เกจิดัง “หลวงพ่อคง”สุดยอด
วัตถุมงคลขลังพลังมาแรงเต็ม
พระผู้มีอาคมขลังเมืองจันทบุรี
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ น้อมรำลึก 119 ปี ชาตกาล หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หรือ พระครูอาคมวิสุทธิ์(พระผู้มีอาคมขลัง)เมืองจันทบุรี
หลวงพ่อคง สุวัณโณ วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ย.2564 น้อมรำลึกครบ 119 ปี ชาตกาล “หลวงพ่อคง สุวัณโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี
พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในเรื่องการสร้างวัตถุมงคลรูปแบบเสือ จนได้รับสมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งเขาสมิง”
วัตถุมงคลดังในยุคหลังปี พ.ศ.2500 อาทิ พระพิมพ์พระพุทธ พิมพ์พระสมเด็จ, พระขุนแผน, พระนางพญา, พระกริ่ง-ชัยวัฒน์, พระยอดธง, เหรียญพระพุทธ, เหรียญรูปเหมือน, เสือขนาดห้อยคอ, ตะกรุด-ผ้ายันต์-ปลัดขิก, พระปิดตาและเครื่องรางของขลังในรูปแบบต่างๆ
ทั้งนี้ วัตถุมงคลมงคลเน้นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย และกล่าวขานกันเสมอว่า สูงยิ่งในพุทธคุณรอบด้าน ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2532 เวลาประมาณ 10.15 น.รวม สิริอายุ 87 ปี พรรษา 67
สำหรับประวัติ เป็นชาวหมู่บ้านตาพราย ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด (เขตติดต่อ ต.วังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี) เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 20 ก.ย.2445 บิดา-มารดา ชื่อ นายส้องและนางโอง ฑีฆายุ
ท่านเป็นบุตรคนหัวปี มีพี่น้องชายหญิงอีก 11 คน ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนาทำไร่
วัยเด็กเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดชมพูทราย จบชั้นประถมปีที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2462 และช่วยทางบ้านหาสมุนไพรของป่าออกมาขาย
เมื่ออายุ 21 ปี อุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดชมพูทราย อ.เขาสมิง จ.ตราด มีพระอธิการผูก วัดสลัก จ.ตราด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “สุวัณโณ” แปลว่า ผู้มีผิวพรรณงามดุจทองคำ
หลังบวชแล้ว ท่านได้ขยันหมั่นเพียรเล่าเรียนพระธรรมวินัย พระไตรปิฎก ประเพณีทางศาสนา 12 เดือน ตลอดจนวิทยาคมโบราณต่างๆ ที่ตกทอดกันมาจากครูบาอาจารย์ชาวเขมร และจาก พระภิกษุผู้คงแก่เรียนชาวพื้นบ้าน พร้อมกันนั้น ได้เข้าเรียนนักธรรมที่สำนักเรียนวัดสลัก กระทั่งสอบได้นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอกตามลำดับ
เมื่อปีพ.ศ.2500 ชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วไป พิธีพุทธาภิเษกต่างๆ จะต้องนิมนต์ไปร่วมนั่งปรกแทบทุกงาน พ.ศ.2503 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี พ.ศ.2513 รับตำแหน่งพระอธิการ พ.ศ.2522 รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูอาคมวิสุทธิ์
หลวงพ่อคง นับเป็นผู้คงแก่เรียนองค์หนึ่ง โดยมีครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้มากมาย ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส อาทิ หลวงปู่จง ปู่แท้ๆ ของท่าน, หลวงพ่อเม วัดมาบไผ่, หลวงพ่ออุก-หลวงพ่อเจาะ วัดโปร่งเซ็น, หลวงพ่ออ่ำ วัดสะตอน้อย, หลวงพ่อหริ่ง, พ่อครูเต๋า ฆราวาสจอมคาถา, พ่อครูตาสด ฆราวาสจอมขมังเวท, หลวงคีรีเขตต์ ตาแท้ๆ ของท่าน รับราชการดูแลหัวเมืองตราด-จันทบุรี ผู้มีคาถาอาคมขลัง
วิชาที่ได้ร่ำเรียนมีหลายแขนง ทั้งคาถาหัวใจ 108 คาถาคงกระพันชาตรีต่างๆ การเขียนอักขระเลขยันต์ภาษาขอม การเขียนลบผงอิทธิเจ ปถมัง การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง วิชาแพทย์แผนโบราณ วิชาการหาสมุนไพรของป่า การหาว่านคงกระพัน
การสักยันต์ วิชาย่นระยะทาง การเดินจงกรม และการฝึกจิตฝึกสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน เข้านิโรธสมาบัติ ซึ่งปฏิบัติไป ตามขั้นตอนตามที่พระอาจารย์หลายรูปได้ สั่งสอนมารวมทั้งสุดยอดวิชา “เสือสมิง” ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งที่ชาวบ้านป่านิยมเรียนกัน เพื่อให้เข้าป่าโดยปลอดภัย
นำความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ช่วยเหลือสงเคราะห์ชาวบ้าน ทั้งในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และสร้างวัตถุมงคลเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
ปกติท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวดำ ใจดี พูดคำยิ้มคำ แต่รู้ทันคำพูดและรู้เจตนา ทั้งนี้ ผู้ที่ได้พบเห็นในวัตรปฏิบัติ และปฏิปทาของท่าน ต่างรู้สึกประทับใจและเกิดความศรัทธาอย่างสูง เพราะเปี่ยมไปด้วยอัธยาศัยไมตรี และความเมตตาปรานี
คติธรรมที่มักตอกย้ำให้ลูกศิษย์นำไปขบคิด คือ “ทำดี ซื่อสัตย์ จริงใจ มีอยู่แล้วในตัวทุกคน …ทำได้ ทำจริง ชีวิตรอดปลอดภัย”
ท่านเป็นหนึ่งในพระดีศรีเมืองจันท์ที่สร้างพระเครื่อง เครื่องรางของขลังเปี่ยมด้วยพุทธคุณ และเป็นที่นิยมของชาวภาคตะวันออก และผู้ศรัทธาทั่วไป โดยท่านเริ่มสร้างแจกชาวบ้านราวปี พ.ศ.2484 ซึ่งตรงกับช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา
ครั้งนั้นประเทศไทยจับมือกับญี่ปุ่นขับไล่ชาวอังกฤษและฝรั่งเศสให้ออกนอกประเทศ และส่งทหารหาญไปยังประเทศกัมพูชา ทวงกรรมสิทธิ์ในดินแดนเสียมราฐ ศรีโสภณ และพระตะบอง
เหล่าทหารกล้าที่ถูกเกณฑ์ไปร่วมรบ ต่างพกของดีของขลังของท่านไปเป็นขวัญกำลังใจ ประกอบด้วย ตะกรุดหนังเสือ และตะกรุดเนื้อโลหะต่างๆ, ผ้าประเจียด, ผ้ายันต์ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังสักยันต์แคล้วคลาดคงกระพันด้วย
Comments