เปิดชีวประวัติ"คุณแม่ชีอัมพร ทำรัมย์ "
ศูนย์ปฏิบัติธรรมพระพุทธเมตตาภูผาชัน
ศิษย์สายธรรมหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ
ทีมข่าว"คัมภีร์นิวส์"ร่วมเผยแพร่ชีวประวัติ
"คุณแม่ชีอัมพร ทำรัมย์" ศูนย์ปฏิบัติธรรมพระพุทธเมตตาภูผาชัน ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ศิษย์สายธรรมหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ อดีต้จ้าอาวาสวัดเกาะแก้วธุดงคสถาน (บ้านระหาน) อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
คุณแม่ชีอัมพรเกิดเมื่อวันอังคาร เดือน 9 ปีขาล พ.ศ. 2505 ที่บ้านหนองคูใหญ่ ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ บิดาชื่อ"อัมคา" มารดาชื่อ"จันทร์" นามสกุล"ทำรัมย์" มีพี่น้อง2คน คือ 1.คุณแม่ชีอำพร ทำรัมย์ 2.นายสมร ทำรัมย์
ครั้นเมื่อคุณแม่จันทร์เสียชีวิตลง คุณพ่ออัมคาก็อยู่กับคุณแม่ชีอัมพรมาได้หลายปีจึงมีภรรยาใหม่ ชื่อนางแพง และมีลูกอีก 3คน
1. นางบังอร ไชยโย 2. นางบัวสอน ณรงค์ศักดิ์ 3.นางสาววิธาลดา ทำรัมย์
ต่อมาคุณแม่ชีอัมพรเกิดความเบื่อหน่ายทางโลกหลายครั้งหลายคราว แต่เหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้คุณแม่บวชชีนั้นคือคุณพ่ออัมคาได้เสียชีวิต ในวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ 2550 ท่านเสียใจมากจึงตัดสินใจบวชเป็นแม่ชี ในวันพฤหัสบดี ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 (ตรงกับวันมาฆบูชา เดือน 3) ณ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน (บ้านระหาน) อ. บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ โดยหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ เมตตาบวชให้
หลังบวชเสร็จท่านได้ประพฤติปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่จันทร์แรมระยะหนึ่ง หลวงปู่จันทร์แรม ท่านได้กล่าวผญา(คำกลอนลำนำอิสานโบราณ)ว่า ต่อไปภายภาคหน้า "จากงูเขียวจะกลายเป็นมังกร ว่ายข้ามแม่น้ำ 3 สาย "
ในกาลต่อมาทุกอย่างในคำพยากรณ์กำลังจะเกิดขึ้นบนเขาภูผาชัน จ.นครราขสีมา
แห่งนี้
หลังจากนั้นหลวงปู่จันทร์แรมท่านก็ให้คุณแม่ ไปอยู่ในป่าที่สงบสงัด เพราะท่านรู้ว่า ในหัวใจคุณแม่มีแต่อยากภาวนาและระลึกถึงแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น คุณแม่จึงออกเดินทางไปจำพรรษาที่วัดศรีมหาเทพนิมิตรวนาราม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีพระครูภาวนาวิทยาคม ( หลวงพ่อวิชา อภินันโท) เป็นเจ้าอาวาส
หลังจากจำพรรษาได้ 1 พรรษา คุณแม่ชีอัมพรจึงออกเดินธุดงค์มายังสถานที่เขาภูผาชัน จ. นครราชสีมา ซึ่งสำนักสงฆ์ภูผาชันข้างล่างที่อยู่อาศัยก็มีพระแวะเวียนมา แต่ไม่ได้อยู่ถาวร ข้างบนปิดประตูตาย รกร้าง คุณแม่ชีอัมพรจึงหนีความวุ่นวายขึ้นไปอยู่ข้างบนเขา และไม่ลงมาอีกเลย ท่านปฏิบัติบนเขา จนเกิดดวงตาเห็นธรรม
ในราวปี 2553ท่านรำลึกถึงพระมหากรุณา ธิคุณอันยิ่งใหญ่ในพระบรมศาสดาจึงแกะสลักหินผาเป็นรูปพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน ช่วงที่ท่านแกะนั้น มีความยากลำบาก เพราะท่านอยู่รูปเดียว มีมารมาขวางกั้นไม่ให้ท่านแกะพระพุทธเจ้า ท่านโดนโจมตีอย่างหนัก โดนขโมยเครื่องมือของใช้ต่างๆ และไล่ท่านให้ลงจากเขา มีผู้ชายคนหนึ่งแต่งชุดคล้ายตำรวจ ขึ้นมาเอามือมาปัดศีรษะคุณแม่ชีอำพร แต่ท่านก็อดทนและต่อสู้มาได้
กาลต่อมา หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต วัดโนนสว่าง หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ได้ทราบข่าว ท่านจึงรีบขึ้นมาหาคุณแม่ชีอำพร และทำน้ำมนต์อาบให้ และให้คุณแม่รับศีลใหม่ ตั้งแต่บัดนั้นมา คุณแม่ชีอัมพรก็นับถือหลวงพ่อเจริญเป็นครูบาอาจารย์อีก 1 รูป
หลวงพ่อเจริญเลยประกาศคุณธรรมคุณแม่ชีอำพร และบอกกับทุกคนว่า บนเขาภูผาชันนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก มีสิ่งเร้นลับหลายภพหลายภูมิ เหมือนประเทศลาวที่ภูเขาควาย พระจะอยู่ไม่ได้ แต่จะมาประพฤติปฏิบัติชั่วครั้งชั่วคราวได้บนเขาภูผาชัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะรับเฉพาะแม่ชีที่ศีลบริสุทธิ์และอุบาสกอุบาสิกาเท่านั้น ตอนนี้บนขาภูผาขัน อยู่ในความดูแลของเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าคณะตำบล จ.นครราชสีมา
ประมาณปลายปี 2560 คุณวิทยา ฝอยพิกุล( พี่หมู) ลูกศิษย์คนหนึ่งของคุณแม่ได้เข้ามารู้จักกับอาจารย์วิกรานต์ แซ่ลี้ ประธานชมรมสู่ร่มโพธิญาณ และได้ร่วมทำบุญกับชมรมฯมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสมากราบทำบุญและรู้จักกับคุณแม่ชีอำพร บนเขาภูผาชัน
ในกาลต่อมาคุณวิทยา ฝอยพิกุล( พี่หมู)ได้มีโอกาสเล่าเรื่องคุณแม่ชีให้ อ.วิกรานต์ฟังว่า
ตอนนี้ตนเองได้มาทำบุญและปฏิบัติธรรมบนเขาภูผาชัน คุณแม่อำพรเป็นประธานอยู่ ถ้ามีโอกาสอาจารย์ผ่านมาโคราชจะพามารู้จักกับคุณแม่ครับ
แล้ววันหนึ่งคณะชมรมฯได้ตระเวนไปกราบทำบุญพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายรูป และผ่านมาโคราช จึงชวนอาจารย์ขึ้นมากราบคุณแม่ชีอำพร แต่กว่าจะมาถึงก็ค่ำแล้ว เมื่อมาถึงอาจารย์และคณะก็ได้กราบ คุณแม่ชีอำพร แล้วสนทนาธรรมกัน ในระหว่างคุยกันมีช่วงหนึ่งคุณแม่เล่าว่า ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่จันทร์แรมเป็นผู้บวชให้ เมื่อบวชเสร็จแล้ว
ท่านก็กล่าวพยากรณ์เป็นปริศนาธรรมว่า "งูเขียวจะกลายเป็นมังกร ว่ายข้ามแม่น้ำ3สาย "
ในตอนนั้นอาจารย์วิกรานต์ ก็หวนรำลึกถึงคำพูดของหลวงปู่จันทร์แรมขึ้นมาทันทีและรู้สึกขนลุก ด้วยเคยได้ยิน หลวงปู่จันทร์แรมกล่าวคำนี้ไว้เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว เมื่อคราวหลวงปู่จันทร์แรมฝา ฝ่าพระพุทธหัตถ์ ไว้ให้ลูกศิษย์แก้วของท่าน และอาจารย์ก็รับรู้ได้ว่าเจอศิษย์แก้วของหลวงปู่จันทร์แรมแล้ว จึงเล่าเรื่องต่างๆให้คุณแม่รับทราบ ว่า
เหตุเพราะ20ปีก่อนได้เริ่มก่อตั้งชมรมสู่ร่มโพธิญาณใหม่ๆ ในช่วงนั้น อ.วิกรานต์และคณะกำลังก่อสร้างวิหารถวายพระถังซัมจั๋งและสร้างวัตถุมงคลรูปเหมือนพระถังซัมจั๋งไว้แจกและถวายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ตามวัดต่างๆไว้ให้ท่านแจกและมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมทำบุญ
ในช่วงนั้น อ.วิกรานต์ มีนิมิตพระเบื้องบนท่านมีรับสั่งให้นำฝ่าพระพุทธหัตถ์ ไปทำพิธีบวงสรวงปลุกเสกเพื่อไว้มอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมบุญกับชมรม ทางคณะชมรมจึงนำฝ่าพระพุทธหัตถ์และวัตถุมงคลและมวลสารต่างๆไปขอพ่อแม่ครูบาอาจารย์ให้ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้
พระเถระนับร้อยๆองค์ได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ หนึ่งในนั้นคือ หลวงปู่จันทร์แรม และเมื่อท่านอธิฐานจิตให้เรียบร้อยแล้ว ท่านก็หยิบฝ่าพระพุทธหัตถ์ขึ้นมาชม แล้วกล่าวว่า
"สวยดีนะ เอ้อศักดิ์สิทธิ์มากนะ ดีๆๆ พุทธบารมีคุ้มครองคุ้มกันภัยได้ทุกอย่าง
กราบไหว้เป็นพุทธานุสติจะได้บุญดีบุญใหญ่นะ" แล้วท่านก็วางลง
อ.วิกรานต์และคณะเห็นท่านชื่นชมและดูท่านชอบมากจึงพากันพร้อมใจถวายท่าน 1 ชิ้นพร้อมปัจจัยและเครื่องสังฆทาน ท่านก็เมตตารับด้วยรอยยิ้มแบบปิติใจ ทำเอากลุ่มคณะชมรมรู้สึกอิ่มเอิบใจเป็นที่สุดที่เห็นท่านมีความสุขใจ ท่านรับแล้วท่านก็ให้พร เมื่อท่านให้พรจบแล้วก็กล่าวกับ อ.วิกรานต์ ว่า" เรารับแล้ว แต่เราขอฝากเธอเอาไว้ก่อนนะให้เธอเก็บเอาไว้ให้ศิษย์แก้วของเราด้วย" เมื่อท่านกล่าวจบ ท่านก็ยื่นฝ่าพระพุทธหัตถ์กลับมาให้ อ.วิกรานต์ ทุกคนฟังแล้วก็รู้สึกงงๆ
อ.วิกรานต์ ก็ยื่นมือไปรับแล้วกราบเรียนถามท่านว่า ฝากไว้ให้ใครครับ? ท่านก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า "เอาเถอะ ถึงเวลาจะได้รู้จะได้เจอกันเอง" แล้วท่านก็พูดประมาณว่า ศิษย์แก้วเรานี้มีบุญมาก ต่อไปจะได้ทำงานใหญ่ถวายพระศาสนา แล้วท่านก็กล่าวเป็นลำนำคล้ายคำกลอนเป็นภาษาอีสานประมาณว่า "งูเขียวจะกลายเป็นมังกร ก้าวข้ามแม่น้ำ3สาย "
แม้อาจารย์จะรู้สึกงงๆ แต่ก็ได้เก็บฝ่าพระหัตถ์ไว้นานจนเกือบลืมไปแล้ว จนได้มาเจอคุณแม่ชีอำพร เมื่อท่านพูดประโยคนี้จึงระลึกถึงคำกล่าวของหลวงปู่จันทร์แรมขึ้นมาได้ อ.วิกรานต์ จึงบอกกับคุณแม่ว่า หลวงปู่จันทร์แรมท่านก็เคยพูดประโยคนี้กับผมและคณะ ซึ่งตรงกับที่หลวงปู่ท่านพูดกับคุณแม่กล่าวมาเลย
จากนั้นอาจารย์ก็ได้อธิบายถึงคำที่หลวงปู่จันทร์แรมกล่าวไว้คือ "งูเขียวจะกลายเป็นมังกร ว่ายข้ามแม่น้ำ3สาย" แม่น้ำ 3สายก็คือ
1.สายวัชระยาน(สายทางแถบทิเบต) 2.สายมหายาน(สายทางเมืองจีน) 3.สายเถรวาท (สายทางบ้านเรา) ทุกสายจะมารวมกัน ณ สถานที่แห่งนี้ ส่วนงูเขียวจะกลายเป็นมังกรนั้น ก็ขอให้ทุกท่านพิจารณาเอาเองว่าต่อไปในภายหน้าคุณแม่จะมีคุณธรรมมากขนาดไหน
ครั้นเมื่ออ.วิกรานต์ได้รู้จักคุณแม่ชีอัมพรแล้ว ไม่นานก็มีพระบรมบุราณธาตุพุทธเจ้าเสด็จมาถึง2พระองค์ ตอนที่อ.วิกรานต์ ได้สวดมนต์ภาวนาอยู่ที่บ้าน แล้วได้นิมิตรับสั่งจากเบื้องบน ว่าพระบรมบุราณธาตุที่เสด็จมาครั้งนี้ คือพระรัตนสัมภวะพุทธเจ้า ห้ามแยกออกจากกัน ให้มาถวายคุณแม่ชีอัมพร ที่จังหวัดนครราชสีมา
อ.วิกรานต์ จึงได้โทรมาบอกพี่หมูและเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่พระบรมบุราณธาตุรัตนสัมภวะพุทธเจ้าเสด็จ แล้วบอกว่า จะส่งมาให้พี่หมูถวายคุณแม่ชีอัมพร เมื่อพี่หมูได้รับแล้ว ก็ได้ถวายคุณแม่ชีอัมพร เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ 2564
คำกล่าวของคุณแม่ชีอัมพรในวันที่ถวายพระบรมบุราณธาตุรัตนสัมภวะพุทธเจ้า " เมื่อมีเหตุ ที่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ เหตุที่เราเคยอธิษฐานจิตร่วมกัน วิบากกรรมเราก็ทำตามวิบากกรรมไปก่อน สุดท้ายก็มาอยู่ตรงจิต ที่เราจะอธิษฐานจิตพร้อมกันมันก็สำเร็จ เพราะเราเคยอธิษฐานร่วมกันกับพระพุทธเจ้าองค์นี้ คือพระมหาลาภ จะทำสิ่งใดแล้วนั้นย่อมสำเร็จ พ่อมาแล้ว ทุกคนที่มาวันนี้ก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
นับตั้งแต่ที่ได้ถวายพระบรมบุราณธาตุรัตนสัมภวะพุทธเจ้าคำพยากรณ์ของหลวงปู่จันทร์แรมก็เป็นจริง แม่น้ำ 3 สาย ได้มาบรรจบรวมกันบนเขาภูผาชัน ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมพระพุทธเมตตาภูผาชัน ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
ตรงนี้ทำให้เกิดความอัศจรรย์ใจยิ่งในญาณทัศนะแห่ง หลวงปู่จันทร์แรมท่านหยั่งรู้เรื่องราวล่วงหน้าในอนาคตถึง 20 กว่าปี แม้สรีระท่านได้รับการพระราชทานเพลิงศพแล้ว อัฐิของท่านก็ยังได้แปรเป็นพระธาตุเป็นสิ่งยืนยันในคุณธรรมขั้นสูงของท่านได้ดีครับ
สำหรับพิธีเชื่อมแม่น้ำ 3 สายเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2565 หลวงพ่อเย็นอี่ วัดโพธิ์เย็น จ.กาญจนบุรี พระมหาเถระฝ่ายมหายานองค์สำคัญของแผ่นดิน ศูนย์รวมฝ่ายมหายานและวัชระยาน ผู้มีจิตเมตตาเยือกเย็น บารมีไม่มีประมาณ เป็นประธานในพิธีอธิษฐานจิตเบิกพระรัศมีฝ่าพระพุทธหัตถ์ตามแนวพิธีกรรมแบบโบราณเจริญพุทธมนต์
ในงานนี้ มีการถวายเพลพระสร้างบารมีบำรุงศิษย์พระตถาคตทั้ง 3 นิกาย คุณแม่ชีอัมพรและคณะศิษย์ ได้รับธรรมโอวาทจากหลวงพ่อเย็นอี่ด้วยความปิติชุ่มชื่นใจ
ทั้งนี้ คุณแม่ชีอำพร ทำรัมย์ เป็นผู้เคร่งครัดในศีลาจริยาวัตรงดงาม ตั้งมั่นในศีล สมาธิ ปัญญา ตามคำสอนแห่งพระบรมศาสดามาตลอด ท่านไม่เคยโอ้อวดว่าท่านเก่ง ทำตัวเรียบง่าย
ปัจจุบันนี้ คุณแม่ชีอัมพรท่านได้แกะสลักหินเป็นรูปต่างๆ ได้หลายองค์ เช่น พระพุทธเมตตาภูผาชัน, พระพุทธรูปปางปรินิพพาน, พระพุทธบามิยัน, พระพุทธเจ้าข้ามโลก(ชื่อเต็ม พระรัตนสัมภวะไพรีพินาศพุทธเจ้าข้ามโลก) พระพุทธไสยาสน์ศากยะมุนีศรีภูผาชัน, พระสิวลีปางจกบาตร, องค์พระอุปคุต, รอยพระพุทธบาท, ท้าวเวสสุวรรณ, พญานาค (ชื่อท่านย่านาคีเทวีจันทรา) พญาครุฑ, แม่พระธรณี พระแม่กวนอิมปางธัญญะทิพย์กวักทรัพย์,ฝ่าพระพุทธหัตถ์ องค์ท่านมหาเทพที่ปกปักรักษาบนเขาภูผาชัน
Comments