top of page
ค้นหา

เจาะประวัติเกจิดังหลวงปู่ตี๋ตำรับยันต์พลิกชะตา

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 27 ม.ค. 2563
  • ยาว 1 นาที

"พระครูอุทัยบวรกิจ"หรือ"หลวงปู่ตี๋ ปวโร"เป็นพระเกจิชื่อดังที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และมีชื่อเสียงของอุทัยธานี เป็นศิษย์ของหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง พระเกจิดังต้นตำรับยันต์พลิกชะตาและยันต์โสฬสมงคล ปัจจุบันสิริอายุ 76 พรรษา 40 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง หมู่ที่ 5 ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ปัจจุบันได้ท่านย้ายมาจำพรรษาที่วัดดอนเนรมิตร อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เมื่อปีพ.ศ.2561

วัตถุมงคลของหลวงปู่ตี๋ ได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหานักสะสมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ แต่ละรุ่นส่วนใหญ่ท่านจะใช้ยันต์นะ 16 พระองค์ และยันต์โสฬสมงคล เป็นหลัก และที่สำคัญท่านเป็นเจ้าตำรับยันต์พลิกชะตาที่ทำให้เหตุร้ายกลายเป็นดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ วัตถุมงคลของหลวงปู่ตี๋ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ตะกรุดโสฬสมงคล, ตะกรุดนะ 16 พระองค์ และเหรียญบาตรน้ำมนต์ยันต์พลิกชะตาที่ชาวบ้านและบรรดาเซียนพระเสาะแสวงหาอยู่ขณะนี้ หลวงปู่ตี๋ มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วทุกทิศ ทำให้มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก

ท่านมีนามเดิมว่า เหลียงเช็ง แซ่เซียว เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ธ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 56 บ้านคลองข่อย ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นบุตรคนโตในครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่ออายุ 15 ปี บรรพชาที่วัดสะพานสูง ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีเจ้าคุณกุหลาบ วัดสว่างอารมณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ร่ำเรียนพระปริยัติธรรมและวิทยาคมกับหลวงพ่อทองสุข แห่งวัดสะพานสูง นานกว่า 5 พรรษา ก่อนลาสิกขาออกมาประกอบอาชีพ

จวบจนอายุ 36 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดท่าเกวียน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2523 โดยมีเจ้าอธิการอำนวย อติเมโธ วัดท้องคุ้ง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพุฒินนทคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสอน สิริธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า ปวโร อยู่จำพรรษาที่วัดท่าเกวียน แต่ไปศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนพุทธาคมกับ หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง ด้วยความวิริยะอุตสาหะตลอด 5 พรรษา โดยศึกษาเกี่ยวกับการเขียนอักขระขอม การลงยันต์นะ 16 พระองค์ และยันต์โสฬสมงคล จนมีความชำนาญ ซึ่งหลวงพ่อทองสุขได้เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น ต่อมา หลวงปู่ตี๋ มีโอกาสเดินทางไปวัดหลวงราชาวาส ถนนท่าช้าง ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ในสมัยที่หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ หรือ พระครูอุทัยธรรมกิจ พระเกจิชื่อดัง ยังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ตี๋

ครั้นหลวงปู่ตี๋อยู่จำพรรษาที่วัดหลวงราชาวาสได้ 7 เดือน มีคนพยายามนิมนต์ท่านไปเป็น เจ้าอาวาสตามวัดต่างๆ แต่ท่านตอบปฏิเสธ เนื่องจากรักความสงบมากกว่า พ.ศ.2536 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระปลัด ฐานานุกรมพระครูอุทัยธรรมโกศล เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี และเจ้าอาวาสวัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนาม พระครูอุทัยบวรกิจ แต่เมื่อหลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส มรณภาพ พระราชอุทัยกวี (ประชุม) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี มอบหมายให้ท่านไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง พ.ศ.2545 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี จนถึงปัจจุบัน

งานด้านการปกครอง พระภิกษุ-สามเณร ต้องลงอุโบสถกรรม, ทำวัตรเช้า-เย็น, ยึดถือพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคมและพระราชบัญญัติคณะสงฆ์เป็นสำคัญ, ต้องเรียนนักธรรมทุกรูป, ต้องสอบธรรมสนามหลวงก่อนลาสิกขา รวมทั้งต้องร่วมกันรับผิดชอบในการดูแลรักษาป้องกันสิ่งที่เป็นศาสนสมบัติของวัด

ด้านการพัฒนาวัด นับตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง เป็นต้นมา ทำการพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ด้วยการสร้างศาลาการเปรียญ, สร้างฌาปนสถานแบบมาตรฐาน พร้อมเตาเผาอย่างดี นอกจากนี้ ยังสร้างหอสมุดประชาชนประจำตำบล สร้างหอกลอง หอระฆัง ถมดินปรับพื้นที่ในลานวัด

ด้วยวัตรปฏิบัติที่สมบูรณ์เพียบพร้อมทำให้ เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าจากสาธุชนทั้งใกล้ไกล หลั่งไหลมากราบนมัสการหลวงพ่อตี๋อย่างไม่ขาดสาย ทุกวันพระ หลวงพ่อตี๋จะอบรมสั่งสอนญาติโยมที่มาทำบุญให้ประพฤติตนเป็นคนดีของครอบครัวและสังคมให้มัธยัสถ์ ไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักประมาณตน จนสาธุชนทั่วไปยกย่องท่านเป็นพระเกจิอาจารย์นักพัฒนาที่มีเมตตาสูงรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page