“หลวงพ่อเจี๊ยบ”เชี่ยวชาญดวงชะตา

เปิดประวัติพระเกจิดังสมุทรสงคราม

“หลวงพ่อเจี๊ยบ”เชี่ยวชาญดวงชะตา

โซเชียลแห่ไว้อาลัย"สาวพยาบาล"

เศร้าประสบอุบัติเหตุด้านหน้าซุ้มวัด

เข้าสู่วัยเบญจเพส-พระทักดวงไม่ค่อยดี

เจ้าตัวเล่าได้กลิ่นเหม็นเน่าตลอดเวลา

“หลวงพ่อเจี๊ยบ”เตือนขับรถต้องระวัง

แนะให้รีบกลับแต่ยังไปจอดรอหน้าเมรุ

ก่อนขับรถออกไปประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

ข่าวเศร้า โซเชียลแห่ไว้อาลัย "สาวพยาบาล" วัยเบญจเพส ขับรถเก๋งประสบอุบัติเหตุ ชนสนั่นหน้าซุ้มประตูวัดประชาโฆสิตาราม สมุทรสงคราม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

ภายหลังจากเข้าทำบุญตอนเช้ากับพระเกจิดัง “หลวงพ่อเจี๊ยบ” ท่านสังเกตสีหน้า ถามอายุ ทักดวงไม่ดีให้รีบกลับ แต่เจ้าตัวยังไม่กลับ ไปจอดรถอยู่หน้าป่องเมรุเผาศพ ก่อนขับรถออกไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณถนนสมุทรสงคราม-ปากท่อ (สายเก่า) หน้าวัดประชาโฆสิตารามขาเข้าตลาดแม่กลอง ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ส่งผลให้ น.ส.กัญญาณัฐ ศิริโชค อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

น.ส.กัญญาณัฐ ขับรถเก๋งสีดำ ออกมาจากวัดประชาโฆสิตาราม เพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างขับรถข้ามไปอีกฝั่งถนน ได้เกิดอุบัติเหตุชนประสานงารถปิกอัพสีดำ

พระครูวิจิตรสรคุณ หรือหลวงพ่อเจี๊ยบ เจ้าอาวาสวัดประชาโฆสิตาราม กล่าวว่า ช่วงเช้าผู้ตายได้เข้ามาที่วัด เพื่อขอให้อาตมาช่วยดูดวง เพราะช่วงนี้มักได้กลิ่นเน่าเหม็นเหมือนซากศพสังเกตจากสีหน้า มีลักษณะหม่นหมอง ประกอบกับอยู่ในวัยเบญจเพส กระทั่งเมื่อดูดวงชะตาเห็นว่าดวงถึงฆาต จึงแนะนำให้ไปทำบุญทำทาน เตือนให้ขับรถระมัดระวังมากขึ้น

"หลวงพ่อเจี๊ยบ"วัดประชาโฆสิตาราม

เกจิอัมพวาสืบสายวิชา"หลวงพ่อคลี่"

เจ้าตำรับเหรียญตราตั้งท้าวเวสสุวรรณ

วัดประชาโฆสิตาราม ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นวัดที่ใหญ่และเจริญรุ่งเรืองวัดหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงครามเป็นวัดที่มีอดีตพระเกจิอาจารย์ดังอย่าง พระครูสมุทรวิจารณ์ หรือ"หลวงพ่อคลี่ ฐานวิจาโร" สมญานามว่า พระเกจิแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง เจ้าของเหรียญ "ด.ใหญ่"ที่มีประสบการณ์ฮือฮาว่า"เหนียว"

ปัจจุบันวัดนี้มีพระครูวิจิตรสรคุณ "หลวงพ่อเจี๊ยบ วุฑฒิสาโร" หรือ"พระอาจารย์เจี๊ยบ"เป็นเจ้าอาวาส โดยท่านได้สืบสายวิชาของหลวงพ่อคลี่ และเป็นศิษย์พุทธาคมพระเกจิเมืองแม่กลองหลายท่าน

ท่านมีนามเดิมว่า"ชัยวุฒิ" นามสกุล"คชรัตน์"

เกิดเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2518 (ปีเถาะ) ที่บ้านเลขที่28 หมู่2 ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวาจ.สมุทรสงคราม บิดาชื่อนายเล็ก มารดาชื่อนางประนอม (ไหม) จบการศึกษาเบื้องต้นชั้นประถมศึกษาปีที่2

เมื่ออายุ 30ปี ตรงกับวันที่ 10 มี.ค. 2548 ได้เข้าอุปสมบทที่วัดสวนหลวง อ.อัมพวาจ.สมุทรสงคราม โดยมีพระครูอุดมสมุทรคุณ (หลวงพ่ออุดม) วัดปทุมคณาวาส  เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิกรมปัญญาภรณ์ (หลวงพ่อใหม่) เจ้าอาวาสวัดสวนหลวง เป็นพระกรรมวาจารย์  พระครูสมุทรกิตติวัฒน์(หลวงพ่อชอบ) เจ้าอาวาสวัดช่องลม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า"วุฑฺฒิสาโร"

หลังบวชได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสำเร็จนักธรรมชั้นตรี ด้วยความที่ท่านชอบความสันโดษจึงปลีกวิเวกออกธุดงค์ไปตามป่าเขา อาศัยปักกลดสวดมนต์เจริญภาวนาตามสุสาน และป่าช้านอนตามหลุมฝังศพเพื่อฝึกจิตให้แก่กล้า

หลวงพ่อเจี๊ยบท่านชื่นชอบด้านคาถาอาคม การเขียนอักขระเลขยันต์มาตั้งแต่อายุประมาณ13ปีเมื่อบวชเป็นพระแล้วจึงไปฝากตัวเรียนวิชาอาคมจากพระเกจิอาจารย์ดังหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อลิ วัดศรัทธาธรรม,หลวงพ่อระเบียบ วัดบางประจันต์,หลวงปู่นะ วัดหนองบัว จ.ชัยนาท และหลวงพ่ออุดม วัดปทุมคณาวาส ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์

ทั้งนี้ หลวงอุดม วัดปทุมคณาวาส เป็นหนึ่งในเกจิดังเมืองแม่กลอง ศิษย์ของหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง สุดยอดเกจิผู้ปลุกเสกจนเหรียญบิน ซึ่งท่านเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมเกจิยุคสงครามอินโดจีน โดยหลวงพ่ออุเมได้ถ่ายทอดวิชาตะกรุดมหาปราบ,คาถาปลุกเสกต่างๆ,คาถาไล่ผี,มนต์ดำ ฯลฯ

เมื่อหลวงพ่อเจี๊ยบท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดประชาโฆสิตาราม ก็ได้สืบทอดวิชาของหลวงพ่อคลี่โดยได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์อิฏฐ์ วัดจุฬามณี ถ่ายทอดตำราการเขียนยันต์ ด.เด็กของหลวงพ่อคลี่ให้อย่างหมดสิ้น

ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงมีความเชี่ยวชาญด้านคาถาอาคมหลายแขนง อีกทั้งการเชิญฤกษ์ ดูฤกษ์ดูดวง การเขียนยันต์ต่างๆอย่างถูกต้องตามตำรับโบราณจารย์

ในด้านวัตถุมงคลท่านสร้าง"ท้าวเวสสุวรรณ"มาไม่ต่ำกว่า16ปี นั่งปลุกเสกมา16-17ปี ช่วงแรกท่านสร้างท้าวเวสสุวรรณรุ่นแรกด้วยเนื้อไม้ แต่ที่มาสร้างอย่างจริงจังคือในปีพ.ศ.2555 โดยเหรียญท้าวเวสสุวรรณสี่เหลี่ยมของท่าน ได้รับการกล่าวขานว่ามีความสวยงามมาก ไม่มีที่ไหนเหมือนและเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย เรียกว่า เหรียญท้าวเวสสุวรรณพิมพ์ตราตั้งสมณศักดิ์พัดยศ

หลวงพ่อเจี๊ยบนับว่าเป็นหนึ่งในพระนักพัฒนาสายลุ่มน้ำแม่กลองที่กราบไหว้ได้สนิทใจ  ท่านได้นำวิชาความรู้มาช่วยพัฒนาวัดและสงเคราะห์ญาติโยมชาวบ้านจนได้รับความเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก

ทุกวันนี้ท่านดังเรื่องเบี้ยแก้ปลาตะเพียนและเบี้ยแก้ท้าวเวสสุวรรณ รวมถึงเหรียญท้าวเวสสุวรรณ ที่มีพุทธคุณครอบจักรวาลโดยเฉพาะ"เบี้ยแก้"