top of page
ค้นหา

"หลวงพ่อเพ็ชร ปริปุณฺโณ"วัดประดู่ทรงธรรม​ เกจิสืบสายวิชาแห่งตักศิลาพุทธาคมกรุงเก่า ศิษย์เอก"ลพ.บุญรอด/ลพ.บุญนาค/ลพ.สละ"

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

อัปเดตเมื่อ 23 ก.พ. 2567

"หลวงพ่อเพ็ชร ปริปุณฺโณ"วัดประดู่ทรงธรรม​

เกจิสืบสายวิชาแห่งตักศิลาพุทธาคมกรุงเก่า

ศิษย์เอก"ลพ.บุญรอด/ลพ.บุญนาค/ลพ.สละ"

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติ"หลวงพ่อเพ็ชร  ปริปุณฺโณ" วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา เกจิอาจารย์ผู้สืบสายวิชาแห่งตักศิลาพุทธาคมกรุงเก่า วัดประดู่ทรงธรรม ศิษย์เอกก้นกุฏิคอยอุปัฏฐาก​ดูแล หลวงปู่บุญรอด, หลวงพ่อบุญนาค สีลสํวโร , หลวงพ่อสละ เถรปัญโญ อดีตพระเกจิ อาจารย์ชื่อดังแห่งสำนักวัดประดู่ฯ ตั้งแต่บวชจนหลวงพ่อครูบาอาจารย์ทุกท่านมรณภาพลง

หลวงพ่อเพ็ชร หรือ"หลวงตาเล็ก" ท่านมีนามเดิมว่า "เพ็ชร" นามสกุล "มีสมทน" เกิดเมื่อปีพ.ศ.2494 ปัจจุบันอายุย่างเข้าสู่ 73 ปี ท่าน

อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดประดู่ทรงธรรม เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2529 โดยมี พระธรรมญาณมุนี (หลวงพ่อไวทย์ มุตฺตกาโม) อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร (เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระญาณไตรโลก) เป็นพระอุปัชฌาย์

พระครูสีลสังวร (หลวงพ่อบุญนาค สีลสํวโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดประดู่ทรงธรรม รูปที่ 9 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระเทพวรเวที (หลวงพ่อวิน โฆสิโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวราราม (เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูอุดมนครคณารักษ์) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และได้รับฉายาว่า "ปริปุณฺโณ" มีความหมายว่า "ผู้ที่เปี่ยมไปด้วยบุญ"

หลังบวชท่านอยู่กุฏิเดียวกับหลวงพ่อสละ หลวงพ่อบุญรอดตั้งชื่อให้ว่า "ฤๅษีลิงแดง" หลวงพ่อเพ็ชร​ (หรือหลวงตาเล็ก)​เป็นลูกมือ

หลวงพ่อเพ็ชรท่านจะอยู่คอยเป็นลูกมือช่วยหลวงพ่อสละ, หลวงพ่อบุญนาค และหลวงพ่อบุญรอดจัดหาวัสดุการทำน้ำมนต์ ถอนไล่คุณไสย สะเดาะเคราะห์ ช่วยจารแผ่นยันต์และช่วยม้วนตะกรุด เตรียมวัสดุในพิธีชุบมีด รวมทั้งทำพระเครื่องเพื่อสงเคราะห์แจกจ่ายให้แก่ญาติโยม​ และอีกหลายพิธีที่มีในวัดประดู่​ทรง​ธรรม

ศิษยานุศิษย์ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาที่เดินทางมากราบนมัสการ ในช่วงที่หลวงพ่อสละอาพาธ ท่านได้เมตตามอบครอบตำราที่ท่านจดเอง และตำราเก่าของ​วัดประดู่ทรงธรรม และของท่านอาจารย์ก๋งจาบ​ สุวรรณ​ ให้แก่หลวงพ่อเพ็ชรไว้ศึกษาเพื่อไว้ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมสืบต่อแทนท่านในภายภาคหน้า

กล่าวสำหรับ "อาจารย์จาบ สุวรรณ" หรือ"ก๋งจาบ" เป็นหนึ่งในบูรพาจารย์แห่งวัดประดู่ทรงธรรม ท่านศึกษาจบทั้งพุทธาคมไสยเวทย์ ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอาจารย์สอนพระเวทย์และกรรมฐานแก่พระภิกษุและฆราวาส

หลวงพ่อเพ็ชรท่านไม่ได้ศึกษาวิชากับก๋งจาบโดยตรง แต่ท่านก็ศึกษาทั้งหลักกรรมฐานและวิชาอาคมจากหลวงพ่อสละ, หลวงพ่อบุญนาค โดยเฉพาะกรรมฐานจากหลวงพ่อบุญรอดที่ชำนาญในกรรมฐาน จนกล่าวกันว่า หลวงพ่อบุญรอดสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆได้ เช่น ย่นระยะทาง ดักจิตทายใจคนอื่น อาพัดเหล้า เป็นต้น

สำหรับครูบาอาจารย์โดยตรงของหลวงพ่อเพ็ชรคือ 1.หลวงพ่ออู๋ วัดประดู่ทรงธรรม 2. หลวงพ่อบุญนาค วัดประดู่ทรงธรรม 3.หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม 4. หลวงพ่อผูก วัดประดู่ทรงธรรม 5. หลวงปู่บุญรอด วัดประดู่ทรงธรรม และ6.หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง เจ้าตำรับเครื่องรางจิ้งจกอันโด่งดัง

เครื่องรางและวัตถุมงคลของหลวงพ่อเพ็ชรที่ท่านสร้างไว้ อาทิ ตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราช,ตะกรุดมหาระงับ แบบธรรมดา และแบบพิสดาร,ตะกรุดฉัพพรรณรังสี,ตะกรุดตรีนิสิงเหใหญ่,ตะกรุดเพชรหลีก,มีดหมอมหาศาตราวุธ, เหรียญรุ่นแรก,หุ่นพยนต์,พระสมเด็จ ,พระขุนแผน ฯลฯ

ตะกรุดของท่านลงสูตรตามตำราวัดประดู่ทรงธรรม​ทุกประการ โดยท่านจารเอง ตามวันตามฤกษ์ จึงทำได้ทีละน้อย ๆ เพื่อสืบสานตำนานและภูมิปัญญาโบราณมิให้สาปสูญไป ซึ่งตำราเก่า​ เหล็กจารเก่าของหลวงพ่อสละได้มอบต่อให้หลวงพ่อเพ็ชรเป็นผู้สืบทอดสรรพวิชา​ในสายสำนักตักศิลา​ วัดประดู่​ทรง​ธรรม​

สำหรับวัดประดู่ทรงธรรมเปรียบเสมือนสำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง เป็นตักศิลาใช้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางด้านปริยัติธรรมและด้านปฏิบัติสมถกรรมฐาน การเล่นฤทธิ์ต่างๆ พร้อมทั้งเรียนวิธีการลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ และวิชาศิลปะ 20 ประการ เช่น ตำราพิชัยสงคราม มวยโบราณ กระบี่กระบอง การต่อสู้ ตำรายาสมุนไพร ตำราพระคาถา และอักขระเลขยันต์และหลักธรรมคำสอนตามพระไตรปิฎก อีกทั้งสำนักวัดประดู่ทรงธรรมเป็นสถานที่ประสาทวิชาแก่พระเกจิคณาจารย์เมืองกรุงเก่าหลายท่าน

วิชาที่ขึ้นชื่อของสำนักนี้คือ วิชาทำตะกรุดเป็นที่โด่งดังมาก อาทิ ตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดมหารูด ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราช ตะกรุดมหาพิชัยสงคราม ตะกรุดมหาละลวย ตะกรุดมหาอำนาจ ตะกรุดมหาปราบ เป็นต้น



ดู 294 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page