top of page
ค้นหา

เจาะประวัติพระเกจิดัง"หลวงปู่แก้ว สุทฺธิญาโณ"

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ






สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร (เขาไม้แก้ว) ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย สาขาวัดป่าทรงคุณ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 บ้านหลังเขา ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ ที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ โดยเกิดจากจิตศรัทธาของ บรรดาชาวบ้าน หมู่ 3 และ ละแวกใกล้เคียงที่ร่วมด้วยช่วยกันก่อสร้างขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติธรรม โดยมี "พระอาจารย์อนุชิต อิตฺธิญาโณ" เป็นเจ้าสำนักสงฆ์ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2556 ได้พัฒนาปรับปรุงบูรณปฏิสังขรณ์จนถึงปัจจุบันนี้ โดยมี "หลวงพ่อดำ"พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นพระประธาน


สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร (เขาไม้แก้ว) แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะในเรื่องการเสี่ยงโชคส่องเลขเด็ดในอ่างน้ำมนต์จาก รูปปั้น"รัก-ยม" ที่ให้โชคให้ลาภผู้ที่มีความเชื่อถือกันอย่างมากมาย จนมีชื่อเสียงที่บอกกล่าวเล่าถึงกันอย่างกว้างขวาง


ที่สำคัญ ปัจจุบันสำนักสงฆ์แห่งนี้มีพระดีเกจิดังที่กำลังมาแรงแห่งเมืองกบินทร์บุรีนามว่า

"หลวงปู่แก้ว สุทฺธิญาโณ"ปัจจุบันสิริอายุ 72 ปี ท่านพระวิปัสสนาจารย์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ที่โด่งดังตีคู่มากับพระครูสุนทรโชติธรรม หรือ"หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม" พระเกจิคณาจารย์ฝ่ายมหานิกาย แห่งสำนักสงฆ์เขาแก้วทอง


ชาติภูมิท่านเป็นชาวโคราชโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2492 ปีฉลู ที่บ้านหนองปรือ เลขที่ 114 ม.4 ต.โบสถ์ อ พิมาย จ.นครราชสีมา เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 7คน บิดาชื่อ "นายอิฐ" มารดาชื่อ นางคำ นามสกุล"ปรืองาม"ประกอบอาชีพรับจ้างทำสวน ทำนาทั่วไป หลังจากเกณฑ์ทหารแล้ว


ท่านอุปสมบทครั้งแรกเมื่ออายุ 21 ปี ณ วัดบ้านใหม่ หนองจิก โดยมีพระอาจารย์พุฒ เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า "สิริจันโท" บวชอยู่ 8 เดือนจึงลาสิกขาบทออกมาประกอบอาชีพ และมีครอบครัว จนกระทั่งอายุได้ 59 ปีได้อุปสมบทอีกครั้งที่วัดเทพประสิทธิ์วนาราม ต.โนนห้อม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี มีพระประสิทธิชัยเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “สุทธิญาโณ"


หลวงปู่แก้วท่านเป็นพระนักปฏิบัติ ชอบออกเดินธุดงค์เพื่อเผยแผ่ศาสนาและค้นหาสัจธรรม โดยใช้ธรรมชาติเป็นครูอาจารย์ ใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องชี้นำทาง ท่านเริ่มออกเดินธุดงค์จาก จ.ปราจีนบุรี ไปทางเขาใหญ่เพื่อมุ่งหน้าไปทางอีสาน ได้ปฏิบัติพระกรรมฐานวิปัสสนาภูมิ ในสถานที่สัปปายะเงียบสงบอันเหมาะสมแก่สมณะสมาธิบน เขาใหญ่ดงพญาไฟ ซึ่งปัจจุบันเรียกกันว่า "ดงพญาเย็น" ข้างฝั่งเมืองปราจีนบุรี


ผ่านประสบการณ์อันเร้นลับในการธุดงควัตรตามแบบอย่าง ครูบาอาจารย์ พ่อ แม่ สายพระป่าอรัญวาสี ทางด้านจิตวิญญาณ ทางด้านเจตสิกวิญญาณ ทางด้านเจตภูมิวิญญาณ การเผชิญหน้าอัตลักษณ์ของสัตว์ใหญ่ ตามการบันทึกไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจกันถึงอุปนิสัยหยั่งลึกถึงวิปัสสนาญาณวิถี


ต่อมาในปี พ.ศ.2560 หลวงปู่แก้ว สุทฺธิญาโณ ได้มาอยู่จำพรรษาที่ สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร (เขาไม้แก้ว) โดยท่านได้ร่วมกับพระอาจารย์อนุชิตสร้างสรรค์พัฒนาสำนักสงฆ์จนเจริญขึ้นตามลำดับ และมีผู้เลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงปู่แก้วกระจายไปในวงกว้าง โดยเฉพาะในด้านวัตถุมงคลที่มีประสบการณ์มากมาย


หลวงปู่แก้วท่านชอบให้ธรรมะสั้นๆแก่ลูกศษย์ลูกหาเอาไปขบคิด

"อะไรที่เราชอบๆกัน ชอบที่จะรัก โลภ โกรธ หลง ที่เราติดๆกันอยู่น่ะ ล้วนเป็นของร้อน พยายามห่างๆ ไว้


"สัตว์ทั้งหลาย ก็ล้วนเป็นครูบาอาจารย์ของเราทั้งสิ้น อาตมา มีป่าเขาเป็นครูบาอาจารย์ ใช้ธรรมชาติ และ หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ค้นหาสัจจะธรรม"

"อาตมา ฉันตรงไหนก็อิ่ม นอนตรงไหนก็หลับ ปัจจัยที่โยมถวายนี้ มาร่วมกันโปรดสัตว์กันต่อไปเถอะ"

ในด้านการจัดสร้างวัตถุมงคลในนาม หลวงปู่แก้ว สุทฺธิญาโณ ถือเป็นฉันทามติที่อนุญาตให้ "คุณศรันยู คล่องแคล้ว หรือ"โปเต้ ระยอง" นักสร้างพระเครื่องฯ สายพระใหม่ ที่ได้รับความเชื่อถืออย่างกว้างขวางจาก นักสะสม นักเล่น นักแลกเปลี่ยน สายพระใหม่ เป็นผู้ที่ดำเนินงาน และ รับผิดชอบ ติดต่อประสานงาน เป็นตัวแทนของ"พระอาจารย์อนุชิต อิตฺถิญาโณ" โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดหาทุนทรัพย์ในการก่อสร้างศาสนสถานภายในสำนักสงฆ์สวนสมุนไพร (เขาไม้แก้ว)โดยกำหนดให้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลปีละ 3 รุ่น เท่านั้น


วัตถุมงคลรุ่นแรกจัดสร้างประมาณปลายปี พ.ศ. 2562 โดยจัดสร้างตามแบบอย่างของ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง ได้แก่ พระพิมพ์สี่เหลี่ยม รูปเหมือนนั่งสมาธิเต็มองค์ในซุ้มระฆัง เนื้อผงพระพุทธคุณ ผสมผงพรายกุมาร ด้านหลัง องค์ยันต์ พระเจ้าห้าพระองค์ ที่นิยมเรียกกันว่า "พระพิมพ์เศียรโต "ตามพุทธลักษณะการแกะบล็อกแม่พิมพ์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

ปี พ.ศ.2563 มีการจัดสร้างวัตถุมงคลในนาม หลวงปู่แก้ว 3 พิมพ์ทรง ได้แก่ 1.พระพิมพ์ห้าเหลี่ยมซุ้มเรือนแก้ว เสากลมหน้าบรรณนาคสะดุ้ง พระพุทธรูปปางมารวิชัย หรือ"ปางสะดุ้งมาร" ประทับนั่งบนฐานดอกบัวบาน ที่นิยมเรียกกันว่า "พระขุนแผนพรายแก้ว" เนื้อผงพุทธคุณ ด้านหลัง องค์ยันต์ นะวิเศษ ยันต์ครู และ ด้านหลังรูปเหมือนตัดชิด จัดเป็น พระขุนแผน พิมพ์พระยอดขุนพล ที่มีพระพุทธศิลป์แตกต่างไปจากพระขุนแผนที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้


แต่กลับมีพุทธศิลป์เหมือนกับ "หลวงพ่อดำ" พระพุทธรูปปางมารวิชัยศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักสงฆ์สวนสมุนไพร จึงเป็นเรื่องที่บังเอิญมากกว่าความตั้งใจที่จะให้เป็นไปที่ ช่างแกะบล็อกแม่พิมพ์จะจงใจให้เป็นไปได้

2.พระพิมพ์สามเหลี่ยม พระพุทธปางนั่งสะดุ้งมารกลับในซุ้มระฆัง เนื้อผงพระพุทธคุณ ด้านหลัง องค์ยันต์ พระเจ้าห้าพระองค์ และพิมพ์สองหน้า ที่นิยมเรียกกันว่า "พระพิมพ์พรายคู่ เพชรกลับ" ที่มีผู้นำผงพรายแม่แก้ว และผงพรายแม่ศิรินาท ที่ผ่านการปริตตังภิเษกมามอบให้ทำการบัดพลีกรรม คือ การกล่าวขออนุญาตบอกจุดประสงค์อันเป็นงานบุญงานกุศล เพื่อใช้เป็นเนื้อหามวลสารส่วนผสม รวมกับผงพุทธคุณ 108 ผงว่านมหามงคล 108 ผงมหา ภูตรูปอาถรรพ์ 108 เป็นต้น

3.เหรียญปั๊มทรงเสมาหัวเสือ รูปเหมือนนั่งสมาธิเต็มองค์ ที่ระลึกหลวงปู่แก้วเจริญอายุวัฒนะมงคลครบ 6 รอบ 72 ปี ด้านหลัง องค์ยันต์เสือเผ่น หรือ เสือสมิงกระชากโซ่ขาด ที่เป็นศาสตร์สายวิชาที่มาจากพระฤาษีแขนเดียว ที่ได้รับการถ่าย ทอดจากต้นตำนาน "พ่อหมอเวท" พ่อหมอธรรม ชาวกะเหรี่ยงไทยใหญ่ทีมีความโดดเด่นครบถ้วนด้วยพุทธคุณทั้ง 4 ประการ ปรากฏประสบการณ์อย่างกว้างขวาง

สำหรับต้นปีพ.ศ. 2564 มีการจัดสร้าง เหรียญปั๊มรูปไข่ รูปเหมือนนั่งสมาธิเต็มองค์ นั่งบนตั่งเตี้ย ด้านหลัง องค์ยันต์ พระเจ้าห้าพระองค์ ที่นิยมเรียกกันว่า "เหรียญเจริญพร" ตามแบบอย่างเหรียญเจริญพร 2 หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ โดยให้มีเอกลักษณ์เป็นรูปแบบเฉพาะในองค์หลวงปู่แก้ว สุทฺธิญาโณ ให้ได้เล่นหาเก็บสะสมแลกเปลี่ยนกันต่อไปในภายภาคหน้า

หลวงปู่แก้วปลุกเสกเน้นหนักจัดเต็มด้วย ศาสตร์สายวิชาเตโชกสิณ (กสิณไฟ) ดีเด่นในมหาอุตม์ คงกระพัน อาโปกสิณ(กสิณน้ำ) สุดยอดในเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ ไว้ควบคู่ให้เกิดความสมดุลธาตุเป็น คู่ปรับ คู่แก้ คู่ค้ำ คู่คูณ ไขว้รวมไว้ด้วยอานุภาพพระพุทธคุณในสายนักรบ นักรัก ตามแบบอย่างโบราณนิยมของลูกผู้ชายไทย


ติดตามความเคลื่อนไหวได้ในเพจ เฟซบุ๊ก กลุ่ม"หลวงปู่แก้ว สุทฺธิญาโณ สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร (เขาไม้แก้ว) และ"หลวงปู่แก้ว สำนักสงฆ์ป่าสมุนไพร ทุกรุ่น" หรือติดต่อสอบถามรายละเอียด ข้อมูลต่างๆ ในการจัดสร้างได้ที่"โปเต้ ระยอง" โทร.084- 3267226

 
 
 

댓글


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page