top of page
ค้นหา

"เหรียญทรงผนวช"รุ่นแรก ปี2521พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10ปลุกเสก3พิธี-รวมเกจิดังอธิษฐานจิต

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

"เหรียญทรงผนวช"รุ่นแรก ปี2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ปลุกเสก3พิธี-รวมเกจิดังอธิษฐานจิต

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขอนำเสนอ"เหรียญทรงผนวช รุ่นแรก" เหรียญดีที่ทรงคุณค่าแก่การบูชาสำหรับพสกนิกรชาวไทย

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชศรัทธาออกผนวชในพระพุทธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธีทรงผนวช ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 6 พ.ย. 2521 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) เป็นพระราชอุปัธยาจารย์ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) ถวายอนุสาสน์ ได้รับถวายพระสมณนามว่า “วชิราลงฺกรโณ” และได้ประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน ตลอดจนทรงลาสิกขาในวันที่ 20 พ.ย. 2521

เหรียญรัชกาลที่ 10 ทรงผนวช จัดสร้างโดยวัดบวรนิเวศวิหารในปีที่ทรงเสด็จออกผนวช วันที่ 6 เดือน 11 พ.ศ.2521 ประกอบด้วย 1. เหรียญบาตรนํ้ามนต์ ขนาด 7 ซ.ม. เนื้อทองแดง จำนวนไม่มาก 2. เหรียญเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง(แกะเลข) เป็นชุดจำนวน 109 ชุด 3.เหรียญเงินเดี่ยวๆ แกะเลขจำนวน 999 เหรียญ 4.เหรียญทองแดงกะไหล่ทอง จำนวนไม่มาก 5. เหรียญทองแดงรมนํ้าตาลจำนวน 84,000 เหรียญ ออกจำหน่ายเหรียญละ 50 บาท

วัตถุมงคลชุดนี้ทำพิธีปลุกเสกถึง 3 วาระคือ ครั้งที่ 1 ปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล และ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง ในปีพ.ศ.2517 ครั้งที่ 2 เข้าร่วมปลุกเสกกับ พระสมเด็จทรงจิตรลดา นางพญา (หลังอุณาโลม ) และหลัง สก. ณ พระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร ใน วันที่ 12 ก.ค. 2519 เป็น เวลา 7 วัน 7 คืน ครั้งที่ 3 ปลุกเสกพร้อมสมเด็จนางพญา ณ พระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างวันที่ 9 - 12 เม.ย. 2522

พระเกจิคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกรวบรวมได้พอสังเขป ดังนี้ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ สมเด็จพระวันรัต วัดสังเวชวิศยาราม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา สมเด็จพระพุทธิวงศมุนี วัดเบญจมบพิตร พระพรหมคุณากรณ์ (เกี่ยว) วัดสระเกศพระราชสังวราภิมณท์ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี พระราชธรรมวิจารย๋ (หลวงปู่ธูป) วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแคนางเลิ้ง) พระราชสังสรวิสุทธิ์ (บุญเลิศ) วัดราชสิทธาราม พระเทพวราลังการ (ศรีจันทร์) วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี พระภาวนาวิมลเถร (สิริ) วัดชนะสงคราม พระวิสุทธิสารเถร (ถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี

พระรัตนากรวิสทุธิ์ (หลวงปู่ดุลย์) วัดศรีบูรพาราม จ.สุรินทร์ พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา) วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิชัยญาติการาม พระญาณโพธิ (หลวงพ่อเข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม พระธรรมธีรราชมหามุนี วัดปากน้ำ พระชินวงศาจารย์ (พุธ) วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา พระราชสารมุนี วัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี พระโพธิสังวรเถร (ไพฑูรย์ ) วัดโพธินิมิตร ธนบุรี พระปริยัติเมธี วัดมกุฎกษัตริย์ พระอุดมวิสุทธิเถร (อาจารย์วัน) วัดถ้ำอภัยดำรง จ.สกลนคร พระอุดมศีลคุณ วัดบุรณศิริมาตยาราม พระสุนทรธรรมภาณี (หลวงพ่อเเพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี พ่อหลวงเปลื้อง วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง พระครูเกษมธรรมานันท์ (เเช่ม) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม

หลวงพ่อชม วัดป่าบ้านบัวค่อม จ.อุดรธานี พระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวพ่อสุด) วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม หลวงพ่อเหรียญ วัดป่าอรัญญบรรพต จ.หนองคาย พระครูธรรมกิจโกศล (นอง) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิต จ.หนองคาย พระครูสุจิตตานุรักษ์ (จวน) วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี พระครูสังวรธรรมมานุวัตร (พล) วัดหนองคณที จ.สระบุรี หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี พระครูถาวรวิทยาคม (เพิ่ม) วัดสรรเพชญ จ.นครปฐม หลวงพ่อจันทร์(อายุ 102ปี) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี พระมหาวีระ (ฤาษีลิงดำ ) วัดจันทาราม จ.อุทัยธานี หลวงพ่อซ้วน วัดท่าลาดใต้ จ.ฉะเชิงเทรา ฯลฯ

พระอาจารย์สี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด พระอาจารย์เหรียญ มหาปุญโญ วัดมหาสมณกิจภาวนา พระอาจารย์พัฒน์ สุขกาโม วัดทับซ้าน จ.สกลนคร พระอาจารย์เเบน ธนากโร วัดธรรมเดจีย์ จ.สกลนคร พระอาจารย์จวน กุลเชฐโร วัดเจติยาคิรี จ.สกลนคร พระอาจารย์ฟัก สนติธมโม วัดเขาสามผาน จ.จันทบุรี พระอาจารย์สาม วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์ พระครูปลัดไพบูลย์ วัดรัตนาราม จ.พะเยา หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ฯ จ.นครราชสีมา ฯลฯ

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า เหรียญทรงผนวช ในหลวงรัชกาลที่ 9 รุ่นแรกปี2508 เป็นเหรียญสิริมงคลยอดนิยมที่มีคุณค่าและมากด้วยประสบการณ์ให้กล่าวขานกันมาตลอด เป็นที่หมายปองของบรรดานักสะสมวัตถุมงคลและเหรียญที่ระลึกสายเชื้อพระวงศ์

สำหรับเหรียญทรงผนวชในหลวง รัชกาลที่10 ปัจจุบันนับเป็นเหรียญที่มีพุทธคุณและคุณค่าไม่ต่างจากเหรียญทรงผนวช รัชกาลที่9 ซึ่งควรค่าแก่การมีไว้บูชาในฐานะพสกนิกรของพระองค์ท่าน เพราะต่อไปในอนาคตอาจจะหาได้ยากยิ่ง!!









ดู 954 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page