์หม่อม เจ้าอาวาสวัดสว่างธรรมมาราม อ.บัวใหญ่ เพื่อหาที่พึ่งทางใจ พร้อมทั้งให้อาจารย์หม่อมทำนายทายทักให้ช่วยหาวิธีแก้อาถรรพ์ดังกล่าวตามความเชื่อของชาวบ้านอีกด้วย

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวหลวงพ่อหม่อมจึงช่วยทำพิธีอาบน้ำมนต์เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย สร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้าน โดยท่านให้แง่คิดว่า คนที่เสียชีวิตติดกัน 9 ศพ ถือเป็นเรื่องบังเอิญ จึงอยากให้คนที่มีชีวิตอยู่ได้พากันสร้างความดี รักษาศีล มีเมตตาต่อกันก็จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น



 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page