“หลวงปู่ทอง ปภากโร"สายธรรม"สมเด็จลุน
- อ.อนุชา ทรงศิริ
- 5 ม.ค. 2564
- ยาว 1 นาที

ปี2564 มาน้อมนำรำลึกถึงคุณงามความดี พระเกจิชื่อดัง มีอายุพรรษาอาวุโสท่านเพิ่งละสังขารไปเมื่อปี 25 63 นำประวัติของแต่ละท่านมาบันทึกไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและเคารพกราบไหว้บูชาขอพร
หลวงปู่ทอง ปภากโร" เกจิ6แผ่นดินวัดบ้านคูบ จ.ศรีสะเกษ ศิษย์สายธรรม"สมเด็จลุน"สปป.ลาว หลวงปู่ทอง ปภากโร" วัดบ้านคูบ หมู่ 3 ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ สิริอายุ115 ปี 21 พรรษา หลวงปู่ทองเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวศรีสะเกษให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระเถระที่สันโดษ พูดน้อย มีความเป็นอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย อีกทั้งยังเป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่สมเด็จลุน บรมครูผู้วิเศษแห่งนครจำปาศักดิ์ ฝั่ง สปป.ลาว ท่านเกิดในสกุล "สิงห์ชอบ" เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2449 เป็นชาวบ้านคูบ หมู่ 3 ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง โดยกำเนิด บิดาชื่อ "นายดอ" มารดาชื่อ "นางสิงห์" มีอาชีพทำนา เรียนจบชั้น ป.4
ปี2513 ขณะมีอายุ 49 ปีเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ที่วัดบ้านคูบ บวชได้นานหลายปีจนได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านคูบ แต่ลาออกและลาสิกขาไปใช้ชีวิตฆราวาส ต่อมาขณะมีอายุ 72 ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้งที่วัดสว่างวารีรัตนาราม โดยมีพระครูสุทธิธรรม หรือหลวงปู่วัลลภ เจ้าคณะอำเภอน้ำเกลี้ยง เป็นพระอุปัชฌาย์
ในช่วงที่หลวงปู่เดินจาริกธุดงค์อยู่ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ธุดงค์ไกลขึ้นไปจนถึงป่าลึกที่ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา เพื่อทำความเพียรให้เกิดสติปัญญา เพื่อการหลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา และอุปทานทั้งปวงนานประมาณ 1ปี เมื่อพิจารณาเห็นสมควรแก่การปฏิบัติแล้ว ท่านจึงธุดงค์จากประเทศลาวกลับมายังประเทศไทย เดินข้ามเขตด้าน จ.อุบล ราชธานี สู่บ้านเกิดที่บ้านคูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ
ท่านมีนิสัยสันโดษ มักน้อย และมีความพาก เพียรพยายาม สบงและจีวรที่นุ่งห่มก็นิยมใช้ของเก่า สิ่งของต่างๆที่มีผู้ถวาย ถ้ามีประโยชน์แก่พระภิกษุรูปอื่นๆ ท่านก็ให้ต่อไป ของสิ่งใดที่มีผู้ถวายไว้ ถ้ามีใครอยากได้แล้วออกปากขอ ท่านก็ให้ทันที
ทั้งนี้ ก่อนละสังขาร หลวงปู่ทองได้สร้างเจดีย์บรรจุสรีระสังขารขนาดสูง 18เมตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ท่านได้พูดกับศิษย์ไว้ว่า ท่านจะไปสิ้นเดือนนี้ คือวันที่ 30 พ.ย. วันสิ้นเดือนเป็นวันพระใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดเสมือนหนึ่งท่านรู้วันมรณภาพของท่านเอง
Comments