top of page
ค้นหา

50ปีพระปริยัติวโรปการ "เจ้าคุณเนิน"พระนักเทศน์-นักพัฒนาวัดนาคกลาง

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 17 ส.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที

50ปีพระปริยัติวโรปการ "เจ้าคุณเนิน" พระนักเทศน์-นักพัฒนาวัดนาคกลาง

หนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ร่วมมุทิตาสักการะเนื่องในวันคล้ายวันเจริญอายุวัฒนมงคล ครบ 50ปี เจ้าคุณพระปริยัติวโรปการ (พระมหาดำเนิน จิตฺตโสภโณ วงษ์พาดกลาง น.ธ.เอก, ป.ธ.6,พธ.บ) เจ้าอาวาสวัดนาคกลางวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ วันอังคารที่ 17 ส.ค. 2564

พระปริยัติวโรปการ หรือ”เจ้าคุณเนิน” ท่านมีชื่อเสียงในฐานะพระนักเทศน์ที่ญาติโยมพุทธศาสนิกชนชื่นชอบเลื่อมใสศรัทธา และเป็นพระนักพัฒนาด้านการศึกษาและการบูรณะปฏิสังขรณ์ โดยนำวิชาความรู้ความสามารถพัฒนามาวัดนาคกลางจนเจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็นในปัจจุบัน อีกทั้งเป็นเจ้าตำรับผู้สร้างตำนานวัตถุมงคลสมเด็จพระเจ้าตากสิน วัดนาคกลาง ที่โด่งงดังเข้มขลังด้วยพุทธคุณ

ชาติภูมิหลวงพ่อเนินเป็นชาวปราจีนบุรีโดยกำเนิด ท่านเกิดในตระกูล”วงษ์พาดกลาง” เมื่อวันอังคารที่ 17 ส.ค. 2514 ตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 9 ปีกุน เป็นบุตรของนายจำเนียร และนางสง่า วัยเยาว์เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดศรีประจันตคาม จบชั้นประถมศึกษาในปีพ.ศ.2525 จากนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2525 โดยมีพระครูสิริปัญญากวี เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี วัดใหม่กรงทอง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์

ต่อมาเมื่ออายุครบ 20 ปีได้เข้าอุปสมบทเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2534 ณ วัดศรีประจันตคาม โดยมีพระปราจีนมุนี เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี วัดหลวงปรีชากูล อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เป็นประอุปัชฌาย์ พระครูเมธีวรญาณ วัดนาคกลางวรวิหาร และพระครูสิริธรรมวาที เป็นพระกรรมวาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จิตฺตโสภโณ” หลังอุปสมบทได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก ในสำนักเรียนวัดนาคกลางในปีพ.ศ.2528 และสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค สำนักเรียนวัดนาคกลาง ในปีพ.ศ.2533 ต่อมาในปีพ.ศ.2540 สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) คณะครุศาสตร์ จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ทั้งนี้ ได้เข้ารับการอบรมหลักสูตรต่างๆ หลักสูตรครูพระสอนวิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียน สังกัดกรุงเทพมหานคร ,อบรหลักสูตรโครงการอบรมพระวิทยากร,อบรมหลักสูตรการสอนศีลธรรม ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ,อบรมหลักสูตรพระกรรมฐาน รุ่นพระสังฆาธิการ ณ สถาบันส่งเสริมและพัฒนาการพระศาสนา จ.ราชบุรี อบรมพระนักเทศน์ รุ่นพระสังฆาธิการ กรงเทพมหานคร ณ วัดราชโอรสาราม,อบรมโรงเรียนพระสังฆาธิการ(ธรรมเสนา) ของคณะสงฆ์หนกลาง เข้ารับการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์ (หลักสูตร 45 วัน) ของคณะสงฆ์ภาค1 ณ ศูนย์ปฏิบิตธรรม”ธรรมโมลี” จ.นครราชสีมา

พ.ศ.2543 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดนาคกลางวรวิหาร พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นพิเศษ (ผจล.ชพ.) ราชทินนามที่ “พระครูศรีปริยัติคุณ” รวมทั้งได้รับแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2557 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดนาคกลางวรวิหาร และเป็นเจ้าสำนักเรียน วัดนาคกลาง พ.ศ.2558 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งแป็นพระอุปัชฌาย์ (วิสามัญ)

วันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. 2559 เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ปีที่89 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่ “พระปริยัติวโรปการ”

ในด้านวิชาความรู้ต่างๆ ท่านได้สืบทอดพุทธาคมสายหลวงปู่เส็ง พุทธปาลิโต อดีตเกจิอาจารย์ดังวัดศรีประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ผู้สร้างเหรียญโภคทรัพย์อันโด่งดังเข้มขลังด้วยพุทธคุณ อีกทั้งเป็นศิษย์สายสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีท่านอาจารย์เทพ สาริกบุตร เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทมอบคัมภีร์พระเวทย์ ตำราวิชาต่างๆให้

นอกจากนี้ ยังเข้าศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) วัดบ้านไร่,พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

“เจ้าคุณเนิน” ท่านมีความชำนาญการพิเศษในเรื่องการเทศน์มหาชาติชาดก บรรยายธรรม เป็นพระนวกรรม มีความรู้ความชำนาญงานก่อสร้างพอสมควร หลังจากที่ พระมงคลวรญาณ (คุณากร ฐิตธัมโม) อดีตเจ้าอาวาสมรณภาพลงเมื่อปีพ.ศ.2557 ท่านได้รับภาระหน้าที่ปกครองวัดและสานต่องานต่างๆ ด้วยบูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถานโบราณวัตถุเก่าแก่จนกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์สวยงามสมกับเป็นพระอารามหลวง รวมทั้งก่อสร้างศาสนวัตถุที่จำเป็นเพิ่มเติม ปรับปรุงปรับเปลี่ยน จัดระเบียบภายในวัดจนเข้าที่เข้าทางควบคู่ไปกับสร้างสรรค์ความเจริญให้แก่ชุมชุนจนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน

แม้ในหมู่พระสงฆ์ด้วยกัน ท่านก็เป็นที่ยอมรับนับถือและได้รับการยกย่องในความสามารถ รวมไปถึงการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ก็ได้รับความนิยมศรัทธาอย่างแพร่หลาย เพราะท่านพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดทั้งชนวนมวลสาร และพิธีกรรมการปลุกเสกจนก่อเกิดประสบ การณ์ปาฏิหาริย์แก่ผู้ที่มีไว้ครอบครองบูชา











 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page