top of page
ค้นหา

"หลวงพ่ออุ่นใจ จิรสุโภ" วัดถนนโค้ง เกจิดังนักพัฒนาแห่งป่าดงพญาเย็น เจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราช สีมา

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 11 ก.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

"หลวงพ่ออุ่นใจ จิรสุโภ" วัดถนนโค้ง

เกจิดังนักพัฒนาแห่งป่าดงพญาเย็น


ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติพระครูมนัสศุภนิมิต หรือ "หลวงพ่ออุ่นใจ จิรสุโภ" เจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราช สีมา เกจินักพัฒนาแห่งเทือกเขาดงพญาเย็น


พื้นเพท่านเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่โรงพยาบาลเด็ก เมื่อวันอังคารที่ 8 ก.ค. 2518 ปีเถาะ บิดาชื่อ"เทียมศักดิ์" มารดาชื่อ"ลัดดา" ท่านเป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 4 คน

อายุได้ประมาณ 8 เดือน มารดาก็เสียชีวิต ท่านต้องอยู่กับผู้รับจ้างเลี้ยงเด็ก ชื่อ"นางล้วน และนางเก๋ง แซ่ก้ำ" ซึ่งนางล้วน ปัจจุบันอายุ 90 ปี เปรียบเสมือนเป็นแม่บุญธรรมได้พาท่านไปให้พระที่อ.บางบาล จ.อยุธยาตั้งชื่อให้ เมื่อพระท่านดูวันเดือนปีเกิดแล้วเห็นว่า ชื่อต้องตั้งให้เป็นๆ เข้าไว้เพราะโตขึ้นจะคด ปลายจะตรง หมายถึง ตอนโตขึ้นจะเกเร แต่ตอนปลายจะดี เพราะมีเทวดารักษาอยู่ จึงมีที่มาของชื่อ “อุ่นใจ”


วัยเยาว์จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดไผ่ตัน จากนั้นไปบวชเรียนอยู่ที่วัดต้นสน อ.เมือง จ.อ่างทอง จนจบชั้นมัธยม ม.3 และนักธรรมเอกแล้วลาสิกขาออกมาทำงาน จนกระทั่งถึงรับราชการทหาร ก็ได้สมัครเป็นทหารอากาศ ต่อมาจึงมาอุปสมบทเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2542 ณ พัทธสีมาวัดถนนโค้ง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมี พระครูนวกิจจาทร วัดปางแก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมนต์ชัย อตุกโกสโล วัดมิตรภาพวนาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จิรสุโภ” หมายถึง "ผู้งามอย่างยั่งยืน"


จากนั้นอยู่จำพรรษอยู่ที่วัดถนนโค้ง ศึกษาพระธรรมวินัยกับพระครูพิทักษ์ธรรมคุณ หรือ"หลวงปู่โค้ง" อดีตเจ้าอาวาส และออกไปธุดงค์ ในป่าดงพญาเย็น (เขาใหญ่) เป็นเวลา 1 เดือน และได้เจอกับหลวงปู่รูปหนึ่งท่านได้สอนให้รู้จิตตนเองและเป็นผู้ให้อย่างไม่หวังสิ่งตอบแทนและหมั่นฝึกจิตบ่อยๆ คิดพูดทำให้ดี


พ.ศ.2548 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราช สีมา ในปี พ.ศ.2557 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนามที่ “พระครูมนัสศุภนิมิต”


ช่วง 2 ปีแรกที่เป็นเจ้าอาวาสนั้น ท่านยังไม่ได้สร้างหรือทำอะไรเกี่ยวกับถาวรวัตถุในวัดถนนโค้งเลย เพราะทางวัดและท่านเองไม่มีทุนทรัพย์ จึงไม่กล้าคิดเพราะไม่อยากเป็นหนี้ จนกระทั่งเข้าปีที่ 3 ท่านได้เดินสำรวจวัดในเวลา 5 ทุ่มกว่าๆ โดยไปยืนหยุดที่ตรงหน้าเชิงตะกอน (เมรุเก่าของวัดถนนโค้ง) สังเกตเห็นว่า เชิงตะกอนเก่านี้ไม่สวยเหมือนวัดอื่นๆ ทั้งๆที่ทุกคนก็ไม่อาจพ้นตรงนี้ไปได้


หลังจากนั้นท่านจึงกลับมาเอาธูป 16 ดอกที่กุฏิแล้วขึ้นธุปจุดบอกอดีตเจ้าอาวาสและทวยเทพเทวาเจ้าที่เจ้าทาง ผู้ที่บุกเบิกสร้างวัดมาแต่เก่าก่อน ว่า “จะสร้างเชิงตะกอนใหม่(เมรุ)”ทั้งๆที่ยังไม่มีเงิน โดยเช้าวันรุ่งขึ้นได้เรียกช่างมาตีราคาและออกแบบแล้วเริ่มสร้างถาวรวัตถุมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นศาลาธรรมสังเวช กุฏิสงฆ์ หอหลวงพ่อใหญ่ ห้องน้ำ

ฯลฯ


สำหรับถาวรวัตถุที่ได้สร้างไปแล้วนั้น อาทิ เมื่อปี พ.ศ.2557 อาคารพีระมิด ภายในประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ใช้ปัจจัยก่อสร้างประมาณ 15 ล้านบาท พ.ศ.2559 สร้างรูปเหมือนพญานาคล้อมรอบอาคารพีระมิด เป็นต้น พ.ศ.2560 สร้างศาลาบูรพาจารย์ ใช้เวลาสร้างนาน 1 ปีเศษ ปัจจัยก่อสร้าง 10 ล้านกว่าบาท


ทุกอย่างสร้างขึ้นโดยไม่มีเงินทุนมาก่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่มีการขึ้นธูปกลางแจ้งตอนกลางคืนของทุกครั้ง แล้ววันรุ่งขึ้นก็ลงมือทำ จนสำเร็จทุกอย่างไปโดยไม่เป็นหนี้ เพราะทุกคนก็ช่วยกันทำมาตลอด ดังคำปรารถของท่านว่า “หากมัวแต่คิดว่ามีเงินแล้วค่อยลงมือทำ ชาติหน้าก็ไม่ได้ทำ”


หลวงพ่ออุ่นใจท่านเป็นพระเกจินักพัฒนา ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา ท่านได้ใช้วิชาความรู้ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมโดยไม่เลือกยากดีมีจน เช่น อาบน้ำมนต์เสริมสริมงคล, ลงนะหน้าทอง,ดูดวง ฯลฯ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธามาให้ท่านทำพิธี

อย่างต่อเนื่องมากว่า 20ปี โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะมีลูกศิษย์เดินทางมาที่วัดเป็นจำนวนมากกว่าวันปกติ


ทั้งนี้ ลูกศิษย์ที่มาให้ทำพิธีอาบน้ำมนต์นั้นมาจากทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ท่านก็ทำพิธีเพื่อให้เกิดความสบายใจ ที่สำคัญ ท่านไม่เคยบอกว่า มีวิชาหรือคาถาอาคมในการทำพิธีแก้คุณไสยได้ โดยเฉพาะการดูดวงเป็นเพียงแค่การชี้แนวทางในการใช้ชีวิตให้เท่านั้น เพราะตัวท่านไม่ใช่พระอรหันต์ที่เสกให้ใครรวยได้ หรือทำให้ชีวิตใครดีขึ้น โดยจะสอนลูกศิษย์ให้อยู่กับความเป็นจริงมากกว่าการงมงาย


ลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักก็มีอาทิ สมจิตร จงจอหอ นักมวยชื่อดัง, ยิ่งยง ยอดบัวงาม

นักร้องรุ่นใหญ่ ฯลฯ ซึ่งทุกคนบอกว่า หลังจากฝากตัวเป็นศิษย์และอาบน้ำมนต์ของท่าน ชีวิตก็ดีขึ้น ธุรกิจการงานที่ติดขัดก็ค่อยๆดีขึ้น หลังอาบน้ำมนต์รู้สึกว่าโล่ง สบายใจขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล


ปัจจุบันทางวัดกำลังสร้างโบสถ์ไม้สัก จึงขอเชิญร่วมบุญตามกำลังศรัทธาได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขามวกเหล็ก เลขบัญชี 6787647557

ชื่อบัญชี วัดถนนโค้ง (เพื่อการก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด) ️ติดต่อสอบถามได้ที่หลวงพ่ออุ่นใจ โทร.080-5159941


 
 
 

Yorumlar


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page