top of page
ค้นหา

เปิดบันทึกตำนาน"หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท" เกจิร่วมยุคหลวงปู่ทวด/ผู้สร้างวัดห้วยหลาด

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 2 มี.ค.
  • ยาว 1 นาที

เปิดบันทึกตำนาน"หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท"

เกจิร่วมยุคหลวงปู่ทวด/ผู้สร้างวัดห้วยหลาด


หากกล่าวถึงวัดห้วยหลาด ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา วัดเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวสงขลาย่อมต้องนึกถึง"หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท" ซึ่งเป็นอริยสงฆ์ยุคเดียวกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ตามประวัติท่านเป็นคนเพชรบุรี เมื่ออุปสมบทแล้วได้ออกธุดงค์ไปยังพุทธสถานที่สำคัญต่างๆ ครั้งหนึ่งได้ธุดงค์ลงภาคใต้เลื่อยไปจนถึงต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และได้ปักกลดอยู่ในป่าตะเคียนเพื่อปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ชาวบ้านมีความเลื่อมใสจึงร่วมแรงร่วมใจกับท่านสร้างวัดห้วยหลาดขึ้น แต่ท่านไม่รับตำแหน่งเจ้าอาวาสได้นิมนต์พระองค์อื่นมาเป็นเจ้าอาวาส แสดงถึงความไม่ยึดติด


หลังจากท่านมรณภาพด้วยโรคชรา วัดห้วยหลาดก็มีเจ้าอาวาสปกครองเรื่อยมาจนถึงสมัยของพระอธิการขาว ติสสะวังโส อดีตเจ้าอาวาสวัดรูปที่ 3 (พ.ศ.2494-2498) ท่านเกิดโรคประหลาดจู่ๆก็มึนหัว เป็นลมบ่อยมากถึงขนาดสลบไปเป็นวันๆ จนถึงวันพระหนึ่งมีการสวดปาฏิโมกข์ พระอธิการขาวต้องเป็นผู้ทวนปาฏิโมกข์ ท่านเกิดอาการเวียนหัวจึงให้รองเจ้าอาวาสทวนแทน เมื่อพระออกจากโบสถ์ เห็นสามเณรวิ่งกันวุ่น จึงเรียกมาถาม ก็ได้ความว่า พระอธิการขาวเป็นลมสลบไป พระทั้งหมดจึงเข้าไปที่กุฏิเห็นท่านนอนสลบอยู่ สักพักเดียวก็ได้ยินเสียงท่านพูดว่า"นำจีวรกับสังฆาฏิมาให้ที" แต่เสียงที่พูดไม่ใช่เสียงพระอธิการขาว แต่เป็นเสียงห้วนๆใหญ่ๆ จากนั้นท่านก็ลุกขึ้นมานั่ง (ลักษณะดังรูปภาพประกอบ) แล้วก็บอกว่า ท่านคือหลวงปู่สีมั่น เทพอินโทที่มาประทับร่างพระอธิการขาว เพราะอยากช่วยผู้คนที่เดือดร้อนทั้งหลาย และจะรับรักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย


เมื่อข่าวเรื่องหลวงปู่สีมั่นเผยแพร่ออกไป ก็มีคนหลั่งไหลเข้ามาหาที่วัดห้วยหลาด มาขอให้ช่วยเรื่องราวต่างๆ เช่นรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือช่วยเหลือเรื่องอื่นๆ มีบางคนมาขอเครื่องรางของขลัง ขอท่านว่าอยากได้ของเหนียวๆ ท่านก็บอกว่า"ของหนังเหนียวเอาไปทำไมมันเจ็บตัว ให้เอาแบบแคล้วคลาดดีกว่าไม่เจ็บตัว" เมื่อคนนั้นได้ของไป ได้เอาไปลองยิง ยิงเป็นสิบนัดก็ไม่โดน


สมัยนั้น "อ.ชุม ไชยคีรี" ฆราวาสขมังเวทย์สายเขาอ้อตั้งสำนักที่ภาคใต้ ได้ยินเสียงร่ำลือของหลวงปู่สีมั่น จึงอยากพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า จึงนัดแนะลูกศิษย์ไปที่วัดห้วยหลาด เมื่อไปถึงไม่ได้แสดงตัว แต่แอบซุ่มอยู่ข้างหลังกลุ่มคนที่มาหาจำนวนมาก แต่ไม่อาจปิดบังหลวงปู่สีมั่นได้ ท่านพูดขึ้นมาว่า"วันนี้มีคนดีมีวิชาจะมาดูหลวงปู่ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า แล้วไปแอบอยู่ข้างหลังทำไม" อ.ชุมจึงขยับขึ้นไปข้างหน้าแล้วกราบกรานท่าน เพราะเชื่อแล้วว่าเป็นของจริง และว่ากันว่า อ.ชุมได้มาเรียนวิชาจากท่านไปไม่น้อย รวมทั้งมือปราบชื่อดังอย่าง"ขุนพันธ์"


จากการเล่าขานเป็นที่ทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์ ปาฎิหาริย์ต่างๆ พระอธิการขาวจึงหล่อรูปหลวงปู่สีมั่นไว้ให้ประชาชนเคารพสักการะ และมีการประทับทรงของหลวงปู่สีมั่น หลายครั้งเพื่อมาสั่งสอนชาวบ้าน จนถึง พ.ศ.2499 ท่านจึงสละตำแหน่งเจ้าอาวาสออกธุดงค์ไปเป็น “อรัญวาสี” (พระป่า) ต่อมาทางวัดห้วยหลาดเริ่มจัดพิธีกรรมเรียกว่า "พิธีลอดซุ้มประตูป่า" ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 ซึ่งเป็นพิธีกรรมปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้น โดยการประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในและนอกพื้นที่ โดยจัดขึ้นทุกปีในวันวิสาขบูชา เป็นประเะณีท้องถิ่นซึ่งมีแห่งเดียวในจ.สงขลาและภาคใต้ มีกิจกรรมสรงน้ำหลวงปู่สีมั่น, พิธีสะเดาะห์เคราะห์ลอดซุ้มประตูป่า,ทำบุญ ตักบาตร ปฎิบัติธรรม


สำหรับวัตถุมงคลของวัดห้วยหลาดที่ได้รับความนิยม เช่นพระสมเด็จหลวงพ่อสีมั่น,รูปหล่อโบราณ รุ่นแรก และเหรียญหลวงพ่อสีมั่น รุ่นแรก ปี2509 จัดสร้างโดยคุณปิ่น พาณิชการ (เสียชีวิตแล้ว) คหบดีแห่งเยาวราช กรุงเทพฯ เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนและทหารหาญที่ร่วมรบในสมรภูมิเวียดนาม จนเกิดเป็นประสบการณ์มากมายทั้งคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุตม์ พิธีปลุกเสกใหญ่ภายในพระอุโบสถวัดสุทัศน์พร้อม


รูปแบบเหรียญ เป็นการแกะบล็อกจากภาพที่หลวงปู่เมตตาอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ ซึ่งหลวงปู่อนุญาตให้ถ่ายได้เพียงภาพเดียวเท่านั้น โดยถ่ายขณะหลวงปู่เข้าประทับทรงพระอธิการขาว เจ้าอาวาสในขณะนั้น และไม่มีภาพอื่นที่สามารถถ่ายติดได้อีก ซึ่งภาพที่ถ่ายหลวงปู่สีมั่นติดมีลักษณะเป็นดังภาพในเหรียญ จึงเป็นที่มาของรูปแบบเหรียญ


เหรียญหลวงปู่สีมั่นรุ่นสอง สร้างปี 2517 จำนวนเพียง 3,000 เหรียญ โดยหลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร ปลุกเสกเดี่ยว 3 วัน 3 คืน สำหรับรูปหล่อโบราณ เนื้อทองเหลือง รุ่นแรก ปี พ.ศ.2509 จัดเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลหลวงปู่สีมั่นที่หายากมาก สร้างขึ้นแบบหล่อโบราณพร้อมกับเหรียญรุ่นแรก


วัตถุมงคลของหลวงปู่สีมั่น ได้มีการลองของกันจนกลายเป็นตำนานไปแล้ว มีกลุ่มนายทหารมารับเหรียญนี้แล้วนำไปลองภายในวัดโดยวางไว้บนขอนไม้แล้วใช้ปืน 9 มม.เล็งยิงไปที่เหรียญ ปรากฏว่า !!!กระสุนยิงไม่ออก จึงเป็นที่กล่าวขานและนิยมเล่นหากันอย่างมาก


#ฉัตรสยาม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page