top of page
ค้นหา

มุทิตา94ปี พระพรหมมงคลวัชราจารย์(ไสว) พระอนุชาในสมเด็จพระสังฆราช(อัมพร)

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
  • ยาว 1 นาที

มุทิตา94ปีพระพรหมมงคลวัชราจารย์(ไสว)

พระอนุชาในสมเด็จพระสังฆราช(อัมพร)


ทึมข่าว"คัมภีร์นิวส์"ขอน้อมถวายมุทิตาสักการะ เนื่องในโอกาสเจริญอายุวัฒนมงคล ๙๔ ปี พระพรหมมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่ไสว วฑฺฒโน) เจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค๑๔-๑๕ (ธรรมยุต) พระอนุชาในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร ป.ธ.๖)สมเด็จพระสังฏราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์


ท่านมีนามเดิมว่า "ไสว ประสัตถพงศ์" เกิดเมื่อวันพุธที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ปีมะแม ที่หมู่ ๑ ต.บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อนายนับและนางตาล ประสัตถพงศ์ ครอบครัวมีพี่น้อง ๙ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ ในช่วงเยาว์วัยเข้าเรียน ป.เตรียม ก่อนที่จะมาจบชั้น ป.๔ จากโรงเรียนวัดพเนินพลู ตำบลบางป่า ซึ่งเป็นโรงเรียนใกล้บ้านขณะอายุเพียง ๑๔ ปี เมื่อเรียนจบได้บอกกับโยมพ่อโยมแม่ว่าจะขอบวชเป็นสามเณร เพื่อศึกษาพระธรรมและอยากทดแทนพระคุณ โดยบรรพชาที่วัดตรีญาติ จ.ราชบุรี โดยมี พระครูเมธีธรรมานุยุต (เม้ย มันตาสโย) วัดราษฎร์เมธังกร เป็นพระอุปัชญาย์ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดศรีสุริยวงศาราม โดยมี พระศรีธรรมานุศาสตร์ เป็นพระอุปัชฌาย์


ท่านย้อนอดีตช่วงวัยเด็กว่า “ตอนแรกตั้งใจจะบวชเป็นสามเณรชั่วคราวแล้วก็จะไปเรียนต่อ แต่ปรากฏว่าโยมยายไม่ยอมให้สึก โดยโยมยายบอกว่าให้บวชอย่างนี้ดีแล้ว มองดูเณรสง่าดี ประกอบกับตอนนั้นมีเพื่อนสามเณรที่เรียนนักธรรมอยู่ด้วยกันหลายรูป อาตมาก็เลยเพลินกับการเรียนนักธรรม เรียนบาลี อาตมาชอบทั้ง ๒ อย่าง โดยสามารถจบนักธรรมดอกได้ในเวลาไม่นานส่วนบาลีที่จริงชอบ แต่ไม่ได้สอบเพราะสมัยนั้นครูบาลีหายาก ต้องไปขอจากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยส่งมา “อยู่แค่พรรษาเดียว ครูบาลีที่ขอไว้ก็กลับไป ซึ่งการเรียนบาลีต้องเรียนติดต่อกัน แต่พอไม่มีครูสอนก็เป็นอันต้องหยุด ยอมรับว่าท้อประกอบกับช่วงนั้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงนักด้วย”


ท่านอยู่รับใช้อุปัฏฐากพระศรีธรรมานุศาสตร์ (สุมัติเถระ) เจ้าอาวาสวัดตรีญาติจนกระทั่ง พ.ศ. ๒๔๙๑ พระศรีธรรมานุศาสตร์ ได้รับพระบัญชาจากพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศาราม ท่านก็ติดตามมาปรนนิบัติรับใช้ด้วย ครั้นเมื่อมาถึงวัดศรีสุริยวงศาราม พบว่าวัดกำลังทรุดโทรมอย่างหนัก เนื่องจากพิษภัยของการทิ้งระเบิดหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ เสนาสนะต่างๆ ถูกแรงระเบิดขาดการบูรณะ พระศรีธรรมานุศาสตร์และสามเณรไสวในฐานะลูกศิษย์ ได้อยู่รับใช้และร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาวัด แม้จะมีพระภิกษุในวัดเพียง ๕-๖ รูป จึงค่อยๆ ทำการบูรณะจนสภาพเริ่มฟื้นดีขึ้น


เกียรติคุณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้รับถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา


สมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูอุดมบัณฑิต

พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นเอกในราชทินนามเดิม ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสิริวัฒนสุธี พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวราภรณ์ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพสุเมธี ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมวุฒาจารย์ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระพรหมมงคลวัชราจารย์


ทุกวันนี้ ยังคงดำรงชีวิตด้วยความเรียบง่ายเช่นเดิมดุจเดียวกับพระเชษฐาคือสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) ที่ดำรงวัตรปฏิบัติอย่างเรียบง่าย

ree

 
 
 

ความคิดเห็น


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page