top of page
ค้นหา

“อาจารย์วันชัย ตันติสิรินันท์” ฆราวาสสาย"อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" สมัยนั้นคนที่เป็นลูกศิษย์ "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" ผู้สร้างเหรียญพรหมที่หายาก ค่านิยมสู

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 8 มี.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

มารู้จัก “อาจารย์วันชัย ตันติสิรินันท์”

ฆราวาสสาย"อาจารย์เฮง ไพรวัลย์"

สมัยนั้นคนที่เป็นลูกศิษย์ "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" ผู้สร้างเหรียญพรหมที่หายาก ค่านิยมสู มีน้อยมาก และก็เป็นเหรียญพรหมที่โด่งดังที่สุดในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันหาชมได้ยาก

คนที่เป็นศิษย์เมื่อเริ่มมีครอบครัว และ แตกหน่อลูกหลาน วัตถุมงคลของ อาจารย์เฮง ก็ไม่มีเพราะท่านสร้างน้อย เหตุเพราะค่าครูสูง คนสมัยก่อนที่เล่นของ รู้ทุกคน เพราะสมัยก่อนสร้างเป็นรายบุคคลไป ไม่ได้ทำออกมาเป็นร้อยๆ ซึ่งในการทำวัตถุมงคลแต่ละครั้งจะต้องมี หัวหมู บายศรี ของไหว้ เล็กใหญ่ มากน้อยตามแต่ครูอาจารย์ของแต่ละองค์

ในหมู่ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ก็เรียนวิชาทุกคน ได้มากบ้างน้อยบ้าง ก็อยู่ที่พรสรรค์ของแต่ละคน "ร้อยโทอนันต์ ตันติสิรินันท์" ผู้เป็นบิดาของ "อาจารย์วันชัย ตันติสิรินันท์" ได้เห็นแววของ อาจารย์วันชัย ตั้งแต่เล็กๆว่าชื่นชอบและสนใจไหว้พระสวดมนต์ทางนี้ จึงนำบุตรชายไปฝากตัวเป็นศิษย์ "หลวงปู่สีห์ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา" ซึ่งเป็นศิษย์ผู้น้องของ "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ (อาจารย์เฮง ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ)" เพื่อเล่าเรียนวิชาความรู้ ในการสร้าง "พรหม" ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ มีบุญญาฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์

หลวงปู่สีห์ วัดสะแก เป็นองค์เดียวเท่านั้นที่ได้ร่วมสร้างและเสก รวมถึงลงเลขยันต์คาถาใน "เหรียญพรหม อ.เฮง ไพรวัลย์" อีกทั้งยังได้ตำราวิชาคาถาของ "หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และ ตำราขอวัดประดู่ในทรงธรรม" สืบทอดต่อมาจาก "อ.เฮง ไพรวัลย์" อีกด้วย

พอ "อาจารย์วันชัย" อายุได้ประมาณ 21 ปึ ได้เล่าเรียนคาถาและการลง "นะ" ต่างๆได้แม่นยำ รวมทั้งบท "รัตนมาลา" ซึ่งเป็นบทหัวใจ ของครูบาอาจารย์ทั้งหลายในสมัยก่อนที่จะต้องท่องได้ ซึ่งตามโบราณท่านกล่าวไว้ว่า "ผู้ใดจะศึกษาพระเวท ต้องบูชาพระพรหม เพราะท่านเป็นผู้ถือหรือครอบครองพระคัมภีร์ "รัตนมาลา" เพราะท่านคือบรมครู ของครูทั้งหลาย

ถ้าใครไม่ได้พระคาถา "รัตนมาลา" แล้วมาสร้าง "พระสหบดีพรหม" เมื่อสร้างออกมาก็ได้เพียงรูปท่าน แต่ไม่ใช่องค์ท่าน "พระพรหม" จึงไม่ค่อยมีผู้ใดสร้างได้สำเร็จ พอสิ้นท่าน "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ที่มี "เหรียญหรือตะกรุด" ใช้บูชาอยู่ พอมาถึงรุ่นลูกก็เริ่มสึก แตกหัก เสียหาย

ขณะนั้นอายุ "หลวงปู่สีห์" ก็เริ่มมากขึ้น บิดาอาจารย์วันชัย กับเพื่อน จึงได้ขออนุญาติ "หลวงปู่สีห์ วัดสะแก" สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์เชิดชูครูบาอาจารย์ว่าวัตถุมงคลชิ้นนี้เป็นของหลวงปู่สีห์ ซึ่งหลวงปู่สีห์ ท่านได้เห็นดีด้วย

พระพรหม ได้นามว่า ธาดา แปลว่า ผู้สร้าง และ วิธาดา แปลว่า ผู้เลี้ยง ในคัมภีร์ กล่าวว่า พระพรหม มักสถิตอยู่เหนือ ดอกบัง ทรงพระนามว่า กมลาสน์ แปลว่า ผู้ถือดอกบัวเป็นอาสนะ

พระพรหม ถือว่าเป็น ผู้ทรงสร้างโลก มักปรากฏเครื่องทรงใหญ่ ประกอบด้วย สร้อยสังวาลย์ ทับทรง พาหุรัด ทรงกุลฑล มี 4 พักตร์ 8 กร ทรงถือศัตราวุธเทพ และสิ่งมงคล ประกอบด้วย คฑา ตรี จักร์ สังข์ พระขรรค์ คันศร ลูกศร พิณ 3 สาย ลูกประคำ พระคัมภีร์ คณโฑหม้อน้ำมนต์ จึงถือว่า พระพรหมเป็นบรมครูในสรรพสศาสตร์วิชาการต่าง ๆ เรียกกันว่า ศิลปะศาสตร์ 18 แขนงวิชา อีกฐานะหนึ่งด้วย

เหรียญท้าวมหาพรหม หลวงปู่สีห์ พินฺทาสุวณฺโณ จัดสร้างตามแบบอย่างของ อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ฆราวาสคณาจารย์ผู้เรืองพระเวทเดช พระคาถาอาคมแบบมหาพรหม หรือ เหรียญพระพรหม

เหรียญท้าวมหาพรหม หรือ เหรียญพระพรหม จัดสร้างในวาระที่ หลวงปู่สีห์ ฉลองสิริอายุมงคลวัฒนะครบ 82 พรรษา ในปี พ.ศ.2520 (บางตำรากว่าเป็นปี 2519) ในครั้งนั้นจัดสร้างแบบโบราณ

รอยจารด้านหลังเหรียญปรากฏเป็นองค์ยันต์เฑาะว์มหาพรหม ขัดเส้นสายลายยันต์รอบเป็นดอกจันทร์ หรือเป็นรูปจักรพระพรหม ที่เรียกสูตรอย่างพิศดารให้เห็นอย่างเด่นชัด รวมถึงองค์ยันต์จตุโร องค์ยันต์ "นะวิเศษ" ต่าง ๆ รายรอบด้วยอักขระหัวใจพระคาถาที่สำคัญในศาสตร์สายวิชา หากถอดพระคาถาทั้งหน้าและหลังเหรียญ จะได้ประจักษ์ในแก่นแท้ในหัวใจแห่งอานุภาพที่ล้ำลึก

มักได้ยินคำกล่าวที่ว่า “กระแสอยู่ไม่นานตำนานอยู่ตลอดไป”


 
 
 

ความคิดเห็น


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page