"พระครูอุทัยบวรกิจ"หรือ"หลวงปู่ตี๋ ปวโร"เป็นพระเกจิชื่อดังที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และมีชื่อเสียงของอุทัยธานี เป็นศิษย์ของหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง พระเกจิดังต้นตำรับยันต์พลิกชะตาและยันต์โสฬสมงคล ปัจจุบันสิริอายุ 76 พรรษา 40 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง หมู่ที่ 5 ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ปัจจุบันได้ท่านย้ายมาจำพรรษาที่วัดดอนเนรมิตร อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เมื่อปีพ.ศ.2561
วัตถุมงคลของหลวงปู่ตี๋ ได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหานักสะสมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ แต่ละรุ่นส่วนใหญ่ท่านจะใช้ยันต์นะ 16 พระองค์ และยันต์โสฬสมงคล เป็นหลัก และที่สำคัญท่านเป็นเจ้าตำรับยันต์พลิกชะตาที่ทำให้เหตุร้ายกลายเป็นดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ วัตถุมงคลของหลวงปู่ตี๋ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ตะกรุดโสฬสมงคล, ตะกรุดนะ 16 พระองค์ และเหรียญบาตรน้ำมนต์ยันต์พลิกชะตาที่ชาวบ้านและบรรดาเซียนพระเสาะแสวงหาอยู่ขณะนี้ หลวงปู่ตี๋ มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วทุกทิศ ทำให้มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก
ท่านมีนามเดิมว่า เหลียงเช็ง แซ่เซียว เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ธ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 56 บ้านคลองข่อย ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นบุตรคนโตในครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่ออายุ 15 ปี บรรพชาที่วัดสะพานสูง ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีเจ้าคุณกุหลาบ วัดสว่างอารมณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ร่ำเรียนพระปริยัติธรรมและวิทยาคมกับหลวงพ่อทองสุข แห่งวัดสะพานสูง นานกว่า 5 พรรษา ก่อนลาสิกขาออกมาประกอบอาชีพ
จวบจนอายุ 36 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดท่าเกวียน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2523 โดยมีเจ้าอธิการอำนวย อติเมโธ วัดท้องคุ้ง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพุฒินนทคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสอน สิริธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า ปวโร อยู่จำพรรษาที่วัดท่าเกวียน แต่ไปศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนพุทธาคมกับ หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง ด้วยความวิริยะอุตสาหะตลอด 5 พรรษา โดยศึกษาเกี่ยวกับการเขียนอักขระขอม การลงยันต์นะ 16 พระองค์ และยันต์โสฬสมงคล จนมีความชำนาญ ซึ่งหลวงพ่อทองสุขได้เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น ต่อมา หลวงปู่ตี๋ มีโอกาสเดินทางไปวัดหลวงราชาวาส ถนนท่าช้าง ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ในสมัยที่หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ หรือ พระครูอุทัยธรรมกิจ พระเกจิชื่อดัง ยังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ตี๋
ครั้นหลวงปู่ตี๋อยู่จำพรรษาที่วัดหลวงราชาวาสได้ 7 เดือน มีคนพยายามนิมนต์ท่านไปเป็น เจ้าอาวาสตามวัดต่างๆ แต่ท่านตอบปฏิเสธ เนื่องจากรักความสงบมากกว่า พ.ศ.2536 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระปลัด ฐานานุกรมพระครูอุทัยธรรมโกศล เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี และเจ้าอาวาสวัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนาม พระครูอุทัยบวรกิจ แต่เมื่อหลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส มรณภาพ พระราชอุทัยกวี (ประชุม) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี มอบหมายให้ท่านไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง พ.ศ.2545 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี จนถึงปัจจุบัน
งานด้านการปกครอง พระภิกษุ-สามเณร ต้องลงอุโบสถกรรม, ทำวัตรเช้า-เย็น, ยึดถือพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคมและพระราชบัญญัติคณะสงฆ์เป็นสำคัญ, ต้องเรียนนักธรรมทุกรูป, ต้องสอบธรรมสนามหลวงก่อนลาสิกขา รวมทั้งต้องร่วมกันรับผิดชอบในการดูแลรักษาป้องกันสิ่งที่เป็นศาสนสมบัติของวัด
ด้านการพัฒนาวัด นับตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง เป็นต้นมา ทำการพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ด้วยการสร้างศาลาการเปรียญ, สร้างฌาปนสถานแบบมาตรฐาน พร้อมเตาเผาอย่างดี นอกจากนี้ ยังสร้างหอสมุดประชาชนประจำตำบล สร้างหอกลอง หอระฆัง ถมดินปรับพื้นที่ในลานวัด
ด้วยวัตรปฏิบัติที่สมบูรณ์เพียบพร้อมทำให้ เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าจากสาธุชนทั้งใกล้ไกล หลั่งไหลมากราบนมัสการหลวงพ่อตี๋อย่างไม่ขาดสาย ทุกวันพระ หลวงพ่อตี๋จะอบรมสั่งสอนญาติโยมที่มาทำบุญให้ประพฤติตนเป็นคนดีของครอบครัวและสังคมให้มัธยัสถ์ ไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักประมาณตน จนสาธุชนทั่วไปยกย่องท่านเป็นพระเกจิอาจารย์นักพัฒนาที่มีเมตตาสูงรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง
Comments