top of page
ค้นหา

"หลวงพ่อแป๊ะ ธัมมทินโน"วัดสว่างอารมณ์ เกจินักพัฒนา/"นักบุญลุ่มน้ำนครชัยศรี" ผู้สืบสายวิชาวัดตุ๊กตา-วัดกลางบางแก้ว

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 15 ก.พ. 2567
  • ยาว 1 นาที

"หลวงพ่อแป๊ะ ธัมมทินโน"วัดสว่างอารมณ์

เกจินักพัฒนา/"นักบุญลุ่มน้ำนครชัยศรี"

ผู้สืบสายวิชาวัดตุ๊กตา-วัดกลางบางแก้ว

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติ"พระครูยติธรรมานุยุต หรือ "หลวงพ่อแป๊ะ ธัมมทินโน" หรือที่เรียกขานกันว่า"หลวงพ่อรวย" อายุ 66 ปี เจ้าคณะตำบลบางกระเบา เจ้าอาวาส วัดสว่างอารมณ์ (วัดแคแถว) ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พระเกจินักพัฒนา สมญานาม"นักบุญแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี" ผู้สืบทอดวิทยาคมสายวัดตุ๊กตาและวัดกลางบางแก้ว

ท่านมีนามเดิมว่า "สมทรง เดชจินดา" เป็นชาวนครชัยศรีโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2501 ที่บ้านปากกะท่า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม บิดาชื่อ นายไล้ มารดาชื่อ นางแจ๋ว ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 4 คนซึ่งเป็นชายล้วน

วัยเด็กศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนสันทัดวิทยา ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 เมื่ออายุ 19 ปี เข้าบรรพชาที่วัดตุ๊กตา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีพระครูวิบูลย์สิริธรรม (หลวงพ่อเพี้ยน) เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นอายุ 22 ปี เข้าอุปสมบทที่วัดตุ๊กตา มีพระครูวิบูลย์สิริธรรม (หลวงพ่อเพี้ยน) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทองดำ วัดตุ๊กตา เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ท่านได้ศึกษาร่ำเรียนวิทยาคม อักขระเลขยันต์ตามตำราของวัดตุ๊กตา และวัดกลางบางแก้วตามตำราหลวงปู่บุญ, หลวงพ่อเพิ่ม โดยมีหลวงปู่เจือ ปิยสีโล เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาอักขระเลขยันต์ให้ นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีตแห่งนครปฐมหลายรูป ถ่ายทอดวิชาอาคมให้ ต่อมากราบลาพระอุปัชฌาย์ ออกเดินธุดงค์ลงภาคใต้ มีโอกาสศึกษาวิชาจากหลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร และยังได้เรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์สายใต้อีกหลายรูปในยุคนั้น อาทิ หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง, พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ฯลฯ

ต่อมาเดินทางกลับภาคกลาง ศึกษาวิชาความรู้เพิ่มเติมกับหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์ วิเวการาม จ.กาญจนบุรี และหลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม, หลวงพ่อฟู อติภัทโท วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเมตตามอบตำราพระคาถาให้ศึกษาอีกด้วย

ในอดีตวัดสว่างอารมณ์เป็นวัดร้าง พระครูวิบูลย์สิริธรรม(หลวงพ่อเพี้ยน) ขณะดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลขุนแก้ว เห็นว่าน่าจะมีพระสงฆ์เข้าไปอยู่ถาวร จึงมอบหมายให้ “หลวงพ่อแป๊ะ” ไปรักษาการเจ้าอาวาสวัด ด้วยแรงศรัทธา จึงชักชวนชาวบ้านในชุมชนช่วยกันบูรณะสร้างศาลา สร้างโบสถ์ กระทั่งชาวบ้านรวมตัวขอให้คณะสงฆ์จังหวัดแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์

นอกจากนี้ ยังให้การช่วยเหลือชุมชนและสังคมด้านต่างๆ ทำให้มีลูกศิษย์ให้ความศรัทธาทั่วประเทศ เช่น มอบทุนการศึกษา ให้แก่บุตรธิดาในโรงเรียนต่างๆ และสงเคราะห์การกุศลต่างๆ เช่น มูลนิธิ โรงเรียน โรงพยาบาล วัดวาอารามต่างๆ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2528 เป็นพระครูสมุห์ ฐานานุกรมในพระเทพวรเวที (ปัญญา อินทปัญโญ) วัดไร่ขิง จ.นครปฐม พ.ศ.2533 เป็นพระครูธรรมธร ฐานานุกรมในพระธรรมมหาวีรานุวัตร (ปัญญา อินทปัญโญ) วัดไร่ขิง จ.นครปฐม พ.ศ.2540 เป็นพระครูธรรมธร ฐานานุกรมในพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปัญโญ) วัดไร่ขิง จ.นครปฐม พ.ศ.2547 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนามที่ "พระครูยติธรรมานุยุต" พ.ศ.2558 เป็นพระครูสัญญาบัตรเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

หลวงพ่อแป๊ะท่านเป็นพระสงฆ์นักพัฒนาอีกรูปหนึ่ง ท่านมีจุดมุ่งกมายพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยใช้แนวทางวิถีพุทธและหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า แนะนำสั่งสอนคนที่มาทำบุญ ให้ “คิดดี ทำดี แล้วจะโชคดี” ไม่ให้เชื่อในเรื่องงมงาย เมื่อมีลูกศิษย์ศรัทธามาทำบุญมาก มีรายได้เข้าวัดมาก ท่านก็แบ่งไว้บูรณะวัดส่วนหนึ่ง ที่เหลือช่วยเหลือสังคมผู้ยากไร้ รวมทั้งจัดงานปิดทองลูกนิมิต 9 วัด 99 ลูก มอบให้ 9 จังหวัดทุกปี ให้วัดในถิ่นห่างไกลทั่วประเทศ

ลูกศิษย์ของท่านมีทุกระดับชั้นทั้งข้าราชการ

ตำรวจ ทหาร ศิลปินตลก ดารานักแสดง ฯลฯ

มาให้ท่านเสกเป่า จารมือ เจิมรถ สะเดาะเคราะห์ เสริมดวง ฯลฯ ท่านก็เมตตาอย่างเท่าเทียมกัน โดยวลีทร่ท่านมักให้พรคอ "รวย รวย รวย" จึงเป็นที่มาของการเรียกขานท่านว่า "หลวงพ่อรวย"อีกชื่อหนึ่ง

ที่น่าฮือฮาเคยมีลูกศิษย์ไปวัดแล้วถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ถึง 18 คนแล้ว ทั้งๆที่ท่านไม่เคยใบ้ตัวเลข เวลามีคนไปแก้บนท่านจะเตือนสติ ไม่ให้หลงเชื่องมงาย คนมีโชคเป็นเรื่องของบุญวาสนา พร้อมเขียนป้ายเตือนใจติดตามที่ต่างๆเอาไว้

ด้านวัตถุมงคลที่หลวงพ่อแป๊ะสร้าง และอธิษฐานจิตปลุกเสก ล้วนได้รับความนิยมจากศิษยานุศิษย์และนักสะสมอย่างมาก



 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Commenti


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page