top of page
ค้นหา

แรง!หลวงพ่อทวดลังกาสุกะพระอาจารย์แดง

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 9 มิ.ย. 2563
  • ยาว 2 นาที
















กระแสความนิยมมาแรง-ถามหาบูชาคึกคัก เหรียญหล่อหลวงพ่อทวดลังกาสุกะร.ศ.233 เกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้ “พระอาจารย์แดง” ปี57ผสมชนวนมวลสารตะกรุดปลอกลูกปืน ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานว่า ห้วงนี้วัตถุมงคล “หลวงพ่อทวด” กลับมาอยู่ในกระแสความนิยมมาแรงอีกครั้ง ถามหาบูชากันมากรุ่นนี้ “เหรียญหล่อหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ลังกาสุกะ ร.ศ. 233” อธิษฐานจิตปลุกเสกโดย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้ “พระอาจารย์แดง โอภาโส” วัดไร่บางตาวา จ. ปัตตานี ทุกเนื้อมีส่วนผสมของชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่ขาดไม่ได้ชนวนมวลสาร “ตะกรุดปลอกลูกปืน” อันลือลั่น เหรียญหล่อหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ลังกาสุกะ ร.ศ. 233 จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2557 สำหรับรายการที่จะสร้างเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 19 องค์ เนื้อเงิน สร้างจำนวน 599 องค์ เนื้อเหล็กน้ำพี้ สร้างจำนวน 1999 องค์ เนื้อเจ้านำเงิน สร้างจำนวน 2999 องค์ เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างจำนวน 3999 องค์ เนื้อชนวน สร้างจำนวน 1999 องค์ วัตถุมงคลมีโค้ดและหมายเลขทุกรายการ สนใจบูชาติดต่อที่ facebook แดง เอกคัมภีร์ โทร.095-5684868

พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้ “พระอาจารย์แดง โอภาโส” วัดสถิตย์ชลธาร (วัดไร่) ต.บางตะวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เจ้าตำรับตะกรุดปลอกลูกปืน ท่านเป็นศิษย์พุทธาคมพ่อท่านสุข ซึ่งเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อดำ วัดมุจลินทวาปี (วัดตุยง) และสืบสายพุทธาคมตามตำราของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี, หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ, หลวงพ่อพุ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่

กล่าวสำหรับ วัดสถิตชลธาร (วัดไร่) ต.บางตาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมติดทะเล และมีท่าเรือสำหรับการรับส่งผู้คนไปมาในละแวกนั้น นับเป็นชุมชนที่มี ความเจริญรุ่งเรืองมาก ส่งผลให้ชาวบ้านเข้ามาทำบุญที่วัดเป็นประจำ และให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างสูงตลอดมา มีอยู่ปีหนึ่ง เกิดอุทกภัย น้ำท่วมโบสถ์ ศาลา กุฏิ และอาณาเขตพื้นที่ของวัดไร่จมน้ำมิดหายไปทั้งหมด จนหมดสภาพความเป็นวัดไปโดยปริยาย ต่อมาเมื่อปี ๒๔๒๐ ชาวนครศรีธรรมราชที่อาศัยอยู่ใน จ.ปัตตานี ได้ร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อเดิมว่า วัดไร่ บนเนื้อที่ ๑๐ ไร่เศษ โดยสร้างศาลาการเปรียญเพียงหลังเดียวเท่านั้น

สำหรับเจ้าอาวาสวัดนี้ เท่าที่ผ่านมามี 9 รูป แต่ละรูปล้วนเป็นพระเถระที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านโดยทั่วไป เจ้าอาวาสดังกล่าว คือ 1.พ่อท่านเอียด 2.พ่อท่านราช 3.พ่อพระครู 4.พ่อท่านแก้ว 5.พ่อท่านนุ้ย 6.พ่อท่านทอง 7.พระครูสโมสร 8.พ่อท่านพุ่ม 9.พ่อท่านสุข (ต่อมาท่านได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดตุยง) ส่วนเจ้าอาวาสรูปที่ 10 ก็คือ พระอาจารย์แดง เป็นเจ้าอาวาสจนถึงทุกวันนี้ ในสมัยพ่อท่านพุ่ม เป็นเจ้าอาวาส มีพระจำพรรษาอยู่เป็นจำนวนมาก พ่อท่านพุ่มเป็นพระเถระที่เก่งกล้าในวิชาทางไสยศาสตร์ เป็นที่นับถือของชาวบ้านมาก โดยเฉพาะชาว จ.ปัตตานี และชาวบ้านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้สมัยนั้นมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมากราบนมัสการพ่อท่านพุ่มเป็นประจำเพราะความศักดิ์สิทธิ์ และความมีเมตตาที่ท่านมีต่อชาวบ้านอย่างมากมายตลอดมา นอกจากนี้พ่อท่านพุ่มยังเป็นอาจารย์ของ พ่อท่านดำ วัดตุยง พระเถระผู้ใหญ่ผู้มีวิชาอาคมมากอีกท่านหนึ่งด้วย

พระอาจารย์แดง โอภาโส อุปสมบทที่วัดตุยง โดยมี พ่อท่านสุข เป็นพระอุปัชฌาย์ ความตั้งใจตอนแรก ต้องการบวชแก้บนเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เมื่อทำพิธีบวชให้แก่อาจารย์แดงเสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อท่านสุขได้กล่าวว่า ตัวท่านเองไม่ได้บวชพระให้ใครมานานแล้ว วันนี้เมื่อได้บวชให้อาจารย์แดง ก็นับเป็นโอกาสอันดีงาม จึงอยากจะบอกว่า ถ้าอาจารย์แดงจะสึก ผู้ที่จะสึกให้ จะต้องเป็นท่านเท่านั้นที่จะทำพิธีสึกให้ได้ ปรากฏในเวลาต่อมาว่า พ่อท่านสุขไม่ได้ทำพิธีสึกให้อาจารย์แดงแต่ประการใด และไม่ได้บวชพระให้ใครอีกเลย จวบจนพ่อท่านสุขได้ละสังขารจากไป

จากความคิดที่จะให้พระอุปัชฌาย์สึกให้ และต้องการบวชเพียงไม่กี่วัน ทำให้อาจารย์แดงต้องเปลี่ยนความตั้งใจเสียใหม่ คือครองสมณเพศตลอดมา โดยมุ่งหน้าปฏิบัติธรรม ออกเดินธุดงค์ไปตามป่าตามเขาแถบภาคอีสาน และทั่วทุกสารทิศ โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย เมื่อพบกับพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ก็ขอถวายตัวเป็นลูกศิษย์ เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆ อยู่เป็นประจำ มีอยู่คราวหนึ่ง ขณะที่ไปอยู่ปริวาสกรรม ณ วัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ อาจารย์แดงได้พบกับพระสายวิชาทางเขมร ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้พระสายเขมรรูปนั้นโกรธมาก ถึงกับกล่าวว่า คืนนี้ข้าจะเอาเอ็งถึงตาย ด้วยความวิตกกังวลใจ อาจารย์แดงจึงได้นั่งวิปัสสนากรรมฐานตลอดทั้งคืน พร้อมกับคิดว่า พระรูปนั้นต้องใช้อวิชาคุณไสยของต่ำอย่างแน่นอน สักครู่ได้ยินเสียงดังตุ๊บ เหมือนมีของขนาดใหญ่ตกลงมาตรงหน้าที่ปักกลด แล้วสะท้อนกลับไป รุ่งขึ้นเช้า อาจารย์แดงเดินไปพบพระรูปนั้นนอนดิ้นทุรนทุราย ร้องขอให้ช่วยถอนของให้ อาจารย์แดง บอกว่า เราถอนไม่เป็น เพราะเราไม่ได้เป็นผู้ทำของ พระรูปนั้นบอกว่า “เอาเถอะ ทำอะไรก็ได้” พระอาจารย์แดงเห็นขันน้ำวางอยู่ที่พื้น จึงหยิบขึ้นมา แล้วว่าบทสวดตามแต่จะคิดได้ ประพรมน้ำมนต์ให้พระรูปนั้น ปรากฏว่าอาการของพระรูปนั้นหายโดยฉับพลัน อาจารย์แดงจึงรู้สึกขึ้นได้ในทันทีว่า ครูบาอาจารย์ของท่านได้มาวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวท่าน และคอยปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ ให้ท่านตลอดเวลา

จากประวัติของพระอาจารย์แดง ท่านบอกว่า ได้ฝึกปฏิบัติธรรมกรรมฐานกับ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เรียนกรรมฐานที่ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เรียนวิชากับ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และเรียนวิชากับ พ่อท่านสุข วัดตุยง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเอง อาจารย์แดงเป็นพระที่มีความเป็นอยู่เรียบง่าย สมถะ สันโดษ ไม่โอ้อวดคุณวิเศษแต่อย่างใด ท่านมักพูดอยู่เสมอว่า ตัวท่านเองไม่ใช่พระที่เก่งกล้าสามารถแต่ประการใด ที่เป็นอยู่นี้ก็เพราะมีครูบาอาจารย์ คอยช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน แม้แต่ในขณะที่กำลังลงเหล็กจารอักขระเลขยันต์ต่างๆ พระอาจารย์แดงมักบอกว่า ครูบาอาจารย์เป็นผู้เขียนจารให้ หลวงพ่อแดง ได้เข้ามาอยู่ดูแลวัดไร่ ซึ่งขณะนั้นแทบจะเรียกได้ว่า มีสภาพเหมือนวัดร้าง ท่านจึงได้เริ่มต้นพัฒนาสร้างวัดขึ้นมาใหม่ โดยปลูกสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัด ให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน และในขณะนี้ท่านกำลังก่อสร้าง โบสถ์กลางน้ำ เพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

พระอาจารย์แดง วัดไร่ ปัตตานี ท่านดังมาก “ตะกรุดปลอกลูกปืน” ท่านเล่าว่า เมื่อปี 2547 มีอยู่คืนหนึ่ง พ่อท่านพุ่มได้เข้ามาในนิมิต สอนวิชาการทำตะกรุดปลอกลูกปืนให้ท่าน พร้อมกับบอกที่ซ่อนผงมวลสารที่สำคัญยิ่ง ซึ่งเป็นผงวิเศษที่พ่อท่านพุ่มได้ปลุกเสกมาโดยตลอดชีวิตของท่าน พระอาจารย์แดงตื่นขึ้นมา แล้วรีบไปหาผงมวลสารตามที่พ่อท่านพุ่มบอกในนิมิต ก็ได้พบผงมวลสารซ่อนอยู่จริง ต่อมาท่านได้บอกกับลูกศิษย์ที่เป็นทหารว่า ต้องการปลอกลูกปืนที่ผ่านการยิงแล้ว เอามาทำตะกรุด ช่วยเป็นธุระให้ด้วย ต้องหาให้ได้ภายใน 7 วัน หลายวันต่อมา นายทหารท่านนั้นกลับมาพร้อมกับนำปลอกลูกปืนมาให้จำนวนหนึ่ง พระอาจารย์แดงจึงได้เริ่มทำ ตะกรุดปลอกลูกปืน ในปีนั้นเป็นครั้งแรก โดยได้บรรจุผงมวลสารเก่าของพ่อท่านพุ่ม พร้อมกับผงว่าน 108 ที่ท่านได้ลบผงเองผสมลงไปในตะกรุดปลอกลูกปืนรุ่นแรก จากนั้นได้ประกอบพิธีปลุกเสก บรรจุพลังอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ตามวิชาอาคมที่ได้เล่าเรียนมา เมื่อปลุกเสกเป็นที่เรียบร้อยครบถ้วนสมบูรณ์ดีแล้ว ท่านได้นำตะกรุดปลอกลูกปืนไปโปรยไว้ตามลานวัด หลังวัด ในคลอง ในหนอง และในสระน้ำทั่วรอบๆ บริเวณวัด ผู้ที่อยากได้ให้ไปเก็บเอาเอง นับเป็นการแจก "ของดี" ที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครที่ไหนเลย พวกลูกศิษย์ที่เป็นทหารตำรวจ พ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้าน ที่รู้ข่าว ต่างพากันไปเก็บตะกรุดลูกปืนพระอาจารย์แดง ตามที่ต่างๆ ที่ท่านได้นำไปโปรยไว้ และเมื่อนำไปบูชาติดตัว ต่างบอกตรงกันว่าค้าขายดี ซื้อง่ายขายคล่องตลอดเวลา มีเมตตามหานิยมสูงมาก บางรายถูกลูกหนี้คิดจะเบี้ยวเงินจ่าย แต่อยู่ๆ กลับนำเงินมาใช้คืนให้ แม่ค้ารถเข็นขายอาหารคนหนึ่ง ไปเข้ากราบพระอาจารย์แดง พร้อมกับบอกว่า หลายวันมาแล้ว ขายของไม่ได้เลย พระอาจารย์แดงจึงหยิบตะกรุดลูกปืนในย่ามให้ บอกว่าให้อธิษฐานตามใจปรารถนา หลายวันต่อมา แม่ค้าคนเดิมนำอาหารเพลมาถวายพระอาจารย์แดง บอกว่า ตะกรุดลูกปืนของพระอาจารย์ดีจริงๆ ของขายหมดทุกวัน ขณะนี้พวกพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดกำลังจะมาขอตะกรุดนี้บ้าง พระอาจารย์แดงบอกว่าไม่ต้องมาขอจากท่าน ให้ไปเก็บเอาที่ท่านได้ไปโปรยไว้ทั่วๆ บริเวณวัดก็แล้วกัน ขณะเดียวกัน บรรดาลูกศิษย์ที่เป็นทหาร ที่ได้รับตะกรุดลูกปืนอาจารย์แดงไปใช้ติดตัวก็มีประสบการณ์อยู่เป็นประจำ ยามเมื่อออกปฏิบัติภารกิจปราบผู้ก่อการร้าย ก็ไม่ได้รับอันตรายแต่ประการใด แคล้วคลาดปลอดภัยเสมอ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ ตะกรุดลูกปืนพระอาจารย์แดง เป็นที่เล่าขานกันอย่างกว้างขวาง และชื่อเสียงของท่านก็โด่งดังไปทั่วเมืองไทย รวมทั้งชาวพุทธในมาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง ก็รู้จักท่านดี และมักจะนิมนต์ท่านไปประกอบพิธีต่างๆในต่างประเทศอยู่เป็นประจำ วัตถุมงคลของท่านช่วยให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ รอดปลอดภัยภัยอันตรายหลายครั้ง

 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page