ตำนานชีวิต93ปี"หลวงปู่สอ คัมภีรปัญโญ" อดีตเจ้าอาวาสวัดสัทธารมณ์ เมืองสุรินทร์ เกจิดังแห่งอีสานใต้/ศิษย์สายหลวงพ่อมุม
- อ.อนุชา ทรงศิริ
- 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
ตำนานชีวิต93ปี"หลวงปู่สอ คัมภีรปัญโญ"
อดีตเจ้าอาวาสวัดสัทธารมณ์ เมืองสุรินทร์
เกจิดังแห่งอีสานใต้/ศิษย์สายหลวงพ่อมุม
ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณ พระครูพัฒนสารคุณ "หลวงปู่สอ คมฺภีรปญฺโญ" อดีตเจ้าอาวาสวัดสัทธารมณ์ (บ้านขาม) ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอจอมพระ พระเกจิอาจารย์ผู้อุดมเวทย์วิทยาคมแห่งดินแดนอีสานใต้ ศิษย์สืบทอดพุทธาคมหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์
ท่านมีนามเดิมว่า "สอ" นามสกุล "งามสะอาด" เกิดวันจันทร์ ที่ ๓ มีนาคม ๒๔๗๒ ที่บ้านเลขที่ ๒๕ หมู่ที่ ๑๑ ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ บิดาชื่อนายทำ มารดาชื่อ นางสา
ปีพ.ศ.๒๔๙๑เข้าบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านขาม ขณะนั้นพระครูศรีสัทธารมณ์ (หลวงปู่แสง สิริปัญโญ) ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอจอมพระ ท่านเป็นเกจิในยุคนั้นที่เก่งมาก มีวิชาอาคมอย่างมาก ขนาดคนที่โดนของแทบเป็นบ้าเป็นหลัง ท่านทำน้ำมนต์ให้อาบยังหายได้ ยิ่งคนไหนที่เดินทางมาจากแดนไกล ท่านสามารถรู้ล่วงหน้าและมายืนรอหน้าวัดโดยไม่ต้องมีใครบอก
เมื่ออายุ 20 ปีได้อุปสมบท โดยมีหลวงปู่แสง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวัง อินทวฺโส วัดสัทธารมณ์ เป็นพระกรรมวาจารย์ พระสารี อคฺคญาโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า "คมฺภีรปญฺโญ" หลังบวชได้รับการถ่ายทอดด้านวิปัสสนากรรมฐานและคาถาอาคมจากหลวงปู่แสงจนหมดสิ้นทุกอย่าง จากนั้นไปฝากตัวกับหลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพารามเพื่อศึกษาวิชาอสุภกรรมฐานขั้นสูง
และฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อมุม อินทปัญโญ วัดปราสาทเยอร์ ศรีสะเกษเพื่อศึกษาวิชาล่วงรู้วาระจิตคน และศาสตร์ต่างๆจนสำเร็จ
ต่อมาท่านเดินทางเข้าไปในประเทศกัมพูชา ตามคำแนะนำของหลวงพ่อมุม โดยระหว่างทางได้ฝึกฝนวิชาที่เรียนมาทั้งพุทธาคมและกรรมฐานจนเชี่ยวชาญ ท่านเล่าว่ามีครูบาอาจารย์เยอะ ลองบ้างเรียนบ้างอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ จนเป็นเรื่องปกติ โดยฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์ที่พบระหว่างทางหลายท่านเพื่อเรียนวิชาต่างๆ หนึ่งในนั้นคือพระเดินธุดงค์ท่านหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ) จำได้เพียงว่าเป็นคนพระนครศรีอยุธยา ท่านได้เรียนวิชาทำตะกรุด,เบี้ยแก้,ทำน้ำมนต์และวิชากรรมฐานจนมีความเชื่ยวชาญสามารถปลุกเสกได้
ท่านใช้เวลาเดินธุดงค์ยาวนานถึง ๗ ปี ได้ข่าวว่าพระอุปัชฌาย์มรณภาพลงจึงเดินทางกลับวัดบ้านขามและได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๐๐ ขณะมีอายุเพียง ๒๗ ปี ซึ่งท่านได้พัฒนาวัด ช่วยเหลือปัดเป่าทุกข์ร้อนให้ชาวบ้านสืบมา และถือสรงน้ำปีละครั้ง ในวันที่ 13 เมษายนทุกปีเท่านั้น ตามรอยครูบาอาจารย์ของท่าน หลวงปู่ท่านยังเป็นสหธรรมิกกับพระสังฆราชประเทศกัมพูชา และหลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธ บาทเขาพนมดินอีกด้วย ท่านทั้งสองยังไปมาหาสู่พบปะสนทนาธรรมกันอยู่เป็นประจำ
การปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นเจ้าอาวาสวัดสัทธารมณ์,เป็นเจ้าคณะตำบลบุแกรง และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอจอมพะ
สมณศักดิ์ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ในราชทินนามที่ "พระครูพัฒนสารคุณ" และเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลในราชทินนามเดิม
วาระสุดท้ายหลวงปู่สอถึงแก่มรณภาพด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน เมื่อเวลา ๒๑.๒๖ นาที ในวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ สิริอายุ ๙๓ ปี พรรษา ๗๓

Comments