คอลัมน์"จับชีพจรวงการพระ"ประจำวันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568

🤝คอลัมน์"จับชีพจรวงการพระ"

ร่วมบุญ"สมเด็จแหวกม่าน"รุ่นแรกวัดทางเรือ

12ตค.เสกวาระสุดท้าย/รูปหล่อ"ปู่ทองคำ"

"ครูบาตุ้ม"วัดเกาะเกิ้ง-ศิษย์สายธรรมพ่อจรัญ

"จับชีพจรวงการพระ"กับ"นายขุนโหร" ประจำวันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568 เริ่มด้วยข้อคิดคำคมประจำวัน😊"...พยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะได้ไม่เสียดายเวลา..."

👍เตรียมพร้อมร่วมบุญวันอาทิตย์นี้(28ก.ย.) "สมเด็จแหวกม่าน" ตำนานพระผงน้ำมันรุ่นแรก พระอาจารย์อนุวัฒน์ วัดทางเรือ จ.อ่างทอง เพื่อร่วมสมทบกองบุญกฐินวัดทางเรืออ่างทองปี 2568..รุ่นนี้สร้างน้อยมากเพียง 748 องค์เท่านั้น โดยนำเข้าพิธีที่วัดทางเรือก่อนวันเข้าพรรษาและในพรรษาพระอาจารย์ก็ทำพิธีปลุกเสกทุกวัน ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่เข้าพรรษาเต็มเปรี๊ยะมาก ไม่แตกพรรษาเลย อยู่ครบ 3 เดือน แบะจะปลุกเสกวาระสุดท้ายวันที่10 ต.ค. 68 เสร็จพิธีทำลายบล็อกทันที รับวัตถุมงคลในวันที่11 ต.ค. 68

🙏ฤกษ์มงคลวันที่ 12 ต.ค. 68 พิธีพุทธาภิเษกวาระสุดท้าย รูปหล่อสมปรารถนา รูปหล่อนับประคำรุ่นแรก"หลวงปู่nองคำ สุวโจ" อาศรมสุวโจ จ.สุรินทร์ ผู้สืบสานตำนานวิชามนต์พระยาปากเข็ด สืบทอดต่อกันมากล่าวไว้ว่า "พระยาปากเข็ด" แต่เดิมเป็นคนทุกข์ยาก ไม่สมประกอบ ถูกเอาเปรียบ จึงเข้าป่าไปหาพระฤษี เมื่อสนทนาเห็นความลำบาก พระฤษีจึงให้พระยาปากเข็ดแลกลิ้น และพูดว่า เมื่อเจ้าได้สิ้นไป เจ้าอยากได้อะไร ปรารถนาสิ่งใดย่อมจะได้มา โดยท่านได้ตำรานี้มาแต่ภูเขาควาย และตั้งใจทำมนต์นี้เพื่อสงเคราะห์ศิษย์ให้มั่งมี ใครที่หากินไม่พอจะพอ ใครที่หากินไม่sวยจะsวย ใครที่เจ็บป่วยเป็นโรคเป็นภัยจะหายวันหายคืน ด้วยฤทธิ์มนต์พระยาปากเข็ด สำหรับท่านที่จะไปร่วมงานบอกเลยว่า อิ่มแน่นอนเพราะมีโรงทานเยอะมาก!!

🙏พระดีเกจิดังเมืองสารคาม..."ครูบาตุ้ม” หรือ “พระอาจารย์กมล อัตตทโม” อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าอาศิราวาสเกาะเกิ้ง ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม หรือที่ญาติโยมเรียกสั้นๆ ว่า “วัดเกาะเกิ้ง” ท่านได้ชื่อว่าเป็นเกจิอาจารย์อีกรูปที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา โดยเป็นศิษย์สืบสายธรรมจาก "หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม" วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี อดีตพระวิปัสสนาจารย์ชื่อดัง ท่านออกธุดงค์ไปตามป่าเขาทางภาคเหนือ และจำพรรษาอยู่ที่วัดดอยภูเงิน จ.อุตรดิตถ์ จนถึงปี พ.ศ.2547 จึงกลับมหาสารคาม บ้านเกิดและไปปักกลดปฏิบัตธรรมอยู่ป่า ซึ่งก็คือที่ตั้งวัดอาศิราวาสเกาะเกิ้งในปัจจุบัน โดยท่านร่วมกับญาติโยม ก่อสร้างสะพานไม้ความยาว 145 เมตรเข้าวัดซึ่งเป็นเกาะอยู่กลางลำน้ำชี โดยได้รับความอนุเคราะห์จากญาติโยมที่มีจิตศรัทธารวมทั้งสถาบันการศึกษาในพื้นที่ร่วมกันพัฒนาวัดจนเจริญขึ้นตามลำดับ

"นายขุนโหร"