top of page
ค้นหา

เจาะประวัติ"หลวงตาขึม วรธัมโม"

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ



เทพเจ้าแห่งวัดบ้านผักขะ ศรีสะเกษ

น่าศรัทธายอดพระเกจิแห่งอีสานใต้

เรื่องน่ามหัศจรรย์/ปาฏิหาริย์มากมาย

วัดผักขะ ตั้งอยู่เลขที่ 173 หมู่ที่ 13 บ้านผักขะ ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งวัดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย 2453ได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2480

เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 8 เมตร ยาว 15 เมตร ผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2480

ลำดับเจ้าอาวาส รูปที่1 พระอธิการขำ สฺญญโม (พ.ศ.2463) รูปที่2 พระอธิการนิ่ม สุตฺตโม (พ.ศ.2476) รูปที่3 พระอธิการโสม องฺคปญฺ โญ (พ.ศ.2490) รูปที่4 พระครูสุชัยวรธรรม (หลวงตาขึม) ตั้งแต่พ.ศ.2517จนถึงปัจจุบัน

วัดนี้เป็นวัดที่ตั้งมานานมีเนื้อที่ 6ไร่ เศษ โดยพระอธิการขำได้ริเริ่มสร้างกุฏิขึ้นด้วยไม้ หลังคามุงหญ้าคา ต่อมาในสมัยพระอธิการนิ่ม ได้เปิดโรงเรียนประชาบาล และโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้น ในสมัยพระอธิการโสม ท่านพัฒนาศาสนวัตถุขึ้น อาทิ อุโบสถ กุฏิ ศาลาการเปรียญ และขยายเนื้อที่ของวัดออกไปเป็น 8 ไร่ 3 งาน 3 ตารางวา

ในยุคของพระครูสุชัยวรธรรม(หลวงตาขึม) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ท่านได้สร้างศาลาอเนกประสงค์ หอระฆัง และบูรณศาสนวัตถุต่างๆ ตลอดจนจัดตั้งมูลนิธิเพื่อส่งเสริมพระภิกษุสามเณรศึกษาเล่าเรียน และประโยชน์แก่สาธารณะจนถึงปัจจุบันนี้

พระครูสุชัยวรธรรม หรือ"หลวงตาขึม วรธัมโม" เจ้าคณะตำบลลิ้นฟ้า เจ้าอาวาสวัดผักขะ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ เทพเจ้าแห่งบ้านผักขะ อริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำมูล เจ้าของ "เบี้ยแก้" อันโด่งดัง

ปัจจุบันท่านอายุ 74 ปี 54 พรรษา เดิมชื่อ"วีระชัย" นามสกุล"โตมร" เกิดที่บ้านผักขะ ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2490 (ขึ้น 10 ค่ำ เดือน9) ปีกุน บิดาชื่อ"นายกร" มารดาชื่อ"นางยัน" มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 6 คน

เมื่ออายุ 19 ปี ได้️บรรพชาเป็นสามเณร ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 11 มี.ค. 2509 ณ อุโบสถวัดผักขะ จากนั้นเมื่ออายุ 21 ปี จึง️อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันพุธที่ 25 มี.ค. 2511 ณ อุโบสถวัดผักขะ โดยมีพระอธิการโสม อังคปัญโญ เจ้าอาวาสวัดผักขะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูศรีธรรมรัตน์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า "วรธัมโม"

ปีพ.ศ.2514 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดผักขะปีพ.ศ.2514 - 2516 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดผักขะ ปีพ.ศ.2517 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดผักขะ ปีพ.ศ.2542 เป็นเจ้าคณะตำบลลิ้นฟ้า ปีพ.ศ.2554 เป็นพระอุปัชฌาย์

หลวงตาขึมท่านเป็นพระสมถะ ไม่สะสม เข้าพบง่าย ใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความเมตตาปรานี ใครไปใครมาท่านก็นั่งพับเพียบต้อนรับลูกศิษย์ทั้งวันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ด้านวิชาอาคมท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อโสม พระอุปัชฌาย์ของท่าน ซึ่งหลวงพ่อโสมเป็นพระดีมีวิชาองค์หนึ่ง ชาวบ้านมีเรื่องทุกข์ร้อน เจ็บป่วยก็มาให้ท่านรักษา ท่านเคยสร้างพระขุนแผนแล้วเคยให้คนไป ปรากฎว่าไปเป็นนักเลง ไม่เกรงกลัวใคร แถมหนังเหนียว ท่านเลยเลิกสร้างแล้วถ่ายทอดวิชาการสร้างและเสกให้หลวงตาขึมเพื่อใช้ทางเมตตามหานิยม ป้องกันภยันตราย

พระอาจารย์อีกองค์คือ "หลวงปู่เฮือง" อายุ 80 ปี เดินธุดงค์จากจ.ชัยภูมิ มาถ่ายทอดวิชาให้ท่านที่วัดบ้านผักขะประมาณปี2521 โดยมีเรื่องเล่าขานว่า ขากลับท่านให้พระ10กว่ารูปไปส่งหลวงปู่เฮือง แต่วิ่งไม่ทัน มีเพียงหลวงตาขึมที่เดินตามทัน ที้น้าอัศจรรย์กว่านั้นคือ มีฝนตก แต่ทั้งสองท่านไม่เปียกฝนเลย

ทั้งนี้ เรื่องน่ามหัศจรรย์ และปาฏิหาริย์ของหลวงตาขึม มีผู้พบเห็นและเล่ากันไว้หลายเหตุ การณ์ อาทิ ท่านเสกมือของศิษย์ที่จะไปจับใบดำใบแดงรอดจากถูกเกณฑ์ทหาร ,หลวงตาหายตัว ฝนไม่เปียก,เกิดอุบัติเหตุมีคนเห็นหลวงตาขึมไปช่วยอุ้มออกมา,คนที่มีวัตถุมงคลของท่านรถชนไม่เป็นอะไร ฯลฯ

นอกจากนี้ ท่านยังมีความเชี่ยวชาญทางสมุน ไพรรักษาโรค และคาถาอาคมต่างๆ, ของหายท่านก็เสกคาถาจับโจรให้,โดนของโดนคุณไสยท่านก็แก้ให้

วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังของท่าน เช่น เบี้ยแก้ ชานหมาก พระขุนแผน ฯลฯ

มีพุทธานุภาพป้องกันสิ่งชั่วร้าย กันคุณไสย มนต์ดำ ยาสั่ง มีประสบการณ์มากมายรอบด้าน ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ในเพจ เฟซบุ๊ก "หลวงตาขึม วัดบ้านผักขะ อ.ยางชุมน้อย ศ.ก.เฉพาะบพิตรขออนุญาตจัดสร้าง"

ดู 4,136 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comentários


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page