top of page
ค้นหา

สุดยอดอมตะเครื่องราง “วัวธนูอาคม” ตำรับหลวงพ่อพูล

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 6 ม.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที














สืบทอดพุทธาคม รังสรรค์รุ่นแรก ปี 2551สิ่งมงคลดีปีฉลู

สุดยอดเครื่องรางของขลัง “วัวธนูอาคม” ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ที่มีความศรัทธาทั่วประเทศ โดยเฉพาะของ "พระมงคลสิทธิการ หรือหลวงพ่อพูล อัตตะรักโข" สุดยอดพระอมตะเถราจารย์แห่งวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นับว่ามาแรงที่สุด

นับเป็นสุดยอดเครื่องรางของขลัง ที่ทรงพลังอันศักดิ์สิทธิ์ รังสรรค์ขึ้นโดย พระคณาจารย์หลายยุคสมัยไม่ว่าจะเป็นของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม โดยศิษยานุศิษย์ได้อนุรักษ์สืบสานมาจนถึงยุคปัจจุบัน

"วัวธนูตำรับหลวงพ่อพูล" ที่สร้างโดย "หลวงพี่น้ำฝน" ทายาทศิษย์เอก เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมรูปปัจจุบันนั้น ท่านสร้างขึ้นเป็นเนื้อโลหะรมดำ และที่ใต้ฐานจะอุดครั่ง พร้อมหญ้าคา

กล่าวสำหรับวัวธนู นับเป็นเครื่องรางที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีพุทธคุณทางด้านค้าขาย แคล้วคลาดปลอดภัย สมัยโบราณเชื่อกันว่า วัวธนูคือเครื่องราง ที่บรรดาพระคณาจารย์ รังสรรค์ปั้นแต่งขึ้นเป็นรูป "วัว" ส่วนที่มีคำว่า "ธนู" พ่วงเข้ามาด้วยนั้น เนื่องเพราะเมื่อผู้มีวิชาปล่อยวัวอาถรรพ์นี้ออกไปทำร้ายผู้อื่น หุ่นวัวจะพุ่งไปในอากาศ ในขณะนั้นสภาพของหุ่นวัวธนูจะย่นย่อลงเป็น "ปรมาณู" วิ่งตรงไปยังเป้าหมาย

ผู้มีอาคมนิยมมีไว้ใช้เป็นทหารผี หรือเฝ้าบ้าน โดยแต่ละสำนักจะใช้คาถากำกับ และมีความเชื่อกันว่าต้องเซ่นไหว้ เพราะมีวิญญาณสิ่งสู่อยู่ หากไม่ไหว้ จะทำให้หุ่นไม่มีเรี่ยวแรงอิทธิฤทธิ์ และหากเป็นหุ่นผี เจ้าของอาจโดนเล่นงานถึงตายได้

การเซ่นไหว้วัวธนู ท่านให้หาหญ้าคาเจ็ดก้านหรือ 7 ใบ แต่ละใบต้องทำการขมวดปลาย

ขณะขมวดปลายนั้นให้กลั้นหายใจ แล้วท่องพระคาถาอุปคุตมัดมารสั้นๆ ว่า "อิมัง อังคะพันธะนัง อธิฏฐามิ" ปมของทุกก้านให้เสกด้วยคาถานี้ทั้ง 7 ใบ ถวายพร้อมน้ำเปล่า ในส่วนของน้ำเปล่านี้ เมื่อลามาแล้ว อย่าทิ้ง ให้ใช้ประพรมหน้าร้านขายของดีนัก หากป่วยไข้ขอมาดื่มกินจะหายเช่นกัน

การบูชาวัวธนู หากต้องการเพิ่มความขลัง ต้องสวดคาถา นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) มะ ทิ สุ ตัง (3 จบ) ถวายด้วยหญ้าแห้ง, น้ำ

เครื่องรางของขลัง วัวธนูตำรับหลวงพ่อพูล ได้นำเข้าพิธีปลุกเสกใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พ.ย.51 ปลุกเสกยาวนานตลอดทั้งคืน การปลุกเสกเป็นการรวมพลังพระเถราจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต วัวธนูอาคม ตำรับหลวงพ่อพูล อนุสรณ์ ครบรอบ 4 ปี หลวงพ่อพูลละสังขาร และที่สำคัญได้มีการโยงสายสิญจน์จากพระประธานในอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ และจากสังขารของหลวงพ่อพูล เพื่อเป็นการอัญเชิญบารมีมาสู่วัตถุมงคลรุ่นนี้

พิธีเริ่มเวลา 17.59 น. พระพิธีธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ สวดคาถามหาพุทธาภิเษก เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ กทม. ประธานจุดเทียนชัย พระเถราจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตประกอบด้วย หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม หลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร จ.นครปฐม หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อนะ วัดหนองบัว จ.ชัยนาท หลวงพ่อไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก จากนั้น เวลา19.59 น.พระพิธีธรรม วัดสุทัศเทพวราราม สวดคาถาทิพมนต์ พระเถราจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตประกอบด้วย หลวงพ่อจำนงค์ วัดสัมพันธวงศ์ กทม. หลวงพ่อแวว วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา หลวงพ่อแย้ม วัดไร่ขิง จ.นครปฐม หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.อยุธยา หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์ หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม จ.สมุทรสงคราม หลวงพ่อสมชาย วัดปริวาส กทม. หลวงพ่อนรินทร์ วัดหัวลำโพง กทม. หลวงพ่อเสาร์ วัดดอนหญ้านาง จ.อยุธยา

จวบจนเวลา21.59 น.พระพิธีธรรม วัดนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ สวดคาถาเมตตามหานิยม พระเถราจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตประกอบด้วย หลวงพ่อธงชัย วัดไตรมิตร กทม. หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี หลวงพ่อทองหล่อ วัดคันลัด จ.สมุทรปราการ หลวงพ่อเก๋น วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม หลวงพ่อวุฒิโชค วัดตรีทศเทพ กทม. หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม หลวงพ่อสำอางค์ วัดบางพระ จ.นครปฐม หลวงพ่อสำราญ วัดเสาธง จ.อยุธยา จากนั้นพระเดชพระคุณ พระพรหมสุธี วัดสระเกศ กทม. ดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จพิธี วัวธนูอาคม ตำรับหลวงพ่อพูล อนุสรณ์ ครบรอบ 4 ปี หลวงพ่อพูลละสังขาร สุดยอดมงคลแห่งปีฉลูอย่างแท้จริง

เนื่องในโอกาสความเป็นมงคลปีฉลูนี้ วัดไผ่ล้อมโดย หลวงพี่น้ำฝน ได้นำวัตถุมงคล “วัวธนูอาคม ปี 2551” ที่เก็บรักษาไว้และผ่านพิธีอีกหลายวาระจำนวนหนึ่ง ทั้งเลี่ยมใส่กรอบและไม่เลี่ยม ออกให้ประชาชน นักสะสมทั่วไปร่วมบุญบูชา สนใจติดต่อร่วมบุญบูชาได้ที่วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โดยตรง




 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

留言


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page